xs
xsm
sm
md
lg

สมศักดิ์กล้าพูด ดวงตาเห็นธรรม ข่มตบะคุมสภาสบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (21ส.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นประธานพิธีมอบโล่ และประกาศเกียรติคุณแก่ประชาชนที่ได้รับการสรรหา และคัดเลือกจากทั่วประเทศ จังหวัดละ 1 คน และ กทม.รวม 77 คน ที่กระทำความดีตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยึดมั่นใจหลักการประชาธิปไตย ซึ่งจัดโดยคณะอนุกรรมการสื่อสารและมวลชนสัมพันธ์ รัฐสภา ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร
นายสมศักดิ์ กล่าวระหว่างการเปิดงานว่า ประเทศไทยเต็มไปด้วยคนดีจำนวนมาก แต่ที่ดีแท้จริง ตนไม่แน่ใจ แต่แน่ใจว่าบุคคลที่นั่งอยู่ตรงนี้ เป็นคนดีเพราะมีการกลั่นกรองคัดเลือกมาจากทั่วประเทศ โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณามีอยู่ 2 หลักเกณฑ์ คือ 1. มีความพอเพียงและมีความเป็นประชาธิปไตย หากเรามีความพอเพียงก็จะส่งผลให้กิเลส โลภ โกรธ หลง น้อยลง ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดและดัชนีวัดความดีของคน โดยได้มีการพิสูจน์มาแล้ว ด้วยการได้คนดี 77 คน มานั่งตรงนี้ และ 2. หลักการประชาธิปไตย ที่สำคัญคือ การมีสำนึกของพลเมืองในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ถ้าเป็นคนดี ต้องมีสำนึกหน้าที่พลเมืองด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยการส่งเสริมให้มีคนดีมาเป็นตัวแทนทำหน้าที่แทนพวกเรา และยังมีอีกหลายอย่างที่คนดีต้องมีสำนึกพลเมือง กระทำทุกโอกาสทุกเวลา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามหลักพุทธศาสนา คือ ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ่ว ซึ่งการละชั่ว ทำดี มันเหมือนนามธรรมที่สัมผัสยาก แต่การทำจิตใจให้ผ่องแผ่วนั้น ยากยิ่งกว่า เพราะถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ยากที่จะเข้าถึงหรือที่เรียกว่า “ดวงตาเห็นธรรม”ตนเคยไปปฏิบัติธรรมในช่วงที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อปี 2549 โดยการหลบไปบวชกับพี่น้องและครอบครัว ไปนั่งวิปัสสนา ที่ จ.พิษณุโลก 10 วัน โดยไม่ได้มีการมองหน้า หรือพูดคุยกับพี่น้องที่ร่วมบวชด้วยเลย เพราะจะทำให้เกิดกิเลส ซึ่งตนสามารถทำได้
“สิ่งที่ผมได้มาคือ การมีสติปัญญาทางธรรม อย่างน้อยก็ได้ดวงตาเห็นธรรมในระดับหนึ่ง ถือว่าเป็นกำไรชีวิต จะสังเกตว่าหลายคนมาถามผมถึงการทำหน้าที่ว่ามีอารมณ์โกรธหรือไม่ ซึ่งผมก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า มีบ้าง เพราะถ้าโกรธไม่เป็นก็บ้าแล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะข่มอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะผมได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ไม่มีตบะแตก นิ่งเสียอย่างไม่มีแพ้ ขอให้ทุกคนช่วยกันขยายให้มีคนดีเพิ่มมากขึ้น เพราะประเทศต้องการคนดีจริงๆ ไม่เอาแล้วพวกดีปลอม เพราะมีเยอะแล้ว”นายสมศักดิ์ กล่าว



ASTVผู้จัดการรายวัน-“สมศักดิ์”แจกโล่ 77 คนดีต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ยกธรรมะสอนคนไทยทำดี คุมกิเลสให้น้อยลง และมีสำนึกหน้าที่พลเมือง สนับสนุนคนดีมาทำหน้าที่แทนปวงชน เผยเคยหลบไปบวชช่วงรัฐประหารปี 49 ได้ดวงตาเห็นธรรมมาระดับหนึ่ง สามารถข่มตบะ คุมการประชุมได้สบาย

เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (21ส.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นประธานพิธีมอบโล่ และประกาศเกียรติคุณแก่ประชาชนที่ได้รับการสรรหา และคัดเลือกจากทั่วประเทศ จังหวัดละ 1 คน และ กทม.รวม 77 คน ที่กระทำความดีตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยึดมั่นใจหลักการประชาธิปไตย ซึ่งจัดโดยคณะอนุกรรมการสื่อสารและมวลชนสัมพันธ์ รัฐสภา ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร
นายสมศักดิ์ กล่าวระหว่างการเปิดงานว่า ประเทศไทยเต็มไปด้วยคนดีจำนวนมาก แต่ที่ดีแท้จริง ตนไม่แน่ใจ แต่แน่ใจว่าบุคคลที่นั่งอยู่ตรงนี้ เป็นคนดีเพราะมีการกลั่นกรองคัดเลือกมาจากทั่วประเทศ โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณามีอยู่ 2 หลักเกณฑ์ คือ 1. มีความพอเพียงและมีความเป็นประชาธิปไตย หากเรามีความพอเพียงก็จะส่งผลให้กิเลส โลภ โกรธ หลง น้อยลง ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดและดัชนีวัดความดีของคน โดยได้มีการพิสูจน์มาแล้ว ด้วยการได้คนดี 77 คน มานั่งตรงนี้ และ 2. หลักการประชาธิปไตย ที่สำคัญคือ การมีสำนึกของพลเมืองในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ถ้าเป็นคนดี ต้องมีสำนึกหน้าที่พลเมืองด้วย ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยการส่งเสริมให้มีคนดีมาเป็นตัวแทนทำหน้าที่แทนพวกเรา และยังมีอีกหลายอย่างที่คนดีต้องมีสำนึกพลเมือง กระทำทุกโอกาสทุกเวลา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามหลักพุทธศาสนา คือ ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ่ว ซึ่งการละชั่ว ทำดี มันเหมือนนามธรรมที่สัมผัสยาก แต่การทำจิตใจให้ผ่องแผ่วนั้น ยากยิ่งกว่า เพราะถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ยากที่จะเข้าถึงหรือที่เรียกว่า “ดวงตาเห็นธรรม”ตนเคยไปปฏิบัติธรรมในช่วงที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อปี 2549 โดยการหลบไปบวชกับพี่น้องและครอบครัว ไปนั่งวิปัสสนา ที่ จ.พิษณุโลก 10 วัน โดยไม่ได้มีการมองหน้า หรือพูดคุยกับพี่น้องที่ร่วมบวชด้วยเลย เพราะจะทำให้เกิดกิเลส ซึ่งตนสามารถทำได้
“สิ่งที่ผมได้มาคือ การมีสติปัญญาทางธรรม อย่างน้อยก็ได้ดวงตาเห็นธรรมในระดับหนึ่ง ถือว่าเป็นกำไรชีวิต จะสังเกตว่าหลายคนมาถามผมถึงการทำหน้าที่ว่ามีอารมณ์โกรธหรือไม่ ซึ่งผมก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า มีบ้าง เพราะถ้าโกรธไม่เป็นก็บ้าแล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะข่มอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะผมได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ไม่มีตบะแตก นิ่งเสียอย่างไม่มีแพ้ ขอให้ทุกคนช่วยกันขยายให้มีคนดีเพิ่มมากขึ้น เพราะประเทศต้องการคนดีจริงๆ ไม่เอาแล้วพวกดีปลอม เพราะมีเยอะแล้ว”นายสมศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น