วานนี้(9 ก.ย.56) ที่รัฐสภา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งได้พิจารณาถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ว่า ขณะนี้พบว่ามีความล่าช้าจากการดำเนินการก่อสร้าง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ จำนวน 90 ไร่ แต่ขณะนี้กลับส่งมอบได้เพียง 47 ไร่ ทำให้ความคืบหน้าตั้งแต่การเซ็นต์สัญญา วันที่ 8 มิ.ย.- 3 ก.ย. 56 จำนวน 88 วัน ต้องคืบหน้า 3.84% แต่คืบหน้าเพียง 0.34% ล่าช้ากว่าแผน 3.5% โดยพื้นที่ที่พบว่ามีการส่งมอบช้ากว่าแผนมากที่สุดคือ ร.ร.โยธินบูรณะ จำนวน 426 วัน โรงเรียนขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) 130วัน บ้านพักโรงเรียน ขส.ทบ. 338 วัน กองร้อยขนส่งเรือ 60 วัน
ซึ่งความล่าช้าในการส่งคืนพื้นที่เหล่านี้ ทำให้เกิดความเสียหายใน 2 ส่วนคือ ส่วนที่1. ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ คือบริษัทCAMA และค่าจ้างผู้ควบคุมงาน บริษัทATTA Consortium วันละ 332,140 บาท รวมเป็นเงิน 145 ล้านบาท ส่วนที่ 2. ค่าเช่าอาคารดีพร้อม ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไปเช่า ไว้เดือนละ 3.8 ล้านบาท ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย 55.1ล้านบาท ซึ่งรวมืทั้ง2ส่วนจากความล่าช้าในการก่อสร้างอาคารัฐสภาแห่งใหม่ จะสร้างความเสียหายรวมเป็นเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาและประสานงานในการกำกับดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องติดตามดูแลความคืบหน้าให้เป็นไปตามกำหนดเพราะถือเป็นหน้าที่ของทั้ง 3 คน
“ความเสียหายของการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเฉพาะนายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภาในฐานะประมุขสูงสุดต้องรับผิอชอบไม่ใช่จะมีตะบี้ตะบันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบนี้ ไม่เช่นนั้นเราจะมีประธานไว้ทำอะไร เพื่ออะไร หรือท่านมาทำเพื่อใคร” โฆษก กมธ.กิจการสภาฯ กล่าว
ซึ่งความล่าช้าในการส่งคืนพื้นที่เหล่านี้ ทำให้เกิดความเสียหายใน 2 ส่วนคือ ส่วนที่1. ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ คือบริษัทCAMA และค่าจ้างผู้ควบคุมงาน บริษัทATTA Consortium วันละ 332,140 บาท รวมเป็นเงิน 145 ล้านบาท ส่วนที่ 2. ค่าเช่าอาคารดีพร้อม ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไปเช่า ไว้เดือนละ 3.8 ล้านบาท ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย 55.1ล้านบาท ซึ่งรวมืทั้ง2ส่วนจากความล่าช้าในการก่อสร้างอาคารัฐสภาแห่งใหม่ จะสร้างความเสียหายรวมเป็นเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาและประสานงานในการกำกับดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องติดตามดูแลความคืบหน้าให้เป็นไปตามกำหนดเพราะถือเป็นหน้าที่ของทั้ง 3 คน
“ความเสียหายของการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเฉพาะนายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภาในฐานะประมุขสูงสุดต้องรับผิอชอบไม่ใช่จะมีตะบี้ตะบันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบนี้ ไม่เช่นนั้นเราจะมีประธานไว้ทำอะไร เพื่ออะไร หรือท่านมาทำเพื่อใคร” โฆษก กมธ.กิจการสภาฯ กล่าว
