ลำปาง/เชียงราย - ผู้อำนวยการ พศจ.ลำปาง ส่งเจ้าหน้าที่ตามสอบข้อเท็จจริง เณรฉาวมือโพสต์ภาพหญิงสาวซบไหล่ - ถือดาบขึ้นเฟซบุ๊ก พบไร้พระอุปัชฌาย์ แถมเขียนหนังสือสุทธิขึ้นเอง สุดท้ายเจ้าตัวจนมุมยอมถอดผ้าเหลืองเอง ด้านโยมแม่ บอกไม่เห็นหน้ามา 2 ปี ยังหวังคนซบไหล่เป็น “ป้า”
วานนี้(18 ก.ค.) นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ลำปาง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ติดตามตรวจสอบไปยังวัดต่าง ๆ ตามที่ สณ.สันติภาพ ยี่ปัญโญ ผู้ที่โพสต์ภาพพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งภาพหญิงสาวซบไหล่ - ถือดาบยืนตระหง่าน ฯลฯ ผ่านเฟซบุ๊ก “รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สามเณรรูปดังกล่าว ได้บวชมาจริงและมีพระอุปัชฌาย์ หรือไม่ หากไม่มีพระอุปัชฌาย์ ก็จะถือว่าสามเณรสันติภาพแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ต้องนำตัวไปสึก
บ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบว่า สณ.สันติภาพ ได้เดินทางไปที่วัดสวนดอก อ.เมืองลำปาง ที่เคยกล่าวอ้างว่า ได้บวชเป็นเณรที่วัดดังกล่าว เพื่อยืนยันเรื่องพระอุปัชฌาย์ เมื่อไปถึงกลับพบว่า สณ.สันติภาพ ได้หลบไปทางด้านหลังวัด จากนั้นได้ทำการถอดผ้าเหลือออก แล้วกลับไปสวมเสื้อผ้าฆราวาสเอง โดยไม่มีการทำพิธีสึกแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีพระอุปัชฌาย์รับรองได้ว่าเคยบวชให้ พร้อมบอกกับ จนท.ว่า สมัครใจสึกเอง
ทั้งนี้ พศจ.ลำปาง ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ สณ.สันติภาพ ว่า จำวัดอยู่ที่วัดหัวทุ่ง หมู่ 8 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ตั้งแต่เย็นวันที่ 17 ก.ค.56 ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่าที่บริเวณห้องโถงภายในวัด มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมานั่งฟังที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำปาง สอบถามสารเณรที่ปรากฏภาพในเฟซบุ๊กดังกล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำปาง ก็ได้ขอตัวกลับ และให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนแทน
จากการตรวจสอบทราบว่า สามเณรรูปดังกล่าวมีชื่อปรากฏในหนังสือสุทธิ ออกให้เมื่อปี 2550 ฉายา สณ.สันติภาพ ยี่ปัญโญ สังกัดมหานิกาย แต่ในหนังสือสุทธิ ซึ่งเป็นหนังสือที่แสดงถึงสถานะเพศ ไม่มีพระอุปัชฌาย์ อีกทั้งข้อความในหนังสือสามเณรสันติภาพ เป็นผู้เขียนเองทั้งหมด ไม่มีตราประทับแต่อย่างใด
เมื่อสอบถามถึงภาพที่ปรากฏทางเฟซบุ๊ก อาทิ ภาพที่กอดกับผู้หญิง สณ.สันติภาพ ระบุว่า เป็นภาพเก่า ขณะนั้นตนเองสึกเป็นฆราวาสแล้ว และผู้หญิงที่ปรากฏคือโยมแม่ ส่วนภาพอื่นก็มีทั้งตนเอง และโยมที่เป็นผู้ถ่ายแล้วโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก แต่ขณะนี้ได้เลิกเล่นเฟซบุ๊กไปแล้ว
สณ.สันติภาพ ให้ข้อมูลอีกว่า บวชเรียนตอนอายุประมาณ 14 ปี ที่วัดใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ก่อนจะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนวิสุทธิวิทยากร จ.ลำปาง เคยสึกออกไปแล้วครั้งหนึ่ง และกลับมาบวชใหม่เมื่อปี 2553 ที่วัดสวนดอก โดยจำวัดอยู่หลายแห่ง จนกระทั่งปัจจุบันมาจำวัดอยู่ที่วัดหัวทุ่งได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น
ด้านพระครูพิศาล พัฒนวิกรม เจ้าคณะตำบล ได้ให้สามเณรสันติภาพตัดสินใจว่าจะย้ายออกไปจำวัดที่อื่น หรือจะสึกออกจากความเป็นสมณเพศ
ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนไชยสถานวิทยา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 1 ในสถานศึกษาของสงฆ์และสามเณร ที่ สณ.สันติภาพ ได้กล่าวอ้างถึง ก็ได้มีการตรวจสอบถึงที่มาข้อความที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก “รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย” แล้วได้ข้อสรุปว่า สามเณรสันติภาพ เคยบวชอยู่ที่วัดไชยสถาน เมื่อปี 2551 ปัจจุบันได้ย้ายไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดเสด็จ หมู่ 11 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 110 บ้านสันต้นธง หมู่ 2 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ภูมิลำเนาเดิมของ สณ.สันติภาพ พบว่า เป็นที่อยู่อาศัยของนางเกษร ประเสริฐพงศ์ อายุ 39 ปี มารดาของ สณ.สันติภาพ ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ ความเป็นอยู่ค่อนข้างยากลำบาก
นางเกสร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่เคยทราบเรื่องที่ลูกชายไปโพสต์ภาพขึ้นเฟซบุ๊ก เพราะหลังจากลูกบวชได้เพียง 2 ปีก็ย้ายไปอยู่กับพี่สาวของตนหรือป้าของเณรที่ลำปาง จากนั้นก็ไม่เคยพบหน้าลูกชายซึ่งบวชเป็นสามเณรมาได้นานกว่า 2 ปีแล้ว
“รู้สึกเสียใจกับข่าวมาก เพราะรักลูกมาก อยากให้ตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนหนังสืออย่างเดียว โดยไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น ส่วนภาพที่ปรากฏก็หวังว่าจะเป็นภาพของพี่สาวของตนที่อาจจะไปเยี่ยมเยียน หรือกราบไหว้ก็เป็นได้”
วานนี้(18 ก.ค.) นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ลำปาง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ติดตามตรวจสอบไปยังวัดต่าง ๆ ตามที่ สณ.สันติภาพ ยี่ปัญโญ ผู้ที่โพสต์ภาพพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งภาพหญิงสาวซบไหล่ - ถือดาบยืนตระหง่าน ฯลฯ ผ่านเฟซบุ๊ก “รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สามเณรรูปดังกล่าว ได้บวชมาจริงและมีพระอุปัชฌาย์ หรือไม่ หากไม่มีพระอุปัชฌาย์ ก็จะถือว่าสามเณรสันติภาพแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ต้องนำตัวไปสึก
บ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบว่า สณ.สันติภาพ ได้เดินทางไปที่วัดสวนดอก อ.เมืองลำปาง ที่เคยกล่าวอ้างว่า ได้บวชเป็นเณรที่วัดดังกล่าว เพื่อยืนยันเรื่องพระอุปัชฌาย์ เมื่อไปถึงกลับพบว่า สณ.สันติภาพ ได้หลบไปทางด้านหลังวัด จากนั้นได้ทำการถอดผ้าเหลือออก แล้วกลับไปสวมเสื้อผ้าฆราวาสเอง โดยไม่มีการทำพิธีสึกแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีพระอุปัชฌาย์รับรองได้ว่าเคยบวชให้ พร้อมบอกกับ จนท.ว่า สมัครใจสึกเอง
ทั้งนี้ พศจ.ลำปาง ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ สณ.สันติภาพ ว่า จำวัดอยู่ที่วัดหัวทุ่ง หมู่ 8 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ตั้งแต่เย็นวันที่ 17 ก.ค.56 ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่าที่บริเวณห้องโถงภายในวัด มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมานั่งฟังที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำปาง สอบถามสารเณรที่ปรากฏภาพในเฟซบุ๊กดังกล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำปาง ก็ได้ขอตัวกลับ และให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนแทน
จากการตรวจสอบทราบว่า สามเณรรูปดังกล่าวมีชื่อปรากฏในหนังสือสุทธิ ออกให้เมื่อปี 2550 ฉายา สณ.สันติภาพ ยี่ปัญโญ สังกัดมหานิกาย แต่ในหนังสือสุทธิ ซึ่งเป็นหนังสือที่แสดงถึงสถานะเพศ ไม่มีพระอุปัชฌาย์ อีกทั้งข้อความในหนังสือสามเณรสันติภาพ เป็นผู้เขียนเองทั้งหมด ไม่มีตราประทับแต่อย่างใด
เมื่อสอบถามถึงภาพที่ปรากฏทางเฟซบุ๊ก อาทิ ภาพที่กอดกับผู้หญิง สณ.สันติภาพ ระบุว่า เป็นภาพเก่า ขณะนั้นตนเองสึกเป็นฆราวาสแล้ว และผู้หญิงที่ปรากฏคือโยมแม่ ส่วนภาพอื่นก็มีทั้งตนเอง และโยมที่เป็นผู้ถ่ายแล้วโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก แต่ขณะนี้ได้เลิกเล่นเฟซบุ๊กไปแล้ว
สณ.สันติภาพ ให้ข้อมูลอีกว่า บวชเรียนตอนอายุประมาณ 14 ปี ที่วัดใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ก่อนจะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนวิสุทธิวิทยากร จ.ลำปาง เคยสึกออกไปแล้วครั้งหนึ่ง และกลับมาบวชใหม่เมื่อปี 2553 ที่วัดสวนดอก โดยจำวัดอยู่หลายแห่ง จนกระทั่งปัจจุบันมาจำวัดอยู่ที่วัดหัวทุ่งได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น
ด้านพระครูพิศาล พัฒนวิกรม เจ้าคณะตำบล ได้ให้สามเณรสันติภาพตัดสินใจว่าจะย้ายออกไปจำวัดที่อื่น หรือจะสึกออกจากความเป็นสมณเพศ
ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนไชยสถานวิทยา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 1 ในสถานศึกษาของสงฆ์และสามเณร ที่ สณ.สันติภาพ ได้กล่าวอ้างถึง ก็ได้มีการตรวจสอบถึงที่มาข้อความที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก “รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย” แล้วได้ข้อสรุปว่า สามเณรสันติภาพ เคยบวชอยู่ที่วัดไชยสถาน เมื่อปี 2551 ปัจจุบันได้ย้ายไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดเสด็จ หมู่ 11 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 110 บ้านสันต้นธง หมู่ 2 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ภูมิลำเนาเดิมของ สณ.สันติภาพ พบว่า เป็นที่อยู่อาศัยของนางเกษร ประเสริฐพงศ์ อายุ 39 ปี มารดาของ สณ.สันติภาพ ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ ความเป็นอยู่ค่อนข้างยากลำบาก
นางเกสร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่เคยทราบเรื่องที่ลูกชายไปโพสต์ภาพขึ้นเฟซบุ๊ก เพราะหลังจากลูกบวชได้เพียง 2 ปีก็ย้ายไปอยู่กับพี่สาวของตนหรือป้าของเณรที่ลำปาง จากนั้นก็ไม่เคยพบหน้าลูกชายซึ่งบวชเป็นสามเณรมาได้นานกว่า 2 ปีแล้ว
“รู้สึกเสียใจกับข่าวมาก เพราะรักลูกมาก อยากให้ตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนหนังสืออย่างเดียว โดยไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น ส่วนภาพที่ปรากฏก็หวังว่าจะเป็นภาพของพี่สาวของตนที่อาจจะไปเยี่ยมเยียน หรือกราบไหว้ก็เป็นได้”
