ASTVผู้จัดการรายวัน -หุ้นผันผวน เหวี่ยงตัวทั้งแดนบวกและลบ พอร์ตโบรกฯเทขายทำกำไร หลังวันก่อนช้อนร่วมพันล้าน ด้านต่างชาติกลับเข้าซื้อ 1.3 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ตรึงเครียดในซีเรียสร้างแรงกดดันตลาดทั่วโลก จับตาผลสรุปสภาครองเกรส 9ก.ย. และมาตการQE3 ที่คาดลดวงเงินหมื่นล้านเหรียญ ประเมินพรุ่งนี้แกว่งตัวผันผวนต่อ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (3ก.ย.) ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ทั้งแดนบวกและลบ โดยปิดที่ระดับ 1,315.41 จุด ลดลง 8.29 จุด หรือ -0.63% มูลค่าการซื้อขาย 39,842.55 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯให้ความเห็นว่า เกิดจากแรงเทขายทำกำไรจากวันก่อน(2ก.ย.) ดัชนีปรับตัวขึ้นไปมาก ขณะเดียวกัน เป็นการปรับตัวลงจากในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในยุโรป หลังมีข่าวพบการยิงขีปนาวุธ 2 ลูกกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
“ตอนนี้ตลาดฯกำลังรอผลการประชุมสภาคองเกรสของสหรัฐเรื่องการโจมตีซีเรีย,และการลดมาตรการ QE3 ส่วนในประเทศนักลงทุนรอดูผลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทด้วย”
โดย สถาบัน และนักลงทุนต่างชาติ กลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1,636.98 ล้านบาท และ 1,306.94 ล้านบาท ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,697.16 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ขายสุทธิ 1,246.76 ล้านบาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบ นักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้เข้าซื้อมากนัก ทำให้วอลุ่มเทรดน้อยมาก ทั้งนี้ยังต้องติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ , ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสนี้ และตัวเลขเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรด้วย โดยหากออกมาดีหรือดีกว่าคาด ก็เชื่อว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.มีแนวโน้มจะลดขนาด QE ซึ่งประเมินว่าจะลดลง 10,000 ล้านเหรียญ/เดือน
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวับตลาดในยุโรป หลังมีข่าวออกมาว่าระบบเรดาห์ของรัสเซียตรวจพบการยิงขีปนาวุธ 2 ลูกจากกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันออก ถือว่ามีผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อนักลงทุน และตอนนี้ตลาดฯกำลังรอผลการประชุมสภาคองเกรสเรื่องการโจมตีซีเรีย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ โดยทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าไม่น่าจะผ่าน
นอกจากนี้ ตลาดรอความชัดเจนในการปรับลดมาตรการ QE. ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)รวมทั้งการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่จะนำเข้าสู่สภาฯด้วย ทำให้แนวโน้มการลงทุนวันนี้(4 ก.ย.) คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,300 จุด แนวต้าน 1,330-1,350 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (3ก.ย.) ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ทั้งแดนบวกและลบ โดยปิดที่ระดับ 1,315.41 จุด ลดลง 8.29 จุด หรือ -0.63% มูลค่าการซื้อขาย 39,842.55 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯให้ความเห็นว่า เกิดจากแรงเทขายทำกำไรจากวันก่อน(2ก.ย.) ดัชนีปรับตัวขึ้นไปมาก ขณะเดียวกัน เป็นการปรับตัวลงจากในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในยุโรป หลังมีข่าวพบการยิงขีปนาวุธ 2 ลูกกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
“ตอนนี้ตลาดฯกำลังรอผลการประชุมสภาคองเกรสของสหรัฐเรื่องการโจมตีซีเรีย,และการลดมาตรการ QE3 ส่วนในประเทศนักลงทุนรอดูผลการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทด้วย”
โดย สถาบัน และนักลงทุนต่างชาติ กลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1,636.98 ล้านบาท และ 1,306.94 ล้านบาท ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,697.16 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนทั่วไปที่ขายสุทธิ 1,246.76 ล้านบาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งในกรอบแคบ นักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้เข้าซื้อมากนัก ทำให้วอลุ่มเทรดน้อยมาก ทั้งนี้ยังต้องติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ , ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสนี้ และตัวเลขเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรด้วย โดยหากออกมาดีหรือดีกว่าคาด ก็เชื่อว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.มีแนวโน้มจะลดขนาด QE ซึ่งประเมินว่าจะลดลง 10,000 ล้านเหรียญ/เดือน
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวับตลาดในยุโรป หลังมีข่าวออกมาว่าระบบเรดาห์ของรัสเซียตรวจพบการยิงขีปนาวุธ 2 ลูกจากกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันออก ถือว่ามีผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อนักลงทุน และตอนนี้ตลาดฯกำลังรอผลการประชุมสภาคองเกรสเรื่องการโจมตีซีเรีย ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ โดยทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าไม่น่าจะผ่าน
นอกจากนี้ ตลาดรอความชัดเจนในการปรับลดมาตรการ QE. ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)รวมทั้งการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่จะนำเข้าสู่สภาฯด้วย ทำให้แนวโน้มการลงทุนวันนี้(4 ก.ย.) คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,300 จุด แนวต้าน 1,330-1,350 จุด
