ASTVผู้จัดการ – บอสใหญ่เวิร์คพอยท์เรียกประชุมพนักงานแจงกรณีข่าวฉาว “สิทธัตถะ-เท่ง” ชี้มีขบวนการทำลายบริษัท เผยมีพระให้กำลังใจระบุ “แค่หมาเยี่ยวรดภูเขาทอง”
จากกรณีข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวพันกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่กรณีนายสิทธัตถะ เอมเมอรัล หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซัน 3 เรื่อยมาในกรณี คำพูด “อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน” ของดาราตลกนักแสดงและพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังในสังกัดอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” หรือ นายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ไปร่วมงานวันเกิดนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำ นปช. เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง และกรณีล่าสุดคือ โลกโซเชียลมีเดียแพร่กระจายภาพ “เท่ง เถิดเทิง” จากรายการชิงร้อยชิงล้าน ซันไชน์เดย์ ออกอากาศในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 โดยพยายามเชื่อมโยงภาพดังกล่าวกับการกระทบกระเทียบสถาบันเบื้องสูง
หลังจากที่วานนี้ (10 มิ.ย.) เท่ง เถิดเทิง พร้อมทนายความ ได้เข้าพบ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อขอลงวันทึกประจำวัน กรณีที่มีผู้นำภาพจากละครตลกในรายการชิงร้อยชิงล้าน เมื่อวันที่ 17 ก.พ.56 ไปโพสต์พร้อมส่งต่อในเฟซบุ๊กกล่าวหาว่าเป็นการหมิ่นเบื้องสูง โดยนำหลักฐานภาพที่โดนตัดไปโพสต์ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน ก็มีรายงานข่าวว่า บ่ายวันเดียวกัน ในเวลา 15.30น. “เสี่ยตา” นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ ได้เรียกพนักงานใน บ.เวิร์คพอยท์ และบริษัทในเครือทุกคน เข้าชี้แจงถึงปัญหาข่าวฉาวที่เกิดขึ้นประมาณครึ่งชั่วโมง นี่คือข้อความบางตอนที่นายปัญญากล่าวกับพนักงาน
“วันนี้เรามาเจอกันอย่างมีความสุข แต่เป็นความสุขที่ทุกคนที่ไม่ใช่เวิร์คพอยท์เริ่มรับไม่ได้ เนื่องจากเวิร์คพอยท์แข็งแกร่งเกินไป รักกันมากเกินไป เก่งมากเกินไป จึงเกิดการทำลายบริษัท ในวันนี้จึงต้องมีการบอกกล่าว เพราะเหตุการณ์หลายๆ เรื่อง ฟังไปแล้วอาจจะปกติ แต่เมื่อดูไปแล้วกลับเหมือนดำเนินการกันเป็นขบวนการ จบวันนี้พรุ่งนี้มี จบอาทิตย์นี้อาทิตย์หน้ามี ซึ่งไม่ปกติ” นายปัญญากล่าว
“ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เริ่มห่วง พระที่พี่นับถือก็มาให้ศีลให้พร แล้วก็ให้กำลังใจบอกว่า ... หมาเยี่ยวรดภูเขาทองคุณปัญญา เวิร์คพอยท์แข็งแกร่งมาก รักกันมาก เขาหมดหนทางแล้ว เขาจึงต้องใช้วิธีอย่างนี้….”
ต่อมานายปัญญากล่าวว่า ตนและนายประภาส ชลศรานนท์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทต่างทำความดีให้แก่สังคมมาตลอด จนตนเห็นว่ามีบางคนทนไม่ได้กับสิ่งที่ตนทำจึงพยายามทำลายตนและ บ.เวิร์คพอยท์ โดยเฉพาะในกรณีนายสิทธัตถะ เอมเมอรัล ในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ต่อเนื่องมาถึง กรณีของเท่ง เถิดเทิง ซึ่งกรณีหลังมีการดึงฟ้าลงมาต่ำ ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
“บริษัทเราเทิดทูนสถาบันอย่างเต็มที่ วันเกิดพี่ทุกปีเรามีของพระราชทานมา ทุกคนเห็น เราต้องเข้าใจ เราอย่ายอมเรื่องนี้ คุณเท่ง พี่ให้ไปแจ้งความกับตำรวจ กันไว้ก่อน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ”
สำหรับกรณีนายสิทธัตถะ เอมเมอรัล นายปัญญาชี้แจงว่า นายสิทธัตถะมาสมัครร่วมรายการพร้อมกับครอบครัว โดยยืนยันว่าทางทีมงานบริษัทไม่ได้เตี๊ยมให้มา ซึ่งนายสิทธัตถะชื่อนี้จริงมาตั้งแต่การสมัครรอบแรกที่เซ็นทรัล จนถึงรอบที่ 2 ที่โรงละครอักษรา ขณะที่การแข่งขันก็ดำเนินไปตามปกติ โดยไม่มีข้อมูลว่านายสิทธัตถะมีความผิดปกติทางพฤติกรรม นอกจากนี้ก็ไม่มีกรรมการท่านใดดูถูกพฤติกรรมหรือเหยียดหยามความเป็นคนแต่อย่างใด และก็จบ ไม่ผ่านเข้ารอบ ก็แยกย้ายกลับบ้าน จนกระทั่งมีการออกอากา
เมื่อเรื่องนายสิทธัตถะเริ่มสร่างซาลงไป กลับมีกรณีภาพของ นายพงษ์ศักดิ์ หรือ “เท่ง เถิดเทิง” ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ซันไชน์เดย์ ออกอากาศในวันที่ 17 ก.พ. 2556 โดยมีการเชื่อมโยงภาพดังกล่าวกับภาพของราชว
“มาใหม่คุณเท่ง เอารูปไปประกบ ... เป็นใครก็ต้องตกใจ สุดท้ายไปดูเทปแล้วก็มาตั้งแต่กุมภาพันธ์ แล้วไปดูมันก็แวบเดียวจริงๆ เรื่องก็เป็นเรื่องญี่ปุ่น ไม่เกี่ยวกับประเทศไทยด้วย โชคดีที่วันนั้นไม่ได้แสดงเกี่ยวกับราชบัลลังก์ การปกครอง หรือเจ้าอะไรก็ไม่เกี่ยว คนที่ครอปเอาไปได้มันต้องมีความเชี่ยวชาญจริงๆ ที่เอาภาพออกมา ซึ่งเรายอมไม่ได้ที่จะโดนกล่าวหาอย่างนั้น”
นอกจากนี้ นายใหญ่เวิร์คพอยท์ยังได้กล่าวปลุกใจพนักงานให้สู้กับขบวนการทำลายบริษัท พร้อมกันนั้นยังกล่าวด้วยว่าตนอยากจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน 10 เดือน หรือ 20 เดือนด้วยซ้ำ ซึ่งสร้างเสียงเฮให้กับพนักงานดังทั่วห้องประชุม
จากกรณีข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวพันกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่กรณีนายสิทธัตถะ เอมเมอรัล หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซัน 3 เรื่อยมาในกรณี คำพูด “อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน” ของดาราตลกนักแสดงและพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังในสังกัดอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” หรือ นายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ไปร่วมงานวันเกิดนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำ นปช. เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง และกรณีล่าสุดคือ โลกโซเชียลมีเดียแพร่กระจายภาพ “เท่ง เถิดเทิง” จากรายการชิงร้อยชิงล้าน ซันไชน์เดย์ ออกอากาศในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 โดยพยายามเชื่อมโยงภาพดังกล่าวกับการกระทบกระเทียบสถาบันเบื้องสูง
หลังจากที่วานนี้ (10 มิ.ย.) เท่ง เถิดเทิง พร้อมทนายความ ได้เข้าพบ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อขอลงวันทึกประจำวัน กรณีที่มีผู้นำภาพจากละครตลกในรายการชิงร้อยชิงล้าน เมื่อวันที่ 17 ก.พ.56 ไปโพสต์พร้อมส่งต่อในเฟซบุ๊กกล่าวหาว่าเป็นการหมิ่นเบื้องสูง โดยนำหลักฐานภาพที่โดนตัดไปโพสต์ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน ก็มีรายงานข่าวว่า บ่ายวันเดียวกัน ในเวลา 15.30น. “เสี่ยตา” นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ ได้เรียกพนักงานใน บ.เวิร์คพอยท์ และบริษัทในเครือทุกคน เข้าชี้แจงถึงปัญหาข่าวฉาวที่เกิดขึ้นประมาณครึ่งชั่วโมง นี่คือข้อความบางตอนที่นายปัญญากล่าวกับพนักงาน
“วันนี้เรามาเจอกันอย่างมีความสุข แต่เป็นความสุขที่ทุกคนที่ไม่ใช่เวิร์คพอยท์เริ่มรับไม่ได้ เนื่องจากเวิร์คพอยท์แข็งแกร่งเกินไป รักกันมากเกินไป เก่งมากเกินไป จึงเกิดการทำลายบริษัท ในวันนี้จึงต้องมีการบอกกล่าว เพราะเหตุการณ์หลายๆ เรื่อง ฟังไปแล้วอาจจะปกติ แต่เมื่อดูไปแล้วกลับเหมือนดำเนินการกันเป็นขบวนการ จบวันนี้พรุ่งนี้มี จบอาทิตย์นี้อาทิตย์หน้ามี ซึ่งไม่ปกติ” นายปัญญากล่าว
“ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เริ่มห่วง พระที่พี่นับถือก็มาให้ศีลให้พร แล้วก็ให้กำลังใจบอกว่า ... หมาเยี่ยวรดภูเขาทองคุณปัญญา เวิร์คพอยท์แข็งแกร่งมาก รักกันมาก เขาหมดหนทางแล้ว เขาจึงต้องใช้วิธีอย่างนี้….”
ต่อมานายปัญญากล่าวว่า ตนและนายประภาส ชลศรานนท์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทต่างทำความดีให้แก่สังคมมาตลอด จนตนเห็นว่ามีบางคนทนไม่ได้กับสิ่งที่ตนทำจึงพยายามทำลายตนและ บ.เวิร์คพอยท์ โดยเฉพาะในกรณีนายสิทธัตถะ เอมเมอรัล ในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ต่อเนื่องมาถึง กรณีของเท่ง เถิดเทิง ซึ่งกรณีหลังมีการดึงฟ้าลงมาต่ำ ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
“บริษัทเราเทิดทูนสถาบันอย่างเต็มที่ วันเกิดพี่ทุกปีเรามีของพระราชทานมา ทุกคนเห็น เราต้องเข้าใจ เราอย่ายอมเรื่องนี้ คุณเท่ง พี่ให้ไปแจ้งความกับตำรวจ กันไว้ก่อน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ”
สำหรับกรณีนายสิทธัตถะ เอมเมอรัล นายปัญญาชี้แจงว่า นายสิทธัตถะมาสมัครร่วมรายการพร้อมกับครอบครัว โดยยืนยันว่าทางทีมงานบริษัทไม่ได้เตี๊ยมให้มา ซึ่งนายสิทธัตถะชื่อนี้จริงมาตั้งแต่การสมัครรอบแรกที่เซ็นทรัล จนถึงรอบที่ 2 ที่โรงละครอักษรา ขณะที่การแข่งขันก็ดำเนินไปตามปกติ โดยไม่มีข้อมูลว่านายสิทธัตถะมีความผิดปกติทางพฤติกรรม นอกจากนี้ก็ไม่มีกรรมการท่านใดดูถูกพฤติกรรมหรือเหยียดหยามความเป็นคนแต่อย่างใด และก็จบ ไม่ผ่านเข้ารอบ ก็แยกย้ายกลับบ้าน จนกระทั่งมีการออกอากา
เมื่อเรื่องนายสิทธัตถะเริ่มสร่างซาลงไป กลับมีกรณีภาพของ นายพงษ์ศักดิ์ หรือ “เท่ง เถิดเทิง” ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ซันไชน์เดย์ ออกอากาศในวันที่ 17 ก.พ. 2556 โดยมีการเชื่อมโยงภาพดังกล่าวกับภาพของราชว
“มาใหม่คุณเท่ง เอารูปไปประกบ ... เป็นใครก็ต้องตกใจ สุดท้ายไปดูเทปแล้วก็มาตั้งแต่กุมภาพันธ์ แล้วไปดูมันก็แวบเดียวจริงๆ เรื่องก็เป็นเรื่องญี่ปุ่น ไม่เกี่ยวกับประเทศไทยด้วย โชคดีที่วันนั้นไม่ได้แสดงเกี่ยวกับราชบัลลังก์ การปกครอง หรือเจ้าอะไรก็ไม่เกี่ยว คนที่ครอปเอาไปได้มันต้องมีความเชี่ยวชาญจริงๆ ที่เอาภาพออกมา ซึ่งเรายอมไม่ได้ที่จะโดนกล่าวหาอย่างนั้น”
นอกจากนี้ นายใหญ่เวิร์คพอยท์ยังได้กล่าวปลุกใจพนักงานให้สู้กับขบวนการทำลายบริษัท พร้อมกันนั้นยังกล่าวด้วยว่าตนอยากจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน 10 เดือน หรือ 20 เดือนด้วยซ้ำ ซึ่งสร้างเสียงเฮให้กับพนักงานดังทั่วห้องประชุม