ASTVผู้จัดการรายวัน-"เดียร์"โวย! ไม่เคยทำศัลยกรรม จากเงิน 7.5 ล้านบาลที่รัฐบาลมอบให้กรณีพ่อเสียชีวิตจากการชุมนุม อ้างยังไมได้เงินซักบาท ยันเป็นส.ส.ต้องดูดี ทำแค่ทรีทเมนต์ใบหน้า ชาวเน็ตไม่จบ คุ้ยประวัติ! ไม่สดแล้ว มีสามีฝั่งหมอคนดัง
วานนี้ (22 ส.ค.56) มีรายงานว่า หลังจากที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในเรื่องของความสวยระหว่าง น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล (เดียร์) ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (บุตรสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิพล) กับ นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตดาราชื่อดัง ทำให้ ในโลกสังคมออนไลน์ต่างโจมตีและไปขุดรูปเก่าๆ ของทั้งคู่ออกมาเปรียบเทียบกัน โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “สวยกว่าสดกว่า”
ทั้งนี้พบว่า น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล เคยทำงานเป็นทนายความมาก่อน พ.ศ. 2551 ตำแหน่ง Junior Lawyer สำนักงาน Siam Premier International Law Office, กรุงเทพฯ พ.ศ. 2552 Associate Lawyer สำนักงาน Siam City Law Office, กรุงเทพฯ พ.ศ. 2554 Senior Associate Lawyer สำนักงาน Willson and Co. Lawyers Ltd, กรุงเทพฯ
หลังจากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 น.ส.ขัตติยา ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินระบุว่ามีทรัพย์สินเพียง 1 รายการคือ เงินฝาก 9,693.38 บาท (ธนาคารกสิการไทยเลขที่ 772-2-08546-3) ซึ่งไม่มีทรัพย์สินอื่น ทั้งยังได้แจ้งที่อยู่ว่า อยู่บ้านเลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260 ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในรั้วเดียวกัน กับบ้านเลขที่ 438 , 428/1 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. 10260 ซึ่งเป็นบ้านของนายแพทย์เสม และนางสุภาวดี พริ้งพวงแก้ว
ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2555 น.ส.ขัตติยา ได้เข้าพิธีวิวาห์กับนายวิรุฬห์ กีรติพานิช (โอ๋)บุตรชายนางสุภาวดี พริ้งพวงแก้ว กับ นายสมศักดิ์ กีรติพานิช
จากกรณีดังกล่าวทำให้เป็นที่สงสัยแก่หลายคนว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2554 น.ส.ขัตติยาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน ระบุว่าอยู่บ้านเลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 ซึ่งที่อยู่ดังกล่าวเป็นบ้านของ"นางสุภาวดี พริ้งพวงแก้ว"
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีที่ได้อภิปรายในที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่มาของ สว.เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวพาดพิง สส.ฝ่ายค้านเรื่องความสวยนั้นเป็นเพราะต้องการลดกระแสความตึงเครียดในที่ประชุม ภายหลังเกิดเหตุการณ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แห่ประท้วงประธานรัฐสภาหน้าบัลลังก์และเกิดเหตุปะทะระหว่าง สส.ปชป.และตำรวจรัฐสภา
ทั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจกล่าวพาดพิงว่าสวยกว่า ใสกว่า นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)เพราะเป็นรุ่นพี่และทราบดีว่าความสวยเทียบอดีตนางเอกไม่ได้ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นจังหวะการอภิปรายที่รับมุขกับนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ที่พูดถึงเรื่องความสวยตอนที่นายนิคมกล่าวระหว่างทำหน้าที่ประธานเท่านั้น
“ไม่ได้ทำศัลยกรรมใบหน้าตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่รูปที่นำมาเผยแพร่นั้นเป็นรูปเก่า ถ่ายไว้นานหลายปีตั้งแต่สมัย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล บิดายังไม่เสียชีวิต โดยเมื่อก่อนทำงานบริษัทตามปกติจึงปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า แต่หลังจากปฏิบัติหน้าที่ สส.พรรคเพื่อไทยต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ทำทรีทเมนต์ใบหน้า และแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง เนื่องจากเป็น สส.ต้องทำงานในสถานที่ราชการ และพบปะผู้คนจำนวนมาก จึงทำให้รูปภาพในปัจจุบันแตกต่างจากภาพในอดีต”น.ส.ขัตติยากล่าว
ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กระบุว่าตนนำเงินภาษีประชาชน 7 ล้านบาทไปทำศัลยกรรมนั้น จึงขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำศัลยกรรมแล้ว เงินเยียวยา 7.5 ล้านบาทตามนโยบายเยียวยาของรัฐบาลนั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด โดยได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ จึงอยากเรียนว่าตนสามารถรับฟังความเห็นที่วิจารณ์ในโลกออนไลน์ได้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ และเคยโดนกระแสข่าวโจมตีมากกว่านี้ เพียงแต่ไม่ต้องการให้มีการวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ทราบข้อเท็จจริง
วานนี้ (22 ส.ค.56) มีรายงานว่า หลังจากที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในเรื่องของความสวยระหว่าง น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล (เดียร์) ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (บุตรสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิพล) กับ นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตดาราชื่อดัง ทำให้ ในโลกสังคมออนไลน์ต่างโจมตีและไปขุดรูปเก่าๆ ของทั้งคู่ออกมาเปรียบเทียบกัน โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “สวยกว่าสดกว่า”
ทั้งนี้พบว่า น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล เคยทำงานเป็นทนายความมาก่อน พ.ศ. 2551 ตำแหน่ง Junior Lawyer สำนักงาน Siam Premier International Law Office, กรุงเทพฯ พ.ศ. 2552 Associate Lawyer สำนักงาน Siam City Law Office, กรุงเทพฯ พ.ศ. 2554 Senior Associate Lawyer สำนักงาน Willson and Co. Lawyers Ltd, กรุงเทพฯ
หลังจากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 น.ส.ขัตติยา ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินระบุว่ามีทรัพย์สินเพียง 1 รายการคือ เงินฝาก 9,693.38 บาท (ธนาคารกสิการไทยเลขที่ 772-2-08546-3) ซึ่งไม่มีทรัพย์สินอื่น ทั้งยังได้แจ้งที่อยู่ว่า อยู่บ้านเลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260 ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในรั้วเดียวกัน กับบ้านเลขที่ 438 , 428/1 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. 10260 ซึ่งเป็นบ้านของนายแพทย์เสม และนางสุภาวดี พริ้งพวงแก้ว
ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2555 น.ส.ขัตติยา ได้เข้าพิธีวิวาห์กับนายวิรุฬห์ กีรติพานิช (โอ๋)บุตรชายนางสุภาวดี พริ้งพวงแก้ว กับ นายสมศักดิ์ กีรติพานิช
จากกรณีดังกล่าวทำให้เป็นที่สงสัยแก่หลายคนว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2554 น.ส.ขัตติยาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน ระบุว่าอยู่บ้านเลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 ซึ่งที่อยู่ดังกล่าวเป็นบ้านของ"นางสุภาวดี พริ้งพวงแก้ว"
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีที่ได้อภิปรายในที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่มาของ สว.เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวพาดพิง สส.ฝ่ายค้านเรื่องความสวยนั้นเป็นเพราะต้องการลดกระแสความตึงเครียดในที่ประชุม ภายหลังเกิดเหตุการณ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แห่ประท้วงประธานรัฐสภาหน้าบัลลังก์และเกิดเหตุปะทะระหว่าง สส.ปชป.และตำรวจรัฐสภา
ทั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจกล่าวพาดพิงว่าสวยกว่า ใสกว่า นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)เพราะเป็นรุ่นพี่และทราบดีว่าความสวยเทียบอดีตนางเอกไม่ได้ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นจังหวะการอภิปรายที่รับมุขกับนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ที่พูดถึงเรื่องความสวยตอนที่นายนิคมกล่าวระหว่างทำหน้าที่ประธานเท่านั้น
“ไม่ได้ทำศัลยกรรมใบหน้าตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่รูปที่นำมาเผยแพร่นั้นเป็นรูปเก่า ถ่ายไว้นานหลายปีตั้งแต่สมัย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล บิดายังไม่เสียชีวิต โดยเมื่อก่อนทำงานบริษัทตามปกติจึงปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า แต่หลังจากปฏิบัติหน้าที่ สส.พรรคเพื่อไทยต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ทำทรีทเมนต์ใบหน้า และแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง เนื่องจากเป็น สส.ต้องทำงานในสถานที่ราชการ และพบปะผู้คนจำนวนมาก จึงทำให้รูปภาพในปัจจุบันแตกต่างจากภาพในอดีต”น.ส.ขัตติยากล่าว
ส่วนกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กระบุว่าตนนำเงินภาษีประชาชน 7 ล้านบาทไปทำศัลยกรรมนั้น จึงขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำศัลยกรรมแล้ว เงินเยียวยา 7.5 ล้านบาทตามนโยบายเยียวยาของรัฐบาลนั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด โดยได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ จึงอยากเรียนว่าตนสามารถรับฟังความเห็นที่วิจารณ์ในโลกออนไลน์ได้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ และเคยโดนกระแสข่าวโจมตีมากกว่านี้ เพียงแต่ไม่ต้องการให้มีการวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ทราบข้อเท็จจริง