xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องพระ (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

ผมเพิ่งเขียนเรื่องพระไปก็มีข่าวว่าอดีตพระมิตซูโอะ ได้จดทะเบียนสมรสแล้วกับสาวใหญ่ชื่อ คุณแอน มีภาพถ่ายปรากฏว่าสองคนไปเที่ยวกันดูท่าทางมีความสุขมาก

อดีตพระมิตซูโอะบวชมา 38 พรรษา กลับมาสึกเพราะความรัก ต้องถือว่าเป็นอานุภาพแห่งความรักจริงๆ เนื่องจากการตัดสินใจสึกนั้นยิ่งใหญ่มาก บางคนก็ว่าพระบวชมาตั้งแต่อายุ 16 ปี จึงไม่ชำนาญทางโลก เมื่อมีสีกามาพัวพันก็หลงไปง่ายๆ ดูหน้าตา รูปร่างของคุณแอนแล้วก็เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์สวยแถมมีลักยิ้มเสียด้วย

ทราบว่า มิตซูโอะเป็นพระนิกายเซน พวกเซนนี้ดูจะไม่ติดยึดรูปแบบเพราะถือว่าทำจิตว่างเสียแล้ว การบรรลุธรรมของเซนก็อาจเกิดขึ้นแบบฉับพลันได้ ดังนั้นความรักก็น่าจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้เหมือนกัน

มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าคนที่เคยบวชพระนานๆ แล้วสึกมามักจะเอาแต่ใจตัว ใครขัดใจไม่ได้ เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะความเคยตัวที่ตอนเป็นพระมีแต่คนคอยเอาใจ ผมรู้สึกท่านเหล่านี้หลายคนก็ยังไม่เห็นว่ามีพฤติกรรมเช่นนั้น

ในสมัยก่อนมีพระที่ถูกทางรัฐหาเรื่องรังแก นับตั้งแต่ครูบาศรีวิชัยที่ผู้คนเคารพนับถือมาก ขนาดที่ชักชวนคนให้มาร่วมกันทำทางขึ้นดอยสุเทพได้ ในยุคคอมมิวนิสต์พระก็ถูกเพ่งเล็งหลายรูปจนต้องถูกสึกออกมา และถูกจับกุมด้วย พระอาจารย์ที่ผมนับถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนา ท่านเอาหลักปฏิบัติของพม่ามา ท่านคือ พระพิมลธรรม หรือสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดมหาธาตุ มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งจอมพลสฤษดิ์ไปขอนแก่น ปรากฏว่าไม่มีประชาชนมาต้อนรับเหมือนเคย ถามข้าราชการได้ความว่า ผู้คนไปรับพระพิมลธรรมหมด จอมพลสฤษดิ์ก็เขม่นท่านมาตั้งแต่บัดนั้น พอมีการกล่าวหา ท่านตำรวจก็ไปบังคับให้ท่านสึก ท่านไม่ยอม นายตำรวจก็ล็อกคอเพื่อเปลื้องจักร ต่อมานายตำรวจคนนั้นก็ถูกรถชนคอหักได้ และคนอื่นๆ ที่ไปบังคับให้ท่านสึกก็มีอันเป็นไปทุกคน

ผมเคยไปหาท่านที่วัดมหาธาตุ เวลานั้นผมยังสูบบุหรี่อยู่ ท่านถามว่าเมื่อไรจะเลิก ท่านเขียนหนังสือไว้หลายเล่ม ท่านให้รูปถ่ายสมัยหนุ่มๆ มาด้วย ผมยังเก็บบูชาไว้ในห้องพระจนทุกวันนี้

ที่พม่าพระเก่งทางวิปัสสนามาก แต่พระพม่าไม่ค่อยเคร่ง ผมไปดูหนังที่พม่า มองขึ้นไปเห็นพระไปดูหนังด้วย 2 รูป แถมยังนั่งเอาเท้าพาดมาบนที่นั่งข้างหน้าอีกด้วย พระพม่ามีบทบาทสำคัญมากในการร่วมต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราช พระเข้าร่วมเดินขบวนเป็นประจำ แต่ในยุคเนวินครองเมืองก็จัดการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ที่พม่ามีหมอดูมากมาย ในย่างกุ้งจะมีป้ายโฆษณาสรรพคุณติดอยู่ตามถนน แถมเรียกตัวเองว่า โปรเฟสเซอร์เสียด้วย นอกจากนั้นยังมีหมอดูแม่นๆ ที่คนไทยนิยมกันมาก เรียกกันว่า “อีคิว” เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงดูครั้งละ 6 หมื่นบาท เล่าลือกันว่าแม่นมาก ความสามารถของอีทีคือทายตัวเลขในธนบัตร ก็ไม่รู้ว่าแกทำได้อย่างไร

ส่วนที่เขมร แต่ก่อนมีพระเขมรมาอยู่ในเมืองไทยหลายรูป ตอนผมเด็กๆ พ่อผมจะไปหาพระเขมรเสมอ ปรากฏว่าพระเหล่านี้เป็นพวกเขมรอิสระ ที่มีนายซัน ง๊อก ทัน เป็นหัวหน้า ซัน ง๊อก ทัน เคยเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และออกมาอยู่แถวชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ทางรัฐบาลไทยไม่ถูกกับเจ้าสีหนุ จึงให้ความสนับสนุนขบวนการเขมรอิสระ โดยให้เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ บางคนก็มีหน้าที่พูดวิทยุโจมตีสีหนุ พวกเขมรอิสระนี้มาอาศัยอยู่ในสำมโนครัวบ้านผม เพราะพ่อผมได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแล พวกนี้เลี้ยงง่ายเพราะชอบกินน้ำพริก ผัก ปลาทู

มาพูดถึงพระในเมืองไทยต่อ คนอย่างหลวงปู่เณรคำนี้มีหลายคน เณรคำนี้ทีแรกก็ดีๆ อยู่เคร่งครัดเป็นพระป่า แต่ต่อมาญาติโยมไปทำให้สุขสบาย มีคนทำบุญแยะจนเสียพระ

คนไทยที่ไปเป็นสมาชิกของชุมชนที่ทางพระจัดตั้งขึ้นมีจำนวนไม่น้อย เราอาจแยกคนออกเป็น 4 จำพวกคือ

พวกแรกนับถือพุทธ ไปวัดบ้างทำบุญใส่บาตร เรียกว่าเป็นพุทธศาสนิกชนทั่วไป

พวกที่สอง ไปวัดอย่างสม่ำเสมอ และทำบุญตักบาตรแต่ก็ไม่ได้เข้าไปอยู่กับวัดเลย

พวกที่สาม นิยมไปปฏิบัติธรรม ส่วนใหญ่สถานที่ปฏิบัติธรรมก็มีบรรยากาศดีคล้ายๆ รีสอร์ต คนเหล่านี้จะไปปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตรปีละครั้งเป็นอย่างน้อย คะเนว่ามีจำนวนเป็นแสน

พวกที่สี่ คือผู้ที่ไปอยู่กับวัด ทำงานให้วัดเลย มีอยู่ 2 แห่งใหญ่ๆ คือ ธรรมกาย กับสันติอโศก แต่สองพวกนี้มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือพวกธรรมกายมีวิธีการระดมทุนอย่างเป็นระบบ มีที่ดินมากมาย ส่วนพวกสันติอโศก เป็นพวกอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย มีชุมชนที่เลี้ยงตัวเองอยู่หลายแห่ง ผมมีเพื่อนนักเรียนที่ไปอยู่สันติอโศก ใส่เสื้อม่อฮ่อมเดินเท้าเปล่า แต่ดูมีความสุขดี

คนสี่จำพวกนี้มีอยู่ในสังคมไทย พวกแรกมีจำนวนมากที่สุด แต่พวกแรกบางคนก็ชอบไปปฏิบัติธรรมเหมือนกัน หลายคนก็ไปพบรักกันที่สถานปฏิบัติธรรมนั่นแหละ
กำลังโหลดความคิดเห็น