ASTVผู้จัดการรายวัน-กขช. เลิกจำนำทุกเมล็ด ตั้งวงเงิน 2.7 แสนล้านบาท จำนำข้าวปี 56/57 ให้ 1.5 หมื่นบาท นาปรังเหลือ 1.3 หมื่นบาท เตรียมชง ครม. พิจารณาวันนี้ ส่วนข้าวหอมมะลิ เหนียว หอมจังหวัด หอมปทุมธานี คงราคาเดิม “ยรรยง” เฉลย สหรัฐฯ ไม่ได้กักข้าวไทย เหตุ อย.สหรัฐฯ ตรวจให้ผ่านแล้ว แต่ผู้ซื้อกังวล ผู้ขายเลยขอนำข้าวกลับคืน
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วานนี้ (26 ส.ค.) ว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูการผลิตปี 2556/57 โดยจะใช้วงเงินไม่เกิน 2.7 แสนล้านบาท และได้กำหนดแนวทางการรับจำนำ คือ 1.รับจำนำข้าวนาปี 2556/57 ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท จำกัดวงเงิน 3.5 แสนบาท/ครัวเรือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2556 และ 2.รับจำนำข้าวนาปรังปี 2557 ตันละ 1.3 หมื่นบาท จำกัดวงเงิน 3 แสนบาท/ครัวเรือน และจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาวันนี้ (27 ส.ค.)
“ในการพิจารณาราคารับจำนำข้าว กขช. ได้ยึดวงเงินที่จะใช้เป็นตัวตั้ง โดยกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 2.7 แสนล้านบาท และจากนั้นได้พิจารณาทางเลือกในการรับจำนำ ซึ่งเห็นว่า ควรจะใช้ทั้ง 2 ทางเลือก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเกษตรกรทุกรายจะได้สิทธิในการนำข้าวไปจำนำ ส่วนข้าวที่เกินจากที่จำกัดวงเงิน เกษตรกรก็มีทางเลือกในการนำข้าวไปขายในตลาดได้อยู่แล้ว”
ทั้งนี้ การกำหนดหลักเกณฑ์การรับจำนำดังกล่าว คาดว่าจะมีข้าวเข้าสู่โครงการประมาณ 18 ล้านตัน จากเดิมที่รับจำนำประมาณ 21-22 ล้านตัน โดยประเมินว่า รัฐบาลจะขาดทุนจากโครงการรับจำนำประมาณ 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง
สำหรับข้าวเปลือกเหนียว ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมจังหวัด และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี กขช. ได้คงราคารับจำนำไว้เท่าเดิม เพราะเกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้ปีละ 1 ครั้ง จึงไม่น่าจะมีปัญหาในการรับจำนำ โดยราคาข้าวเปลือกเหนียว เมล็ดยาว ตันละ 1.6 หมื่นบาท และเมล็ดสั้น ตันละ 1.5 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 2 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 1.8 หมื่นบาท
และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1.6 หมื่นบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้นโยบายการรับจำนำข้าวแบบทุกเมล็ด และไม่จำกัดปริมาณ จนเกิดปัญหาการขาดทุน จึงได้ปรับวิธีการรับจำนำสำหรับปี 2556/57 ใหม่ โดยได้มีการประชุมร่วมกับตัวแทนเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ได้เสนอ 2 ทางเลือก คือ รับจำนำ 1.5 หมื่นบาท ให้ครั้งเดียว จำกัดวงเงิน 5 แสนบาท/ครัวเรือน และจำนำ 1.3 หมื่นบาท ให้ 2 ครั้งแต่จำกัดวงเงินรอบละ 3 แสนบาท แต่สุดท้าย กขช. ได้เคาะทั้ง 2 ทางเลือก แต่ลดปริมาณต่อครัวเรือนลงมา
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมการค้าต่างประเทศ หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบกรณีข่าวสหรัฐฯ ตีกลับข้าวไทยว่า ข้าวล็อตดังกล่าวเป็นข้าวที่ส่งออกโดยเอกชน และข้าวได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (USFDA) และเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แล้ว จึงถือว่าข้าวที่ส่งออกผ่านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน แต่ที่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะผู้นำเข้า ได้ปฏิเสธที่จะรับข้าว โดยให้เหตุผลว่า กลิ่นของข้าวเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีความหอม ทางผู้ส่งออกไทยจึงได้ขอนำข้าวกลับคืน จากที่ส่งออกไป 40 ตัน นำคืน 32 ตัน จึงสรุปได้ว่าข้าวไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อของผู้ส่งออกไทย ที่มีข้อกังวลมา
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วานนี้ (26 ส.ค.) ว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูการผลิตปี 2556/57 โดยจะใช้วงเงินไม่เกิน 2.7 แสนล้านบาท และได้กำหนดแนวทางการรับจำนำ คือ 1.รับจำนำข้าวนาปี 2556/57 ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท จำกัดวงเงิน 3.5 แสนบาท/ครัวเรือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2556 และ 2.รับจำนำข้าวนาปรังปี 2557 ตันละ 1.3 หมื่นบาท จำกัดวงเงิน 3 แสนบาท/ครัวเรือน และจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาวันนี้ (27 ส.ค.)
“ในการพิจารณาราคารับจำนำข้าว กขช. ได้ยึดวงเงินที่จะใช้เป็นตัวตั้ง โดยกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 2.7 แสนล้านบาท และจากนั้นได้พิจารณาทางเลือกในการรับจำนำ ซึ่งเห็นว่า ควรจะใช้ทั้ง 2 ทางเลือก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเกษตรกรทุกรายจะได้สิทธิในการนำข้าวไปจำนำ ส่วนข้าวที่เกินจากที่จำกัดวงเงิน เกษตรกรก็มีทางเลือกในการนำข้าวไปขายในตลาดได้อยู่แล้ว”
ทั้งนี้ การกำหนดหลักเกณฑ์การรับจำนำดังกล่าว คาดว่าจะมีข้าวเข้าสู่โครงการประมาณ 18 ล้านตัน จากเดิมที่รับจำนำประมาณ 21-22 ล้านตัน โดยประเมินว่า รัฐบาลจะขาดทุนจากโครงการรับจำนำประมาณ 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง
สำหรับข้าวเปลือกเหนียว ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมจังหวัด และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี กขช. ได้คงราคารับจำนำไว้เท่าเดิม เพราะเกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้ปีละ 1 ครั้ง จึงไม่น่าจะมีปัญหาในการรับจำนำ โดยราคาข้าวเปลือกเหนียว เมล็ดยาว ตันละ 1.6 หมื่นบาท และเมล็ดสั้น ตันละ 1.5 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 2 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 1.8 หมื่นบาท
และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1.6 หมื่นบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้นโยบายการรับจำนำข้าวแบบทุกเมล็ด และไม่จำกัดปริมาณ จนเกิดปัญหาการขาดทุน จึงได้ปรับวิธีการรับจำนำสำหรับปี 2556/57 ใหม่ โดยได้มีการประชุมร่วมกับตัวแทนเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ได้เสนอ 2 ทางเลือก คือ รับจำนำ 1.5 หมื่นบาท ให้ครั้งเดียว จำกัดวงเงิน 5 แสนบาท/ครัวเรือน และจำนำ 1.3 หมื่นบาท ให้ 2 ครั้งแต่จำกัดวงเงินรอบละ 3 แสนบาท แต่สุดท้าย กขช. ได้เคาะทั้ง 2 ทางเลือก แต่ลดปริมาณต่อครัวเรือนลงมา
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมการค้าต่างประเทศ หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบกรณีข่าวสหรัฐฯ ตีกลับข้าวไทยว่า ข้าวล็อตดังกล่าวเป็นข้าวที่ส่งออกโดยเอกชน และข้าวได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (USFDA) และเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แล้ว จึงถือว่าข้าวที่ส่งออกผ่านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน แต่ที่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะผู้นำเข้า ได้ปฏิเสธที่จะรับข้าว โดยให้เหตุผลว่า กลิ่นของข้าวเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีความหอม ทางผู้ส่งออกไทยจึงได้ขอนำข้าวกลับคืน จากที่ส่งออกไป 40 ตัน นำคืน 32 ตัน จึงสรุปได้ว่าข้าวไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อของผู้ส่งออกไทย ที่มีข้อกังวลมา