ASTVผู้จัดการรายวัน - “โตโย ไทร์” บุกไทยเต็มตัว โดยบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่นถือหุ้น 100% ประเดิมนำเข้ายาง 5 รุ่น พร้อมเสริมทัพด้วยยางจากประเทศมาเลเซียในปีหน้า หวังขยายตัวแทนจำหน่ายถึง 500 ราย และครองส่วนแบ่งในตลาดยางทดแทน 5% ภายใน 5 ปี เชื่อธุรกิจรุ่งแต่คาดตลาดยางรถยนต์ในภาพรวมปีนี้หดตัว 5-10%
นายคันจิ คะไซ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ทีทีที เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเปิดดำเนินงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยบริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้น100% ด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทพร้อมเข้ามาการบริหารการตลาด การขาย และการสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้แก่ตัวแทนจำหน่ายกว่า 250 รายทั่วประเทศ
“ที่ผ่านมาเราดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย แต่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงได้ก่อตั้งบริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด มาดูแลการขายและการตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ ทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจด้วยการส่งยางป้อนให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เช่นกัน”
นายสุตถิพล ลีนะวัต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 100 ล้านบาท ในการวางรากฐานของบริษัท ทั้งค่าดำเนินการต่างๆ การจ้างงาน และคลังสินค้า ซึ่งยังไม่รวมงบการตลาดในปีนี้อีก 60 ล้านบาท ที่เตรียมไว้ใช้ในการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ของแบรนด์ ด้วยการโฆษณาตามสื่อต่างๆ รวมถึงการออกโรดโชว์ตาม 12 หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายยางโตโย ไทร์ เป็นเท่าตัวหรือ จาก 250 รายเป็น 500 รายภายใน2ปี พร้อมตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาดยางทดแทน (R.E.M.)ของประเทศไทยไว้ที่ 5% ภายในปี 2561
อย่างไรก็ตามช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดยางรถยนต์ทดแทนเติบโต 3-5% มาตลอด ด้วยปริมาณการขายประมาณ 20 ล้านเส้นต่อปี แต่ปีนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัว ระดับ 5-10% ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดรถยนต์ แต่ในส่วนของบริษัทที่เพิ่งเข้ามาดำเนินธุรกิจ คาดว่าจะทำยอดขายปีนี้ได้ 300,000 เส้น และเพิ่มเป็น 600,000 เส้นภายในปี 2558
นายสุตถิพล กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนสร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ในประเทศไทย แต่หวังจะใช้โรงงานประเทศมาเลเซียที่เพิ่งเปิดดำเนินการไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นฐานการผลิตและส่งออกยางโตโย ไทร์ไปหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งบริษัทเตรียมนำเข้ายางจากมาเลเซียมาเปิดตลาดในไทยอีกหลายรุ่นในปีหน้า
ปัจจุบันบริษัทนำเข้ายางจากประเทศญี่ปุ่นมาทำตลาด 5 รุ่น คือ Proxes T1 Sport, Proxes ST2, Proxes C1S, Proxes T1R และ TOYO DRB ซึ่งถือเป็นยางสมรรถนะสูง แต่ราคาสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ เพราะยางจากประเทศญี่ปุ่นไม่เสียภาษีนำเข้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) อย่างรุ่น TOYO DRB ยางสำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็กมีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 3,000 บาทต่อเส้นเท่านั้
นายคันจิ คะไซ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ทีทีที เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเปิดดำเนินงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยบริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้น100% ด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทพร้อมเข้ามาการบริหารการตลาด การขาย และการสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้แก่ตัวแทนจำหน่ายกว่า 250 รายทั่วประเทศ
“ที่ผ่านมาเราดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย แต่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงได้ก่อตั้งบริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด มาดูแลการขายและการตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ ทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจด้วยการส่งยางป้อนให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เช่นกัน”
นายสุตถิพล ลีนะวัต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 100 ล้านบาท ในการวางรากฐานของบริษัท ทั้งค่าดำเนินการต่างๆ การจ้างงาน และคลังสินค้า ซึ่งยังไม่รวมงบการตลาดในปีนี้อีก 60 ล้านบาท ที่เตรียมไว้ใช้ในการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ของแบรนด์ ด้วยการโฆษณาตามสื่อต่างๆ รวมถึงการออกโรดโชว์ตาม 12 หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายยางโตโย ไทร์ เป็นเท่าตัวหรือ จาก 250 รายเป็น 500 รายภายใน2ปี พร้อมตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาดยางทดแทน (R.E.M.)ของประเทศไทยไว้ที่ 5% ภายในปี 2561
อย่างไรก็ตามช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดยางรถยนต์ทดแทนเติบโต 3-5% มาตลอด ด้วยปริมาณการขายประมาณ 20 ล้านเส้นต่อปี แต่ปีนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัว ระดับ 5-10% ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดรถยนต์ แต่ในส่วนของบริษัทที่เพิ่งเข้ามาดำเนินธุรกิจ คาดว่าจะทำยอดขายปีนี้ได้ 300,000 เส้น และเพิ่มเป็น 600,000 เส้นภายในปี 2558
นายสุตถิพล กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนสร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ในประเทศไทย แต่หวังจะใช้โรงงานประเทศมาเลเซียที่เพิ่งเปิดดำเนินการไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นฐานการผลิตและส่งออกยางโตโย ไทร์ไปหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งบริษัทเตรียมนำเข้ายางจากมาเลเซียมาเปิดตลาดในไทยอีกหลายรุ่นในปีหน้า
ปัจจุบันบริษัทนำเข้ายางจากประเทศญี่ปุ่นมาทำตลาด 5 รุ่น คือ Proxes T1 Sport, Proxes ST2, Proxes C1S, Proxes T1R และ TOYO DRB ซึ่งถือเป็นยางสมรรถนะสูง แต่ราคาสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ เพราะยางจากประเทศญี่ปุ่นไม่เสียภาษีนำเข้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) อย่างรุ่น TOYO DRB ยางสำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็กมีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 3,000 บาทต่อเส้นเท่านั้