วานนี้(10 ก.ย.56) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นชอบให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำภาคเหนือตอนล่าง ณ บริเวณพื้นที่ของศูนย์วิศวกรรมป่าไม้พิษณุโลก บ้านวังดินสอ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก บนเนื้อที่ประมาณ 460 ไร่
โดยในส่วนของกรมป่าไม้ นายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะนั้นในปี 2552 สมัยนายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรมว.ทรัพย์ ได้เสนอให้กรมป่าไม้ควรมีกิจกรรม ได้แก่ การจำลองวิถีชีวิต คนอยู่กับป่า การสาธิตการเพาะชำกล้าไม้ และการแจกจ่ายกล้าไม้ ฯลฯ โดยภายในศูนย์การเรียนรู้ฯควรจัดทำเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานตามภารกิจหลักของกรมป่าไม้ ทั้งงานด้านโครงการตามแนวพระราชดำริ งานด้านการอนุญาต งานด้านการป้องกันและปราบปราม งานด้านการส่งเสริมการปลูกป่า และงานด้านการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น
ต่อมาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ ได้อนุมัติงบประมาณในการจัดตั้งโครงการศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว โดยอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารนิทรรศการจำนวน 1 หลัง งบประมาณ 1,998,900 บาทและปรับปรุงภูมิทัศน์รอบๆศูนย์ฯ ประกอบด้วย เรือนเพาะชำกล้าไม้ ลานจอดรถ ห้องสุขา จำนวน 1,800,000 บาทเริ่มแรกยังไม่มีระบบไฟฟ้าและระบบน้ำ สำนักจัดการป่าชุมชนจึงได้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จำนวน 915,972บาท เพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำและหอพักน้ำ ขนาด 5 ลบ.ม. สำหรับบ่อบาดาลได้รับการสนับการขุดเจาะจากสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 7 จังหวัดกำแพงเพชร ภายในอาคารนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตคนอยู่กับป่า งานด้านป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพาะพันธุ์ไม้ยืนต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจัดนิทรรศการ บริเวณรอบๆ ศูนย์ฯโดยทำการปรับภูมิทัศน์ เพื่อทำเส้นทางศึกษา ซึ่งกรมป่าไม้ร่วมกับบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน)ได้เสนอโครงการป่าชุมชนปลูกต้นไม้ถวายแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน ที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินีฯ โดยบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีได้สนับสนุนงบประมาณสำหรับเพาะชำกล้าไม้ แจกจ่ายตามโครงการฯ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจำนวน 200,000 กล้า และสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเอนกประสงค์ เพื่อพัฒนาใช้สำหรับเป็นสถานที่จัดอบรม และศึกษาดูงานสำหรับหมู่บ้านป่าชุมชน เยาวชน และประชาชนผู้ที่สนใจเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของ
สิ่งเเวดล้อมกับการดำเนินชีวิต และประโยชน์ของป่าไม้ได้ดียิ่งขึ้น
โดยในส่วนของกรมป่าไม้ นายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะนั้นในปี 2552 สมัยนายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรมว.ทรัพย์ ได้เสนอให้กรมป่าไม้ควรมีกิจกรรม ได้แก่ การจำลองวิถีชีวิต คนอยู่กับป่า การสาธิตการเพาะชำกล้าไม้ และการแจกจ่ายกล้าไม้ ฯลฯ โดยภายในศูนย์การเรียนรู้ฯควรจัดทำเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานตามภารกิจหลักของกรมป่าไม้ ทั้งงานด้านโครงการตามแนวพระราชดำริ งานด้านการอนุญาต งานด้านการป้องกันและปราบปราม งานด้านการส่งเสริมการปลูกป่า และงานด้านการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น
ต่อมาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ ได้อนุมัติงบประมาณในการจัดตั้งโครงการศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว โดยอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารนิทรรศการจำนวน 1 หลัง งบประมาณ 1,998,900 บาทและปรับปรุงภูมิทัศน์รอบๆศูนย์ฯ ประกอบด้วย เรือนเพาะชำกล้าไม้ ลานจอดรถ ห้องสุขา จำนวน 1,800,000 บาทเริ่มแรกยังไม่มีระบบไฟฟ้าและระบบน้ำ สำนักจัดการป่าชุมชนจึงได้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จำนวน 915,972บาท เพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำและหอพักน้ำ ขนาด 5 ลบ.ม. สำหรับบ่อบาดาลได้รับการสนับการขุดเจาะจากสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 7 จังหวัดกำแพงเพชร ภายในอาคารนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตคนอยู่กับป่า งานด้านป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพาะพันธุ์ไม้ยืนต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้ ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจัดนิทรรศการ บริเวณรอบๆ ศูนย์ฯโดยทำการปรับภูมิทัศน์ เพื่อทำเส้นทางศึกษา ซึ่งกรมป่าไม้ร่วมกับบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน)ได้เสนอโครงการป่าชุมชนปลูกต้นไม้ถวายแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน ที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินีฯ โดยบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีได้สนับสนุนงบประมาณสำหรับเพาะชำกล้าไม้ แจกจ่ายตามโครงการฯ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจำนวน 200,000 กล้า และสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเอนกประสงค์ เพื่อพัฒนาใช้สำหรับเป็นสถานที่จัดอบรม และศึกษาดูงานสำหรับหมู่บ้านป่าชุมชน เยาวชน และประชาชนผู้ที่สนใจเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของ
สิ่งเเวดล้อมกับการดำเนินชีวิต และประโยชน์ของป่าไม้ได้ดียิ่งขึ้น
