ASTVผู้จัดการรายวัน-แอดมินเวปเพจ "มีด่านบอกด้วย" ควงปืนบุกเดี่ยวชิงทองร้านทองเยาวราช สาขาบิ๊กซี อุบลราชธานี กวาดไปกว่า 100 ล้าน ตำรวจตามจับได้หลังก่อเหตุไม่ถึง 2 ชั่วโมง เหตุละโมบ พาทำแผน บอกหน้าตาเฉยยังไม่รู้จะเอาไปทำอะไร แต่เชื่อมีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ตำรวจกันแฟนสาวเป็นพยาน แม้ขนทองขึ้นแท็กซี่ แต่อ้างจะเอาไปคืนให้ที่ร้าน
เมื่อเวลา 09.15 น. วานนี้ (28 ส.ค.) พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายใช้ปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองเยาวราช เลขที่ 15/11 ถนนนิวาสวิถี ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ต.ในเมือง จึงไปตรวจที่เกิดเหตุ พบนายเอกรัตน์ กนกวรรณากร อายุ 61 ปี เจ้าของร้านยืนรอเจ้าหน้าที่
นายเอกรัตน์เล่าว่า เวลาประมาณ 07.00 น. คนร้ายเป็นชาย ใช้คีมตัดแม่กุญแจคล้องประตูเหล็กม้วนเข้ามาในร้าน และใช้ปืนพกแบบลูกโม่จี้ตัวคนรับใช้ที่กำลังทำความสะอาดร้าน ให้พาขึ้นไปบนห้องนอนของตน และบังคับให้ตนมอบลูกกุญแจ พร้อมรหัสตู้เซฟเก็บทองรูปพรรณ จากนั้นขังตน ภรรยา และคนรับใช้รวม 4 คนไว้ แล้วลงมาเปิดเซฟขนทองรูปพรรณ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เงินสดอีก 1.5 ล้านบาท ขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่านีโอหลบหนีไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ในซอยชยางกูร 40 ถนนชยางกูร ต.ในเมือง ตรวจสอบพบชื่อนายศราวุธ กาศกุล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347 ถนนพิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ครอบครอง สอบถามบ้านใกล้เคียงทราบว่า มีคนขับรถยนต์โตโยต้าโซลูน่า ทะเบียน กต 1512 อุบลราชธานี มารับนายศราวุธออกไป เมื่อตามไปบ้านพัก พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ ตรวจค้นในบ้านพบนายศราวุธ พร้อมทองรูปพรรณที่จี้มาจำนวนหนึ่ง
ส่วนทองที่เหลือ น.ส.อรชร คงมาลัย อายุ 19 ปี แฟนสาวได้ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ และโบกรถแท็กซี่หนีไปก่อนตำรวจมาถึงไม่กี่นาที แต่เจ้าหน้าที่ตามจับน.ส.อรชรได้บริเวณถนนแจ้งสนิท ต.ในเมือง ขณะนั่งรถมุ่งหน้าไปสถานีขนส่ง
สอบสวนนายศราวุธสารภาพว่า วางแผนปล้นทองมาเป็นเวลาหลายวัน โดยแฟนไม่รู้เห็นด้วย เมื่อลงมือพบมีทองจำนวนมาก จึงใช้เวลานานในการลำเลียงทองออกจากร้าน ระหว่างหลบหนีได้ใช้วิทยุดักฟังข่ายตำรวจ ทราบว่าเจ้าหน้าที่ไล่ล่ามาใกล้ถึงตัว จึงมอบทองให้แฟนหลบหนีไป แต่ก็ถูกจับได้
สำหรับนายเอกรัตน์ เจ้าของร้านทอง เคยตกเป็นข่าวลืมทองคำรูปพรรณไว้ในรถแท็กซี่ เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาด้วย
เที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นำตัวนายศราวุธ ไปทำแผนโดยนำชี้จุดตัดแม่กุญแจ จับตัวคนรับใช้ไปเคาะประตูเรียกเจ้าของร้าน รื้อค้นเอาทองรูปพรรณที่เก็บไว้ในตู้เซฟขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง
นายศราวุธกล่าวว่า ตั้งใจจะเอาทองแค่เต็มกระเป๋าเป้ที่เตรียมมา แต่เมื่อเห็นทองคำจำนวนมาก จึงกวาดเอาไปให้มากที่สุด โดยใส่ในกระเป๋าคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่ในร้าน สาเหตุที่ถูกตามจับได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะระหว่างขนทองออกจากร้านเริ่มมีคนพลุกพล่าน ทำให้มีคนจำทะเบียนรถได้ และเมื่อขับรถจักรยานยนต์มาเปลี่ยนเป็นรถยนต์ที่หน้าหอพักโอบอ้อม ที่เช่าทิ้งไว้ในซอยชยางกูร 40 ถนนชยางกูร ก็มีตำรวจจราจรมาพบ เมื่อตรวจสอบทะเบียนจนทราบชื่อผู้ครอบครองรถ ทำให้ถูกติดตามจับได้หลังก่อเหตุเพียงชั่วโมงเศษ สำหรับทองคำที่ได้ไปยังไม่ได้วางแผนว่าจะเอาไปทำอะไร รู้แต่ว่ามีเงินมากก็สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง
ด้านนายเอกรัตน์ กล่าวระหว่างที่นายศราวุธจี้จับตัว ยังพูดเล่นว่าที่ร้านของตนมีทองมากเกินกว่าที่คิดไว้ และอยากรู้ว่าตำรวจจะจับตัวเองได้หรือไม่ด้วย
ส่วนน.ส.อรชร เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกันตัวไว้เป็นพยาน เพราะยังไม่มีหลักฐานร่วมกระทำความผิด ส่วนที่นำทองขึ้นรถแท็กซี่ น.ส.อรชรให้การจะนำไปคืนร้านที่นายศราวุธไปชิงมา ซึ่งจะสอบสวนให้ได้ความจริงต่อไป
สำหรับประวัตินายศราวุธ บิดามารดาเสียชีวิตหมดแล้ว ปัจจุบันอยู่กับยาย ซึ่งเป็นนายหน้าค้าที่ดิน มีฐานะดี โดยนายศราวุธพักอยู่กับแฟนสาว และไม่ได้ทำงานอะไร แต่เป็นคนชอบเล่นวิทยุสื่อสาร เคยถูกจับฐานมีวิทยุราชการไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นแอดมินเวปเพจ "มีด่านบอกด้วย" ซึ่งคอยบอกที่ตั้งด่านตำรวจจราจรสภ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เมื่อเวลา 09.15 น. วานนี้ (28 ส.ค.) พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายใช้ปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองเยาวราช เลขที่ 15/11 ถนนนิวาสวิถี ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ต.ในเมือง จึงไปตรวจที่เกิดเหตุ พบนายเอกรัตน์ กนกวรรณากร อายุ 61 ปี เจ้าของร้านยืนรอเจ้าหน้าที่
นายเอกรัตน์เล่าว่า เวลาประมาณ 07.00 น. คนร้ายเป็นชาย ใช้คีมตัดแม่กุญแจคล้องประตูเหล็กม้วนเข้ามาในร้าน และใช้ปืนพกแบบลูกโม่จี้ตัวคนรับใช้ที่กำลังทำความสะอาดร้าน ให้พาขึ้นไปบนห้องนอนของตน และบังคับให้ตนมอบลูกกุญแจ พร้อมรหัสตู้เซฟเก็บทองรูปพรรณ จากนั้นขังตน ภรรยา และคนรับใช้รวม 4 คนไว้ แล้วลงมาเปิดเซฟขนทองรูปพรรณ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เงินสดอีก 1.5 ล้านบาท ขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่านีโอหลบหนีไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ในซอยชยางกูร 40 ถนนชยางกูร ต.ในเมือง ตรวจสอบพบชื่อนายศราวุธ กาศกุล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347 ถนนพิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ครอบครอง สอบถามบ้านใกล้เคียงทราบว่า มีคนขับรถยนต์โตโยต้าโซลูน่า ทะเบียน กต 1512 อุบลราชธานี มารับนายศราวุธออกไป เมื่อตามไปบ้านพัก พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ ตรวจค้นในบ้านพบนายศราวุธ พร้อมทองรูปพรรณที่จี้มาจำนวนหนึ่ง
ส่วนทองที่เหลือ น.ส.อรชร คงมาลัย อายุ 19 ปี แฟนสาวได้ใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ และโบกรถแท็กซี่หนีไปก่อนตำรวจมาถึงไม่กี่นาที แต่เจ้าหน้าที่ตามจับน.ส.อรชรได้บริเวณถนนแจ้งสนิท ต.ในเมือง ขณะนั่งรถมุ่งหน้าไปสถานีขนส่ง
สอบสวนนายศราวุธสารภาพว่า วางแผนปล้นทองมาเป็นเวลาหลายวัน โดยแฟนไม่รู้เห็นด้วย เมื่อลงมือพบมีทองจำนวนมาก จึงใช้เวลานานในการลำเลียงทองออกจากร้าน ระหว่างหลบหนีได้ใช้วิทยุดักฟังข่ายตำรวจ ทราบว่าเจ้าหน้าที่ไล่ล่ามาใกล้ถึงตัว จึงมอบทองให้แฟนหลบหนีไป แต่ก็ถูกจับได้
สำหรับนายเอกรัตน์ เจ้าของร้านทอง เคยตกเป็นข่าวลืมทองคำรูปพรรณไว้ในรถแท็กซี่ เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาด้วย
เที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นำตัวนายศราวุธ ไปทำแผนโดยนำชี้จุดตัดแม่กุญแจ จับตัวคนรับใช้ไปเคาะประตูเรียกเจ้าของร้าน รื้อค้นเอาทองรูปพรรณที่เก็บไว้ในตู้เซฟขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง
นายศราวุธกล่าวว่า ตั้งใจจะเอาทองแค่เต็มกระเป๋าเป้ที่เตรียมมา แต่เมื่อเห็นทองคำจำนวนมาก จึงกวาดเอาไปให้มากที่สุด โดยใส่ในกระเป๋าคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่ในร้าน สาเหตุที่ถูกตามจับได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะระหว่างขนทองออกจากร้านเริ่มมีคนพลุกพล่าน ทำให้มีคนจำทะเบียนรถได้ และเมื่อขับรถจักรยานยนต์มาเปลี่ยนเป็นรถยนต์ที่หน้าหอพักโอบอ้อม ที่เช่าทิ้งไว้ในซอยชยางกูร 40 ถนนชยางกูร ก็มีตำรวจจราจรมาพบ เมื่อตรวจสอบทะเบียนจนทราบชื่อผู้ครอบครองรถ ทำให้ถูกติดตามจับได้หลังก่อเหตุเพียงชั่วโมงเศษ สำหรับทองคำที่ได้ไปยังไม่ได้วางแผนว่าจะเอาไปทำอะไร รู้แต่ว่ามีเงินมากก็สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง
ด้านนายเอกรัตน์ กล่าวระหว่างที่นายศราวุธจี้จับตัว ยังพูดเล่นว่าที่ร้านของตนมีทองมากเกินกว่าที่คิดไว้ และอยากรู้ว่าตำรวจจะจับตัวเองได้หรือไม่ด้วย
ส่วนน.ส.อรชร เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกันตัวไว้เป็นพยาน เพราะยังไม่มีหลักฐานร่วมกระทำความผิด ส่วนที่นำทองขึ้นรถแท็กซี่ น.ส.อรชรให้การจะนำไปคืนร้านที่นายศราวุธไปชิงมา ซึ่งจะสอบสวนให้ได้ความจริงต่อไป
สำหรับประวัตินายศราวุธ บิดามารดาเสียชีวิตหมดแล้ว ปัจจุบันอยู่กับยาย ซึ่งเป็นนายหน้าค้าที่ดิน มีฐานะดี โดยนายศราวุธพักอยู่กับแฟนสาว และไม่ได้ทำงานอะไร แต่เป็นคนชอบเล่นวิทยุสื่อสาร เคยถูกจับฐานมีวิทยุราชการไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นแอดมินเวปเพจ "มีด่านบอกด้วย" ซึ่งคอยบอกที่ตั้งด่านตำรวจจราจรสภ.เมือง จ.อุบลราชธานี
