แถลงจับ อดีต ตร.กองปราบฯ หน่วยคอมมานโด ตั้งแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ขณะขับรถล่องใต้ ตามใบสั่ง เหตุติดหนี้พนัน หลังผู้เสียหายแจ้งเบาะแสผ่าน www.lostcar.go.th ของกรมตำรวจ
วานนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.(ผอ.ศปจร.ตร.) พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.กก.4 บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต ภ.จว.ชุมพร แถลงข่าวจับกุม นายพันธกร หรือ เกษม อินทร์แก้ว อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 7 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้ต้องหาขโมยรถยนต์ พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บบ 8377 ลพบุรี และแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายแดง ณ 9529 กทม.ที่ซุกซ่อนอยู่ในรถ อีก 1 แผ่น ซึ่งจับกุมได้บริเวณจุดตรวจบ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2556 นางสำราญ ไชยบุบผา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329 หมู่ 2 ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้ไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซีในตัวเมือง จ.ลพบุรี เมื่อกลับออกมายังที่จอดรถปรากฏว่ารถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บบ 8377 ลพบุรี ของตนเองได้หายไป จึงไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี และพนักงานสอบสวนได้บันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลในเว็บไซต์ www.lostcar.go.th ของ ศปจร.ตร.โดยข้อมูลจะลิงก์ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 311 ด่านทั่วประเทศ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2556 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กก.4 บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และด่านตรวจชุมพร บก.ปส.4 ได้ร่วมกันตรวจและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บนเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ระหว่างรอยต่อของจ.ประจวบคีรีขันธ์กับ จ.ชุมพร โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการคัดกรองรถเพื่อทำการตรวจค้น
จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.22 น.ของวันที่ 29 มิ.ย.2556 ได้พบว่ารถคันดังกล่าวที่แจ้งหายไว้จากเว็บไซต์ www.lostcar.go.th และตรงตามหมายเลขทะเบียน บบ 8377 ลพบุรี รุ่นยี่ห้อสีตรงกันหมด กำลังใช้เส้นทางลงมาทางภาคใต้ผ่าน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ส่งสัญญาณไปยังจุดตรวจค้นต่อไป บริเวณด่านตรวจบ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ให้ทำการสกัดกั้น แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไม่หยุดรถและฟังคำสั่งเจ้าพนักงานพยายามขับรถหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้พร้อมรถของกลาง ทราบชื่อคนขับ คือ นายพันธกร อินทร์แก้ว ได้ควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายพันธกร อินทร์แก้ว ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองเป็นตำรวจ คอมมานโด สังกัดกองปราบปราม ยศ ส.ต.อ.และถูกให้ออกจากราชการ เมื่อ ปี 2543 ข้อหากรรโชกทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ถูกจำคุก เป็นเวลา 4 ปี ที่เรือนจำธัญบุรี กระทั่งปี 2547 เมื่อออกมาก็กลับมาทำไร่ที่บ้าน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายต้น ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ที่รู้จักกันในเรือนจำจังหวัดธัญบุรี ได้สั่งการให้ขึ้นมารับรถและนำไปขายที่บ่อน อ.หาดใหญ่ โดยให้มารับรถที่วัดแห่งหนึ่งย่านคลอง 14 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นจึงได้ขึ้นรถไฟเข้ามากรุงเทพฯ และต่อรถตู้มาที่วัด แถวคลอง 14 โดยได้เจอกับนายต้น ซึ่งนายต้นได้ยื่นกุญแจรถ พร้อมรถคันดังกล่าวให้ บอกว่าให้เอาไปจำนำในบ่อนที่หาดใหญ่ พร้อมทั้งให้เงินมา 6,000 บาทเป็นค่าเดินทาง และเมื่อจำนำได้ จะแบ่งเงินให้ตนเอง ตนก็เป็นคนที่ติดการพนันจึงได้รับรถเอาไว้ จากนั้นได้ขับรถกลับภาคใต้ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ 43/2553 ลงวันที่ 26 ม.ค.2553 ในคดีจำหน่ายยาเสพติด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
สำหรับการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการคัดกรองตรวจค้นรถของ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปจร.ตร.มาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามด่านจุดตรวจ จุดสกัดจับ ทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) ได้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานโดยเปิดเว็บไซต์ www.lostcar.go.th เป็นช่องทางรับฐานข้อมูลที่ถูกโจรกรรม การแจ้งสกัดจับ การให้บริการข้อมูลกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานะของรถผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเป็นศูนย์กลางรับแจ้งเบาะแสการโจรกรรมรถจากประชาชนด้วย โดยสายด่วน 1192 จะมีหลักการทำงานควบคู่และสนับสนุนในการแจ้งสกัดจับรถ ถูกโจรกรรมรถหายหรือให้ติดตามรถ และส่งข้อมูลทาง sms ให้จุดสกัดจับทั่วประเทศดำเนินการสกัดจับ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสับเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนที่ประสบเหตุรถหายหรือพบเห็นเหตุการโจรกรรมรถ สามารถแจ้งไปยังโทรศัพท์สายด่วน 1192 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ทางตำรวจเตรียมเชิญ ตัวแทนบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บริษัทประกันภัย เพื่อมาพูดคุยหารือ ในประเด็นการตัดสัญญาณ รีโมตคอนโทรล ซึ่งประชาชนที่ติดตั้งรีโมตล็อกรถไว้ อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะว่าคนร้ายได้ใช้เครื่องตัดสัญญาณรีโมตที่ขณะนี้มีอยู่จริง ดังนั้นหากเจ้าของรถได้ล็อกรถยนต์ด้วยรีโมต ก็ให้ลองขยับประตูดูว่ามันล้อกจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันรถหาย หรือถูกโจรกรรม นอกจากนี้จะมีการสาธิตการตั้งสัญญาณรีโมตของคนร้ายว่ามีอยู่จริง ซึ่งประชาชนที่ใช้รถยนต์จะต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะแถลงข่าว นางสำราญ ไชยบุบผา เจ้าของรถยนต์ได้เดินทางมาดูรถ เมื่อเห็นรถของตนเองอยู่ต่อหน้าผู้ต้องหา ก็รีบเดินปรี่เข้าไปหา นายพันธกร ผู้ต้องหา และได้ใช้มือตบไปที่หน้าผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาขอร้องให้หยุด
โดย นางสำราญ กล่าวต่อหน้าผู้ต้องหาว่า ตนผ่อนรถคันดังกล่าวมานาน เหลืออีกสองงวดก็จะผ่อนหมด กว่าจะหาเงินมาผ่อนรถได้มันยาก คุณมาขโมยรถของฉันไป ฉันแทบเป็นลม นึกว่ารถหายไปแล้วจะไม่ได้คืน จากนั้นนางสำราญก็ได้มอบเงินสดจำนวน 1 แสนบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอีกด้วย.
วานนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.(ผอ.ศปจร.ตร.) พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.กก.4 บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต ภ.จว.ชุมพร แถลงข่าวจับกุม นายพันธกร หรือ เกษม อินทร์แก้ว อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 7 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้ต้องหาขโมยรถยนต์ พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บบ 8377 ลพบุรี และแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายแดง ณ 9529 กทม.ที่ซุกซ่อนอยู่ในรถ อีก 1 แผ่น ซึ่งจับกุมได้บริเวณจุดตรวจบ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2556 นางสำราญ ไชยบุบผา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329 หมู่ 2 ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้ไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซีในตัวเมือง จ.ลพบุรี เมื่อกลับออกมายังที่จอดรถปรากฏว่ารถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บบ 8377 ลพบุรี ของตนเองได้หายไป จึงไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี และพนักงานสอบสวนได้บันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลในเว็บไซต์ www.lostcar.go.th ของ ศปจร.ตร.โดยข้อมูลจะลิงก์ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 311 ด่านทั่วประเทศ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2556 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กก.4 บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และด่านตรวจชุมพร บก.ปส.4 ได้ร่วมกันตรวจและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บนเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ระหว่างรอยต่อของจ.ประจวบคีรีขันธ์กับ จ.ชุมพร โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการคัดกรองรถเพื่อทำการตรวจค้น
จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.22 น.ของวันที่ 29 มิ.ย.2556 ได้พบว่ารถคันดังกล่าวที่แจ้งหายไว้จากเว็บไซต์ www.lostcar.go.th และตรงตามหมายเลขทะเบียน บบ 8377 ลพบุรี รุ่นยี่ห้อสีตรงกันหมด กำลังใช้เส้นทางลงมาทางภาคใต้ผ่าน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ส่งสัญญาณไปยังจุดตรวจค้นต่อไป บริเวณด่านตรวจบ้านพละ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ให้ทำการสกัดกั้น แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไม่หยุดรถและฟังคำสั่งเจ้าพนักงานพยายามขับรถหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้พร้อมรถของกลาง ทราบชื่อคนขับ คือ นายพันธกร อินทร์แก้ว ได้ควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายพันธกร อินทร์แก้ว ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองเป็นตำรวจ คอมมานโด สังกัดกองปราบปราม ยศ ส.ต.อ.และถูกให้ออกจากราชการ เมื่อ ปี 2543 ข้อหากรรโชกทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ถูกจำคุก เป็นเวลา 4 ปี ที่เรือนจำธัญบุรี กระทั่งปี 2547 เมื่อออกมาก็กลับมาทำไร่ที่บ้าน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายต้น ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ที่รู้จักกันในเรือนจำจังหวัดธัญบุรี ได้สั่งการให้ขึ้นมารับรถและนำไปขายที่บ่อน อ.หาดใหญ่ โดยให้มารับรถที่วัดแห่งหนึ่งย่านคลอง 14 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นจึงได้ขึ้นรถไฟเข้ามากรุงเทพฯ และต่อรถตู้มาที่วัด แถวคลอง 14 โดยได้เจอกับนายต้น ซึ่งนายต้นได้ยื่นกุญแจรถ พร้อมรถคันดังกล่าวให้ บอกว่าให้เอาไปจำนำในบ่อนที่หาดใหญ่ พร้อมทั้งให้เงินมา 6,000 บาทเป็นค่าเดินทาง และเมื่อจำนำได้ จะแบ่งเงินให้ตนเอง ตนก็เป็นคนที่ติดการพนันจึงได้รับรถเอาไว้ จากนั้นได้ขับรถกลับภาคใต้ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ 43/2553 ลงวันที่ 26 ม.ค.2553 ในคดีจำหน่ายยาเสพติด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
สำหรับการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการคัดกรองตรวจค้นรถของ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปจร.ตร.มาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามด่านจุดตรวจ จุดสกัดจับ ทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) ได้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานโดยเปิดเว็บไซต์ www.lostcar.go.th เป็นช่องทางรับฐานข้อมูลที่ถูกโจรกรรม การแจ้งสกัดจับ การให้บริการข้อมูลกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานะของรถผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเป็นศูนย์กลางรับแจ้งเบาะแสการโจรกรรมรถจากประชาชนด้วย โดยสายด่วน 1192 จะมีหลักการทำงานควบคู่และสนับสนุนในการแจ้งสกัดจับรถ ถูกโจรกรรมรถหายหรือให้ติดตามรถ และส่งข้อมูลทาง sms ให้จุดสกัดจับทั่วประเทศดำเนินการสกัดจับ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสับเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนที่ประสบเหตุรถหายหรือพบเห็นเหตุการโจรกรรมรถ สามารถแจ้งไปยังโทรศัพท์สายด่วน 1192 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ทางตำรวจเตรียมเชิญ ตัวแทนบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บริษัทประกันภัย เพื่อมาพูดคุยหารือ ในประเด็นการตัดสัญญาณ รีโมตคอนโทรล ซึ่งประชาชนที่ติดตั้งรีโมตล็อกรถไว้ อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะว่าคนร้ายได้ใช้เครื่องตัดสัญญาณรีโมตที่ขณะนี้มีอยู่จริง ดังนั้นหากเจ้าของรถได้ล็อกรถยนต์ด้วยรีโมต ก็ให้ลองขยับประตูดูว่ามันล้อกจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันรถหาย หรือถูกโจรกรรม นอกจากนี้จะมีการสาธิตการตั้งสัญญาณรีโมตของคนร้ายว่ามีอยู่จริง ซึ่งประชาชนที่ใช้รถยนต์จะต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะแถลงข่าว นางสำราญ ไชยบุบผา เจ้าของรถยนต์ได้เดินทางมาดูรถ เมื่อเห็นรถของตนเองอยู่ต่อหน้าผู้ต้องหา ก็รีบเดินปรี่เข้าไปหา นายพันธกร ผู้ต้องหา และได้ใช้มือตบไปที่หน้าผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาขอร้องให้หยุด
โดย นางสำราญ กล่าวต่อหน้าผู้ต้องหาว่า ตนผ่อนรถคันดังกล่าวมานาน เหลืออีกสองงวดก็จะผ่อนหมด กว่าจะหาเงินมาผ่อนรถได้มันยาก คุณมาขโมยรถของฉันไป ฉันแทบเป็นลม นึกว่ารถหายไปแล้วจะไม่ได้คืน จากนั้นนางสำราญก็ได้มอบเงินสดจำนวน 1 แสนบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอีกด้วย.