รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ควงเลขาฯ สมช.ลงใต้ตรวจความเสียหายคนร้ายลอบวางเพลิง เลขาฯ สมช.ยอมรับรูปแบบการก่อเหตุใน 3 จชต.เหมือนเดิม สัปดาห์สุดท้าย "รอมฎอน" จะมีเหตุมากขึ้น นัดพูดคุย BRN อีกครั้ง 18 ส.ค.นี้ ขณะที่โจรใต้แต่งกายคล้ายหญิงถล่มทหาร 8 นายเจ็บ 1 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดับ 1
เวลา 09.00น.วานนี้ (4 ส.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ร้านค้าและทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย และมอบเงินเยียวให้นายบุญทิม จันทรัตน์ เจ้าของร้านนิคมเฟอร์นิเจอร์ 304 ม.1 ต.ลำไพล 1 ล้านบาท และนางสุภาวดี จันทรัตน์ เจ้าของร้านลำไพลเฟอร์นิเจอร์ 219 ม.3 ต.ท่าม่วง อ.เทพา 1.5 ล้านบาท ในส่วนของร้านค้าและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประเมินความเสียหายไม่น้อยกว่า 6 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังไปให้กำลังใจและมอบเงินเยียวยาให้นายชาย พุทธิพรเดชา เจ้าของศูนย์กระจายสินค้าบริษัทหาดทิพย์ จำกัด อ.สะบ้าย้อย บ้านเลขที่ 79/1 ม.3 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย ซึ่งร้านค้าพร้อมด้วยทรัพย์สินได้รับความเสียหายร้อยละ 90 มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 5 แสนบาท จากการประเมินความเสียหายไม่น้อยกว่า 4 ล้านบาท
จากนั้นเวลา 11.00 น.ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อตรวจดูความเสียหายจากเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงร้านค้าหลายแห่ง เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้พบปะกับผู้ได้รับผลกระทบจากจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ศูนย์เยียวยาชั่วคราวที่ทางอำเภอโคกโพธิ์ ได้จัดเต็นท์รับเรื่องร้องทุกข์โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร นายอำเภอโคกโพธิ์ รายงานสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น ก่อนเดินทางไปยัง รพ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 9 รายมีทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายจุดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้สร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจท้องถิ่น ยังส่งผลกระทบทางด้านจิตใจอีกด้วย รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือและดูแล ซึ่งในเบื้องต้นมอบเงินเยียวยา ส่วนค่าความเสียหาย จะให้การชดเชยต่อไปตามสภาพความเป็นจริงให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประเมินความเสียหายอาคารและทรัพย์สินแล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น
ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า หลังจากการประเมินสถานการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ก็จะกลับมาเหมือนรูปแบบเดิม คือ สัปดาห์สุดท้ายจะมีการก่อเหตุเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นความเชื่อของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งจะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการส่งสัญญาณกลับไปกลุ่มขบวนการ ผ่านผู้อำนวยความสะดวก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะนี้สาเหตุ มูลเหตุจะเป็นฝีมือของกลุ่มใด ซึ่งขณะนี้ก็ต้องรอรับคำตอบซึ่งกันและกันอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่การเจรจากับกลุ่ม BRN ก็ยังคงต้องเดินหน้าอยู่ เพราะตอนนี้ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่า มูลเหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ของไทยเป็นผู้ละเมิดกติกา ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ละเมิด ยังคงปฏิบัติตามที่ได้พูดคุยกันไว้ เมื่อเป็นเหตุเฉพาะหน้าเราก็ต้องปฏิบัติ ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มของขบวนการหรือไม่ อย่างไร ซึ่งตรงนี้ยังเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ซึ่งต้องมีการพูดผ่านผู้ให้ความสะดวกทางมาเลเซีย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงให้ได้
ขณะเดียวกันก็ได้ทำหนังสือส่งไปทางกลุ่มขบวนการแล้ว ซึ่งทางกลุ่มเองก็มีหนังสือส่งผ่านผู้ให้ความสะดวกมาถึงเรา ซึ่งก็จะได้มีคำตอบแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการของกลุ่ม BRN โดยตรงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่เกี่ยวข้องทางกลุ่มขบวนการจะสามารถขยายผลว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไหนกันแน่ หรือภัยแทรกซ้อนอื่นหรือไม่ ซึ่งต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทางเราจะมีการนัดกันอีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ว่าจะมีการนัดการพูดคุยครั้งต่อไปวันไหน โดยผ่านผู้อำนวยความสะดวกประเทศมาเลเซียอีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครยะลา ย่านชุมชนร้านค้าได้มีประชาชนพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลาม ออกมาจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการหาซื้อเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องประดับ ทองรูปพรรณ เนื่องจากอยู่ช่วง 5 วันสุดท้ายที่จะใกล้ถึงเทศกาลฮารีรายอ หรือ วันตรุษอิดิลฟิตรี สำหรับทางด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมกิจกรรมดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันตรุษอีดิลฟิตรี ณ ศาลาดูดวงจันทร์ หลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ในวันพุธที่ 7 ส.ค. เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยทาง องค์การบริหาร ส่วนจังหวัดยะลา ก็จะได้จัดเตรียมอินทผาลัม มะตะบะ พร้อมน้ำดื่ม สำหรับรับประทานในการละศีลอด สถานที่สำหรับทำพิธีละหมาด พร้อมมีรถบริการรับ-ส่ง จากประตูทางเข้า เพื่อขึ้นไปยังศาลาดูดวงจันทร์ สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว
ด้านสถานการณ์ช่วงเวลา 09.30 น.วานนี้ ศูนย์วิทยุ สภ.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฎิบัติการ ร้อย มว.2 ฉก.ยะลา 16 ขณะลาดตระเวนเส้นทางด้วยรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟไม้แก่น บ้านไม้แก่น ม.2 ต.เนินงาม อ.รามัน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ พลทหารธีระพงษ์ ผลพึ่ง อายุ 23 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามัน ก่อนส่งต่อมายังโรงพยาบาลยะลา
เหตุเกิดขณะที่ จ.ส.อ.ประเวศ เงินหีบ หัวหน้าชุดนำกำลัง 8 นายออกลาดตระเวนโดยใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้สังเกตเห็นกลุ่มคนร้าย 4 คน แต่งกายคล้ายผู้หญิง ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาพร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่ เจ้าหน้าที่ทหารจึงกระโดดหลบ และยิงตอบโต้ไปหลายนัด เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บเพียง 1 นายหลังก่อเหตุ คนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปทางบ้านโต๊ะปาเก๊ะ ต.วังพญา อ.รามัน
ต่อมาเวลา 16.00 น.ได้เกิดเหตุคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ยิงนายรอมือลี เจ๊ะเด็ง อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านกำปั่น ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิตอีก 1 ราย ขณะนั่งพักผ่อนอยู่หน้าบ้านพักของตนเองเลขที่ 34/1 หมู่ 6 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา.
เวลา 09.00น.วานนี้ (4 ส.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ร้านค้าและทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย และมอบเงินเยียวให้นายบุญทิม จันทรัตน์ เจ้าของร้านนิคมเฟอร์นิเจอร์ 304 ม.1 ต.ลำไพล 1 ล้านบาท และนางสุภาวดี จันทรัตน์ เจ้าของร้านลำไพลเฟอร์นิเจอร์ 219 ม.3 ต.ท่าม่วง อ.เทพา 1.5 ล้านบาท ในส่วนของร้านค้าและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประเมินความเสียหายไม่น้อยกว่า 6 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังไปให้กำลังใจและมอบเงินเยียวยาให้นายชาย พุทธิพรเดชา เจ้าของศูนย์กระจายสินค้าบริษัทหาดทิพย์ จำกัด อ.สะบ้าย้อย บ้านเลขที่ 79/1 ม.3 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย ซึ่งร้านค้าพร้อมด้วยทรัพย์สินได้รับความเสียหายร้อยละ 90 มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 5 แสนบาท จากการประเมินความเสียหายไม่น้อยกว่า 4 ล้านบาท
จากนั้นเวลา 11.00 น.ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อตรวจดูความเสียหายจากเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงร้านค้าหลายแห่ง เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้พบปะกับผู้ได้รับผลกระทบจากจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ศูนย์เยียวยาชั่วคราวที่ทางอำเภอโคกโพธิ์ ได้จัดเต็นท์รับเรื่องร้องทุกข์โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร นายอำเภอโคกโพธิ์ รายงานสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น ก่อนเดินทางไปยัง รพ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 9 รายมีทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายจุดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้สร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจท้องถิ่น ยังส่งผลกระทบทางด้านจิตใจอีกด้วย รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือและดูแล ซึ่งในเบื้องต้นมอบเงินเยียวยา ส่วนค่าความเสียหาย จะให้การชดเชยต่อไปตามสภาพความเป็นจริงให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประเมินความเสียหายอาคารและทรัพย์สินแล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น
ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า หลังจากการประเมินสถานการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ก็จะกลับมาเหมือนรูปแบบเดิม คือ สัปดาห์สุดท้ายจะมีการก่อเหตุเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นความเชื่อของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งจะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการส่งสัญญาณกลับไปกลุ่มขบวนการ ผ่านผู้อำนวยความสะดวก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะนี้สาเหตุ มูลเหตุจะเป็นฝีมือของกลุ่มใด ซึ่งขณะนี้ก็ต้องรอรับคำตอบซึ่งกันและกันอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่การเจรจากับกลุ่ม BRN ก็ยังคงต้องเดินหน้าอยู่ เพราะตอนนี้ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่า มูลเหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ของไทยเป็นผู้ละเมิดกติกา ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ละเมิด ยังคงปฏิบัติตามที่ได้พูดคุยกันไว้ เมื่อเป็นเหตุเฉพาะหน้าเราก็ต้องปฏิบัติ ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มของขบวนการหรือไม่ อย่างไร ซึ่งตรงนี้ยังเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ซึ่งต้องมีการพูดผ่านผู้ให้ความสะดวกทางมาเลเซีย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงให้ได้
ขณะเดียวกันก็ได้ทำหนังสือส่งไปทางกลุ่มขบวนการแล้ว ซึ่งทางกลุ่มเองก็มีหนังสือส่งผ่านผู้ให้ความสะดวกมาถึงเรา ซึ่งก็จะได้มีคำตอบแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการของกลุ่ม BRN โดยตรงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่เกี่ยวข้องทางกลุ่มขบวนการจะสามารถขยายผลว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไหนกันแน่ หรือภัยแทรกซ้อนอื่นหรือไม่ ซึ่งต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทางเราจะมีการนัดกันอีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ว่าจะมีการนัดการพูดคุยครั้งต่อไปวันไหน โดยผ่านผู้อำนวยความสะดวกประเทศมาเลเซียอีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครยะลา ย่านชุมชนร้านค้าได้มีประชาชนพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลาม ออกมาจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการหาซื้อเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องประดับ ทองรูปพรรณ เนื่องจากอยู่ช่วง 5 วันสุดท้ายที่จะใกล้ถึงเทศกาลฮารีรายอ หรือ วันตรุษอิดิลฟิตรี สำหรับทางด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมกิจกรรมดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันตรุษอีดิลฟิตรี ณ ศาลาดูดวงจันทร์ หลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ในวันพุธที่ 7 ส.ค. เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยทาง องค์การบริหาร ส่วนจังหวัดยะลา ก็จะได้จัดเตรียมอินทผาลัม มะตะบะ พร้อมน้ำดื่ม สำหรับรับประทานในการละศีลอด สถานที่สำหรับทำพิธีละหมาด พร้อมมีรถบริการรับ-ส่ง จากประตูทางเข้า เพื่อขึ้นไปยังศาลาดูดวงจันทร์ สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว
ด้านสถานการณ์ช่วงเวลา 09.30 น.วานนี้ ศูนย์วิทยุ สภ.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฎิบัติการ ร้อย มว.2 ฉก.ยะลา 16 ขณะลาดตระเวนเส้นทางด้วยรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟไม้แก่น บ้านไม้แก่น ม.2 ต.เนินงาม อ.รามัน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ พลทหารธีระพงษ์ ผลพึ่ง อายุ 23 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามัน ก่อนส่งต่อมายังโรงพยาบาลยะลา
เหตุเกิดขณะที่ จ.ส.อ.ประเวศ เงินหีบ หัวหน้าชุดนำกำลัง 8 นายออกลาดตระเวนโดยใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้สังเกตเห็นกลุ่มคนร้าย 4 คน แต่งกายคล้ายผู้หญิง ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาพร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่ เจ้าหน้าที่ทหารจึงกระโดดหลบ และยิงตอบโต้ไปหลายนัด เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บเพียง 1 นายหลังก่อเหตุ คนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปทางบ้านโต๊ะปาเก๊ะ ต.วังพญา อ.รามัน
ต่อมาเวลา 16.00 น.ได้เกิดเหตุคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ยิงนายรอมือลี เจ๊ะเด็ง อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านกำปั่น ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิตอีก 1 ราย ขณะนั่งพักผ่อนอยู่หน้าบ้านพักของตนเองเลขที่ 34/1 หมู่ 6 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา.
