วานนี้ ( 13 มิ.ย.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในการประชุมกกต. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาเรื่องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 ในการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 6 ม.ค.56 กรณีกล่าวหาว่า นายอุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์ ส.ส. ชลบุรี เขต 2 กระทำการโฆษณาหาเสียงด้วยวิธีใช้สื่อโฆษณาหาเสียงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์ ระบบเคเบิ้ลทีวี ของบริษัท เคเบิ้ลทีวี (ชลบุรี) จำกัด จึงเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.และ ส.ว. มาตรา 59 ประกอบ 60 และ มาตรา 147 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครส.ส. หาเสียงผ่านสื่อวิทยุโทรทัศน์เอง ถ้าจะกระทำ ต้องเป็นกรณีที่ได้รับการจัดสรรจาก กกต. ซึ่งจะต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
จากเหตุดังกล่าว กกต. จึงมีมติสั่งดำเนินคดีอาญา กับนายอุกฤษณ์ และบริษัทเคเบิ้ลทีวี โดยมิได้มีการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากกฎหมาย ไม่ได้กำหนดโทษในกรณีดังกล่าวไว้
นายภุชงค์ ยังกล่าวชี้แจงถึงกรณี นายสรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครราชสีมา ลูกชายของ นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งว่า กกต.ได้มีมติให้ใบเหลือง หรือ สั่งเลือกตั้งใหม่นายกเทศมนตรีนครราชสีมา และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 6 คน เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อได้ว่า ให้หัวคะแนนไปกระทำการซื้อเสียง แต่หลักฐานไม่ถึงตัวของนายสรวุฒิ ว่ามีส่วนรู้เห็นด้วย จึงไม่ได้แจกใบแดง หรือ สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายสรวุฒิ โดยขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างยกร่างมติ เพื่อยื่นคำฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ เพื่อให้มีคำพิพากษา สั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งหากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งตามที่กกต.ร้องขอ นายสรวุฒิก็ยังสามารถที่จะลงสมัครแข่งขันใหม่ได้
จากเหตุดังกล่าว กกต. จึงมีมติสั่งดำเนินคดีอาญา กับนายอุกฤษณ์ และบริษัทเคเบิ้ลทีวี โดยมิได้มีการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากกฎหมาย ไม่ได้กำหนดโทษในกรณีดังกล่าวไว้
นายภุชงค์ ยังกล่าวชี้แจงถึงกรณี นายสรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครราชสีมา ลูกชายของ นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งว่า กกต.ได้มีมติให้ใบเหลือง หรือ สั่งเลือกตั้งใหม่นายกเทศมนตรีนครราชสีมา และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 6 คน เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อได้ว่า ให้หัวคะแนนไปกระทำการซื้อเสียง แต่หลักฐานไม่ถึงตัวของนายสรวุฒิ ว่ามีส่วนรู้เห็นด้วย จึงไม่ได้แจกใบแดง หรือ สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายสรวุฒิ โดยขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างยกร่างมติ เพื่อยื่นคำฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ เพื่อให้มีคำพิพากษา สั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งหากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งตามที่กกต.ร้องขอ นายสรวุฒิก็ยังสามารถที่จะลงสมัครแข่งขันใหม่ได้
