วานนี้ (13 ส.ค.) เวลา 09.30น.นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานคณะกรรมการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน พร้อมด้วยกรรมการ คณะเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ร่วมให้กำลังใจ พร้อมสนับสนุนการทำหน้าที่ของนายสมโภชน์ ผู้ช่วย กองบก.ข่าวทีวีช่อง 7 กรณีถูกนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ แจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเปิดโปงการทุจริตเงินอุดหนุนวัดใน จ.สมุทรปราการ ร่วม 800 ล้านบาท
เวลา 11.00 น. ที่สภาทนายความ นายสมโภชน์ เดินทางมาพร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าวนักวิทยุและโทรศัทน์ไทย และนายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อเข้าพบ ผศ. ว่าที่ ร.ต.ดร.สุรพล สินธุนาวา อุปนายกฝ่ายบริหาร นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ พร้อมทีมทนายความ เพื่อขอคำแนะนำและปรึกษาจากกรณีถูกนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ แจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เนื่องมาจากมีเรื่องราวเกี่ยวกับคดีความกับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน คือ คุณสมโภชน์ โตรักษา ผู้ช่วย กองบก.ข่าวทีวีช่อง 7 ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ซึ่งสื่อมวลชนมีหน้าที่ทำงานอย่างสุจริตตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม ฉะนั้นทางสมาคมฯ มีหน้าที่ดูแลด้านคดีร่วมกับทางสภาทนายความตามข้อตกลงไว้ โดยมีหน้าที่ช่วยสื่อมวลชนทางด้านกฎหมาย ช่วยเหลือต่อองค์กรเป็นคณะทำงาน ได้เล็งเห็นว่าผู้ต้องการฟ้องนั้นเจาะจงฟ้องเพียงคุณสมโภชน์ เพียงผู้เดียว โดยวันนี้ทางสมาคมฯ ทั้ง 2 สมาคมฯ ได้เดินทางมาเป็นกำลังใจให้พร้อมช่วยเหลือด้านคดีอย่างเต็มที่
ด้านนายสมโภชน์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางสภาทนายความ นายกสมาคมฯ ทั้ง 2 สมาคม พี่น้องและเพื่อนสื่อมวลชนที่มาให้กำลังใจ ผมเป็นสื่อมวลชนที่มีหน้าที่นำเสนอข่าวตามความเป็นจริง “ทำคอลัมน์หมายเลข 7”มากว่าสองปีเป็นคอลัมน์เกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริต ที่เดินทางมาวันนี้เกิดมาจากกรณีที่ถูกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ที่นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบจ.สมุทรปราการ แจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท จากการเกาะติดนำเสนอข่าวความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนวัด วงเงินหลายร้อยล้านบาท ในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา
โดยที่มาของเรื่องดังกล่าว เนื่องจากตนได้รับการร้องเรียนมาจากคนในวัดแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหางานก่อสร้าง อาคาร และเมรุ ที่ประสบความล่าช้ามาก เมื่อได้รับข้อมูลเข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นจริง จึงเริ่มขุดคุ้ยปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งพบข้อพิรุธในขั้นตอนการดำเนินงานจำนวนมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการเข้ามารับงานก่อสร้างโครงการของผู้รับเหมาตามวัดต่างๆ ที่ปรากฎชื่อว่าได้รับงบอุดหนุนจากทางอบจ. แม้ว่าจะพบข้อพิรุธ จำนวนมาก แต่เพื่อให้เกิดความถูกต้องของข้อมูลให้มากที่สุด ตนได้นำเรื่องไปหารือกับ สตง. เพื่อทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ร่วมกัน หลังจากที่เราออกข่าวเรื่องนี้ ไปได้ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาผม มาต่อว่าผม ถึงการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ว่าทำให้เขาได้รับความเสียหาย ผมกำลังพิพากษาชีวิตเขา ผมจำเสียงได้ว่าเป็น คุณชนม์สวัสดิ์ ผมก็เลยยืนยันกับเขาไปว่า การทำงานของผมในเรื่องนี้ ไม่มีนอกมีในอะไรกับใคร ผมทำงานตามหน้าที่ และก็พยายามติดต่อคุณชนม์สวัสดิ์ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย
“แต่ยืนยันว่าการนำเสนอข่าวของผมในเรื่องนี้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักฐาน ไม่มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้ง นำเสนอด้วยความสุจริต “ย้ำนะครับสุจริต” ทำให้เกิดผลดีกับทางวัดและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดทั้งสิ้น หลังจากนำเสนอข่าวไปทางวัดมีความคืบหน้างบประมาณได้นำมาดำเนินงานต่อ ทางอบจ.ฟ้องผมๆ ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ตรวจสอบ” นายสมโภชน์ ระบุ
ขณะที่ นายนิวัติกล่าวว่า ได้รับเรื่องข้อเท็จจริงไว้ทั้งหมดแล้ว พร้อมแต่งตั้งคณะทนายความ 4-5 คน ร่วมกันทำงานช่วยเหลือจนสิ้นสุดคดี โดยทางทีมทนายความจะมีการตั้งประเด็นไว้ก่อนอะไรบ้าง เรื่องใดควรพูดได้หรือไม่ควรพูดเมื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน จนถึงกระบวนการศาลต่อไป เบื้องต้นได้ให้ นายสุขาติ ชมกุล กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 1 เป็นผู้เดินทางในฐานะทนายไปกับคุณสมโภชน์ในช่วงบ่ายวันที่ 13 ส.ค.นี้ เพื่อพบพนักงานสอบ สภ.สมุทรปราการ และยังมีทีมทนายความรออยู่ที่สภ.สมุทรปราการอีกสองคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นงานแถลงข่าวทางนายกสมาคมฯ ทั้งสองได้นำช่อดอกไม้มามอบให้นายสมโภชน์ โตรักษา พร้อมกล่าวให้กำลังใจและสู้ต่อไป เพราะได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมานำเสนอความจริงไม่ปิดกั้นสื่อกับประชาชน
เวลา 11.00 น. ที่สภาทนายความ นายสมโภชน์ เดินทางมาพร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าวนักวิทยุและโทรศัทน์ไทย และนายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อเข้าพบ ผศ. ว่าที่ ร.ต.ดร.สุรพล สินธุนาวา อุปนายกฝ่ายบริหาร นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ พร้อมทีมทนายความ เพื่อขอคำแนะนำและปรึกษาจากกรณีถูกนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ แจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เนื่องมาจากมีเรื่องราวเกี่ยวกับคดีความกับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน คือ คุณสมโภชน์ โตรักษา ผู้ช่วย กองบก.ข่าวทีวีช่อง 7 ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ซึ่งสื่อมวลชนมีหน้าที่ทำงานอย่างสุจริตตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม ฉะนั้นทางสมาคมฯ มีหน้าที่ดูแลด้านคดีร่วมกับทางสภาทนายความตามข้อตกลงไว้ โดยมีหน้าที่ช่วยสื่อมวลชนทางด้านกฎหมาย ช่วยเหลือต่อองค์กรเป็นคณะทำงาน ได้เล็งเห็นว่าผู้ต้องการฟ้องนั้นเจาะจงฟ้องเพียงคุณสมโภชน์ เพียงผู้เดียว โดยวันนี้ทางสมาคมฯ ทั้ง 2 สมาคมฯ ได้เดินทางมาเป็นกำลังใจให้พร้อมช่วยเหลือด้านคดีอย่างเต็มที่
ด้านนายสมโภชน์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางสภาทนายความ นายกสมาคมฯ ทั้ง 2 สมาคม พี่น้องและเพื่อนสื่อมวลชนที่มาให้กำลังใจ ผมเป็นสื่อมวลชนที่มีหน้าที่นำเสนอข่าวตามความเป็นจริง “ทำคอลัมน์หมายเลข 7”มากว่าสองปีเป็นคอลัมน์เกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริต ที่เดินทางมาวันนี้เกิดมาจากกรณีที่ถูกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ที่นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบจ.สมุทรปราการ แจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท จากการเกาะติดนำเสนอข่าวความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนวัด วงเงินหลายร้อยล้านบาท ในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา
โดยที่มาของเรื่องดังกล่าว เนื่องจากตนได้รับการร้องเรียนมาจากคนในวัดแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหางานก่อสร้าง อาคาร และเมรุ ที่ประสบความล่าช้ามาก เมื่อได้รับข้อมูลเข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นจริง จึงเริ่มขุดคุ้ยปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งพบข้อพิรุธในขั้นตอนการดำเนินงานจำนวนมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการเข้ามารับงานก่อสร้างโครงการของผู้รับเหมาตามวัดต่างๆ ที่ปรากฎชื่อว่าได้รับงบอุดหนุนจากทางอบจ. แม้ว่าจะพบข้อพิรุธ จำนวนมาก แต่เพื่อให้เกิดความถูกต้องของข้อมูลให้มากที่สุด ตนได้นำเรื่องไปหารือกับ สตง. เพื่อทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ร่วมกัน หลังจากที่เราออกข่าวเรื่องนี้ ไปได้ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาผม มาต่อว่าผม ถึงการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ว่าทำให้เขาได้รับความเสียหาย ผมกำลังพิพากษาชีวิตเขา ผมจำเสียงได้ว่าเป็น คุณชนม์สวัสดิ์ ผมก็เลยยืนยันกับเขาไปว่า การทำงานของผมในเรื่องนี้ ไม่มีนอกมีในอะไรกับใคร ผมทำงานตามหน้าที่ และก็พยายามติดต่อคุณชนม์สวัสดิ์ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย
“แต่ยืนยันว่าการนำเสนอข่าวของผมในเรื่องนี้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักฐาน ไม่มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้ง นำเสนอด้วยความสุจริต “ย้ำนะครับสุจริต” ทำให้เกิดผลดีกับทางวัดและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดทั้งสิ้น หลังจากนำเสนอข่าวไปทางวัดมีความคืบหน้างบประมาณได้นำมาดำเนินงานต่อ ทางอบจ.ฟ้องผมๆ ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ตรวจสอบ” นายสมโภชน์ ระบุ
ขณะที่ นายนิวัติกล่าวว่า ได้รับเรื่องข้อเท็จจริงไว้ทั้งหมดแล้ว พร้อมแต่งตั้งคณะทนายความ 4-5 คน ร่วมกันทำงานช่วยเหลือจนสิ้นสุดคดี โดยทางทีมทนายความจะมีการตั้งประเด็นไว้ก่อนอะไรบ้าง เรื่องใดควรพูดได้หรือไม่ควรพูดเมื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน จนถึงกระบวนการศาลต่อไป เบื้องต้นได้ให้ นายสุขาติ ชมกุล กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 1 เป็นผู้เดินทางในฐานะทนายไปกับคุณสมโภชน์ในช่วงบ่ายวันที่ 13 ส.ค.นี้ เพื่อพบพนักงานสอบ สภ.สมุทรปราการ และยังมีทีมทนายความรออยู่ที่สภ.สมุทรปราการอีกสองคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นงานแถลงข่าวทางนายกสมาคมฯ ทั้งสองได้นำช่อดอกไม้มามอบให้นายสมโภชน์ โตรักษา พร้อมกล่าวให้กำลังใจและสู้ต่อไป เพราะได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมานำเสนอความจริงไม่ปิดกั้นสื่อกับประชาชน
