1.
เสื้อแดงข่มขู่คุกคามศาล
ภูธรนครบาลต่างนิ่งเฉย
ปล่อยเสื้อแดงรุ่มร่ามตามเสบย
เหมือนเป็นพวกคุ้นเคยเนื้อเดียวกัน
ประชาชนประกาศชุมนุมบ้าง
ตำรวจเกิดเปรี้ยงป้างอย่างแข็งขัน
เกณฑ์กำลังเป็นกองร้อยเป็นกองพัน
ใช้กฎหมายปิดกั้น ความมั่นคง
ประพฤติปฏิบัติสองมาตรฐาน
ทั้งภูธรนครบาลล้วนชี้บ่ง
เป็นตำรวจมะเขือเทศไม่ซื่อตรง
สันติราษฎร์ ไม่ดำรงความยุติธรรม
ประชาชนมาชุมนุมมาใช้สิทธิ์
ต้านอำนาจที่รอนลิดถูกเหยียบย่ำ
เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่หนุนนำ
ทัพตำรวจกลับกระทำเหมือนย่ำยี
ไม่ยึดหลักพิทักษ์สันติราษฎร์
กลับลุแก่อำนาจเกินหน้าที่
ไม่แยกแยะผิดถูกและชั่วดี
นิติรัฐ ไยไม่มี นิติธรรม
2.
รัฐบาลบริหารประเทศชาติ
ก็ลุแก่อำนาจลงทางต่ำ
ที่ควรทำจำเป็นกลับไม่ทำ
คอยแต่คิดแก้ลำให้พี่ชาย
คิดร่างกฎหมายเพื่อล้างผิด
ล้างทุกทางทุจริตให้สูญสลาย
ใช้สิทธิ์เสียงข้างมากมาท้าทาย
ทุบทำลายขื่อแปของบ้านเมือง
นิติรัฐต้องคู่หลักนิติธรรม
คนก่อกรรมต้องรับกรรมในทุกเรื่อง
ยุติธรรมโดยธรรมให้ประเทือง
ปรองดองอย่าปลดเปลื้องธรรมาภิบาล
ประชาธิปไตยต้องใช้ให้เที่ยงตรง
เสียงข้างมากอย่าลืมหลงคำคัดค้าน
ต้องยึดหลักตรรกะมาคะคาน
เหตุและผลเจือจาน บรรจบกัน
อย่าคิดใช้อำนาจบาตรใหญ่
เพราะมวลชนคนไทยไม่เคยหวั่น
รู้ดีรู้ชั่วรู้เท่าทัน
จึงมากันเป็นกองทัพประชาชน
3.
มาต่อต้านนิรโทษที่เลวร้าย
และระบอบอันตรายที่คอยปล้น
ทั้งระบอบประชาธิปไตยที่ปลอมปน
นักการเมืองสัปดนที่โกงกิน
ลบล้างสีเสื้อที่สับสน
เป็น “กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”
รวมพลคนไทยทั้งแผ่นดิน
ล้างเลวร้ายให้หมดสิ้นประเทศไทย
ว.แหวนลงยา
6 สิงหาคม 2556
