วานนี้ (10 ก.ย.56) เมื่อเวลา 06.30 น. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เดินทางกลับบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ภายหลังจากที่ได้เข้ารับการตรวจร่างกาย และรับการรักษาด้วยการผ่าตัดรอยโรคแผลเป็นที่ปอดด้านขวาบน เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ออกแถลงการณ์ว่า ผลการรักษาของพล.อ.เปรมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจของคณะแพทย์ หลังจากการผ่าตัดมีอาการดีขึ้นตามลำดับ การหายใจเป็นปกติ สามารถเริ่มทำกิจวัตรประจำด้วยตัวเองอย่างเป็นปกติ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา ซึ่งคณะแพทย์ได้ลงความเห็นว่า พล.อ.เปรม มีสุขภาพแข็งแรง และพร้อมที่จะกลับบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ได้
โดยพล.อ.เปรม ได้ลงลิฟท์มาจากห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ห้อง 801 อาคาร 8 อาคาร90 ปี สมเด็จย่า เพื่อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อเลกซัสสีเขียวขี้ม้า ป้ายทะเบียน ดส 4299 กรุงเทพมหานคร โดยทางโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้จัดชุดแพทย์ และรถพยาบาล เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้พล.อ.เปรมได้สวมเสื้อคอปกสีเหลืองอ่อน และมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยยกมือขวาทักทายอย่างเป็นกันเอง และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อ
อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็นตัวแทนมาต้อนรับและส่งพล.อ.เปรม
พล.ต.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม กล่าวภายหลังว่า พล.อ.เปรมลงมาจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และเอ่ยทักทาย สอบถามสารทุกข์สุกดิบ นายทหารที่รับใช้อยู่ในบ้านและบอกว่าคิดถึงบ้านมาก ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนภายในบ้านเพื่อให้ชุดแพทย์ที่ทางโรงพยาบาลส่งมาตรวจเช็คร่างกายอีกครั้ง
“ท่านบ่น อยากกลับบ้านตั้งแต่ผ่าตัดใหม่ๆ เพราะต้องนอนเฉยๆอยู่บนเตียง ก็คงรู้สึกเบื่อ ตามประสาคนแก่ทั่วไป แต่ตอนนั้นคณะแพทย์ต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน จึงแจ้งให้ท่านทราบถึงความจำเป็นที่ต้องนอนพักรักาาตัวที่โรงพยาบาลต่อ ซึ่งท่านก็เข้าใจ” พล.ต.พิศณุ กล่าวและว่า ถือว่าสภาพร่างกายพล.อ.เปรมเป็นปกติดี ทั้งนี้คณะแพทย์ได้กล่าวยืนยันกับ พล.อ.เปรม ว่า หลังจากการผ่าตัดครั้งนี้ อาการปวดแผลเป็นดังกล่าวจะไม่หวนกลับมาอีก และจะหายขาด นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ยังสามารถออกกำลังกายโดยเดินรอบๆบ้านได้ตามปกติ สำหรับอาหารการกิน หมอก็ไม่ได้ห้ามอะไร
โดยพล.อ.เปรม ได้ลงลิฟท์มาจากห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ห้อง 801 อาคาร 8 อาคาร90 ปี สมเด็จย่า เพื่อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อเลกซัสสีเขียวขี้ม้า ป้ายทะเบียน ดส 4299 กรุงเทพมหานคร โดยทางโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้จัดชุดแพทย์ และรถพยาบาล เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้พล.อ.เปรมได้สวมเสื้อคอปกสีเหลืองอ่อน และมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยยกมือขวาทักทายอย่างเป็นกันเอง และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อ
อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็นตัวแทนมาต้อนรับและส่งพล.อ.เปรม
พล.ต.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม กล่าวภายหลังว่า พล.อ.เปรมลงมาจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และเอ่ยทักทาย สอบถามสารทุกข์สุกดิบ นายทหารที่รับใช้อยู่ในบ้านและบอกว่าคิดถึงบ้านมาก ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนภายในบ้านเพื่อให้ชุดแพทย์ที่ทางโรงพยาบาลส่งมาตรวจเช็คร่างกายอีกครั้ง
“ท่านบ่น อยากกลับบ้านตั้งแต่ผ่าตัดใหม่ๆ เพราะต้องนอนเฉยๆอยู่บนเตียง ก็คงรู้สึกเบื่อ ตามประสาคนแก่ทั่วไป แต่ตอนนั้นคณะแพทย์ต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน จึงแจ้งให้ท่านทราบถึงความจำเป็นที่ต้องนอนพักรักาาตัวที่โรงพยาบาลต่อ ซึ่งท่านก็เข้าใจ” พล.ต.พิศณุ กล่าวและว่า ถือว่าสภาพร่างกายพล.อ.เปรมเป็นปกติดี ทั้งนี้คณะแพทย์ได้กล่าวยืนยันกับ พล.อ.เปรม ว่า หลังจากการผ่าตัดครั้งนี้ อาการปวดแผลเป็นดังกล่าวจะไม่หวนกลับมาอีก และจะหายขาด นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ยังสามารถออกกำลังกายโดยเดินรอบๆบ้านได้ตามปกติ สำหรับอาหารการกิน หมอก็ไม่ได้ห้ามอะไร
