สรรพสามิตรับจัดเก็บรายได้ก.ค.วูบ ระบุเป็นวงจรปกติช่วงกลางปีและเทศการเข้าพรรษาส่งผลจัดเก็บภาษีเบียร์ – สุราลดลงตามไปด้วย คาดสิ้นปีงบประมาณจัดเก็บได้ตามเป้า 4.12 แสนล้านบาท ขณะที่รถยนต์คันแรกส่งมอบไปแล้ว 1.06 ล้านคัน มั่นใจต้นปี 57 ส่งมอบครบทุกคัน
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตประจำเดือนกรกฎาคม 2556 จัดเก็บได้ 31,760.66 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการจัดเก็บที่ตั้งไว้ 33,440.42 ล้านบาท ถึง 1,679.76 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่จัดเก็บรายได้จากภาษีสรรพสามิตได้น้อยอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเทศกาลเข้าพรรษาให้ให้การบริโภคเบียร์และสุราลดลงตามไปด้วย ซึ่งการจัดเก็บรายได้จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไปเพราะเป็นช่วงปลายปีที่มีการบริโภคสูง
โดยประเภทภาษีที่มีการจัดเก็บได้สูงสุด 5 ลำดับแรกประกอบไปด้วย ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้10,531.38 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 537 ล้านบาท ภาษีน้ำมันฯ จัดเก็บได้ 5,562.45 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,385.42 ล้านบาท ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 5,412.43 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 462.06 ล้านบาท ภาษีเบียร์จัดเก็บได้ 4,385.86 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการ 610.95 ล้านบาทและภาษีสุรา 4,137.01 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 458.64 ล้านบาท และผลการจัดเก็บรายได้รวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ (ตุลาคม 55 – กรกฎาคม 56) จัดเก็บรายได้รวมทั้งสิ้น 368,210.08 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารที่ตั้งไว้ 345,225.99 ล้านบาท จำนวน 22,984.09 ล้านบาท
“ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะมีวงจรการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในลักษณะนี้อยู่แล้วเพราะเป็นช่วงกลางปีและเข้าพรรษาด้วย หากผ่านช่วงนี้ไปตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงปีใหม่และสงกรานต์การบริโภคในเทศการต่างๆ ก็จะคึกคักมากขึ้นส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีหลายประเภท ทั้งน้ำมัน สุรา เบียร์และยาสูบ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลให้ในสิ้นปีงบประมาณกรมสรรพสามิตจะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้า 412,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า สำหรับโครงการรถยนต์คันแรกนั้นในขณะนี้มีการส่งมอบไปแล้วทั้งสิ้น 1.06 ล้านคันแล้ว ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ทยอยส่งมอบรถให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีการส่งมอบรถยนต์ทั้งหมดได้ภายในต้นปี 2557 โดยเมื่อสิ้นสุดโครงการไปแล้วทางกรมสรรพสามิตจะได้ปรับประมาณการจัดเก็บภาษีรถยนต์ใหม่อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด.
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตประจำเดือนกรกฎาคม 2556 จัดเก็บได้ 31,760.66 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการจัดเก็บที่ตั้งไว้ 33,440.42 ล้านบาท ถึง 1,679.76 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่จัดเก็บรายได้จากภาษีสรรพสามิตได้น้อยอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเทศกาลเข้าพรรษาให้ให้การบริโภคเบียร์และสุราลดลงตามไปด้วย ซึ่งการจัดเก็บรายได้จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไปเพราะเป็นช่วงปลายปีที่มีการบริโภคสูง
โดยประเภทภาษีที่มีการจัดเก็บได้สูงสุด 5 ลำดับแรกประกอบไปด้วย ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้10,531.38 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 537 ล้านบาท ภาษีน้ำมันฯ จัดเก็บได้ 5,562.45 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,385.42 ล้านบาท ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 5,412.43 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 462.06 ล้านบาท ภาษีเบียร์จัดเก็บได้ 4,385.86 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการ 610.95 ล้านบาทและภาษีสุรา 4,137.01 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 458.64 ล้านบาท และผลการจัดเก็บรายได้รวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ (ตุลาคม 55 – กรกฎาคม 56) จัดเก็บรายได้รวมทั้งสิ้น 368,210.08 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารที่ตั้งไว้ 345,225.99 ล้านบาท จำนวน 22,984.09 ล้านบาท
“ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะมีวงจรการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในลักษณะนี้อยู่แล้วเพราะเป็นช่วงกลางปีและเข้าพรรษาด้วย หากผ่านช่วงนี้ไปตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงปีใหม่และสงกรานต์การบริโภคในเทศการต่างๆ ก็จะคึกคักมากขึ้นส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีหลายประเภท ทั้งน้ำมัน สุรา เบียร์และยาสูบ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลให้ในสิ้นปีงบประมาณกรมสรรพสามิตจะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้า 412,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า สำหรับโครงการรถยนต์คันแรกนั้นในขณะนี้มีการส่งมอบไปแล้วทั้งสิ้น 1.06 ล้านคันแล้ว ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ทยอยส่งมอบรถให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีการส่งมอบรถยนต์ทั้งหมดได้ภายในต้นปี 2557 โดยเมื่อสิ้นสุดโครงการไปแล้วทางกรมสรรพสามิตจะได้ปรับประมาณการจัดเก็บภาษีรถยนต์ใหม่อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด.
