กาญจนบุรี - วงการสงฆ์ช็อก พุทธศาสนิกชนเศร้า "พระมิตซูโอะ คเวสโก" พระชื่อดังสายวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม กาญจนบุรี ลาสิกขาแล้วที่วัดชนะสงคราม ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นบ้านเกิดทันที สาเหตุป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทำให้ปฏิบัติภารกิจสงฆ์ได้ไม่เป็นปกติ
มีรายงานข่าวแจ้งว่า พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก อายุ 63 ปี พระสายวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้ลาสิกขาบทแล้วเมื่อเช้าวานนี้ (10 มิ.ย.) ที่วัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ภายหลังการลาสิกขาบท มิตซูโอะ ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศญี่ปุ่นทันที
นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบเกี่ยวกับเรื่องการลาสิขาบถของเจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม เบื้องต้นมีสาเหตุมาจากท่านเป็นโรคเบาหวานซึ่งเป็นประจำตัวมานาน ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรงไม่สามารถปฏิบัติภารกิจทางสงฆ์ได้เป็นปกติ จึงตัดสินใจลาสิขาบถ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิมายา โคตมี ซึ่งเป็นมูลนิธิที่พระมิตซูโอะสร้างขึ้น ในวัดป่าสุนันท์วนาราม โดยจะทำการแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้งในวันนี้ (11 มิ.ย.)
นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค เปิดเผยว่า ท่านได้ลาสิกขาบทแล้ว โดยตอนนี้พระอาจารย์หนูพรม รองเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส แต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่ที่วัดก็เลยยังไม่ทราบว่าท่านจะมีแนวทางอย่างไร
ด้านแม่ชีพิณพรรณ เนียมมุณี แม่ชีที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุนันทวนารามนานกว่า 8 ปี กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องหลวงพ่อลาสิกขาบท เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ของวันที่ 10 มิ.ย. โดยทางมูลนิธิฯได้แจ้งมายังทางวัด รู้สึกตกใจมาก โดยลาสิกขาบทที่วัดชนะสงครามกทม.และตอนนี้เดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว ส่วนสาเหตุทราบว่าท่านป่วยเป็นโรคเบาหวานมานานกว่า 2 ปีแล้ว ท่านไม่ค่อยแข็งแรง และมีกิจนิมนต์ตลอดเกือบทุกวัน และอีกเหตุหนึ่งน่าจะมาจากท่านเคยพูดกับญาติโยมว่าท่านเป็นคนญี่ปุ่น หากมีโอกาสก็อยากจะกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นบ้าง เพราะคนญี่ปุ่นขณะนี้ยังมีคนที่ลำบากมากเช่นกัน ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องสุขภาพกับเรื่องการอยากกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นทำให้ท่านลาสิขาบท
"แต่เรื่องอื่นๆ ไม่เคยได้รับทราบ ท่านเป็นพระที่น่ายกย่องนับถือเป็นพระที่มีคำสอนให้แก่ญาติธรรมเพื่อให้เกิดสติในการแก้ปัญหาต่างๆจำนวนมาก รู้สึกเสียดายมาก"
นายศุภมิตร แก้วงอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรดยค เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้มีโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก ยิ่งเมื่อสอบถามมายังวัดทราบว่าท่านลาสิขาบทจริงยิ่งเสียใจ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความรักและบูชาท่านมาก เพราะท่านให้ทั้งการพัฒนาคน ทั้งพัฒนาท้องถิ่น ท่านให้ทั้งทุนการศึกษากับเด็กเยาวชนที่ด้อยโอกาสได้มีเงินเรียนหนังสือ วัดมีลูกศิษย์มามากชาวบ้านก็ทำมาค้าขายได้มีรายได้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ตนรู้สึกเสียดายท่านมาก ซึ่งต้องรอดูว่าท่านอาจารย์หนูพรมท่านจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในส่วนของผู้นำท้องที่ก็พร้อมที่จะช่วยวัดให้สามารถพัฒนาต่อไป
สำหรับประวัติ พระอาจารย์มิตซูโอะ เป็นพระภิกษุชาวญี่ปุ่น บวชในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท คณะมหานิกาย เป็นศิษย์รุ่นแรกของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก มีชื่อเดิมว่า "มิตซูโอะ ชิบาฮาชิ" เป็นชาวจังหวัดอิวะเตะ ประเทศญี่ปุ่น พระอาจารย์มิตซูโอะ ได้เดินทางมาสู่ประเทศไทย หลังจากได้เดินทางแสวงหาธรรมะที่แท้จริงมาแล้วจากหลายประเทศทั่วโลก ไปเป็นที่อินเดียอีกครั้งในปี พ.ศ.2517 แต่ได้เปลี่ยนใจเมื่อระลึกได้ถึงพุทธคยา เห็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ก็ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าและประจักษ์ต่อใจตนเองว่า แท้จริงแล้วความสุขที่แท้จริงอยู่ที่จิตใจภายในตนเอง จึงหยุดการแสวงหาจากภายนอกมาสู่การแสวงหาจากภายใน
ในชั้นแรกพระอาจารย์มิตซูโอะ ไปฝึกโยคะอยู่ที่สำนักโยคีแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย และเกิดความพอใจที่จะเป็นโยคีอยู่ที่อินเดียตลอดชีวิต แต่ต่อมาเกิดปัญหาว่าวีซ่าของท่านหมดอายุ ท่านจึงเดินทางมาประเทศไทยอีกครั้ง เพราะมีผู้แนะนำให้ท่านไปศึกษาพุทธศาสนาที่ประเทศไทย เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ
จากนั้นเมื่อท่านบรรพชาได้ 3 เดือน ท่านได้แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรม มีผู้แนะนำท่านให้ไปกราบหลวงพ่อชา สุภทฺโท ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งท่านก็ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อตั้งแต่บัดนั้น และได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2518 ได้รับฉายา "คเวสโก" หมายถึง "ผู้แสวงหาซึ่งฝั่ง"
พระอาจารย์มิตซูโอะ เป็นผู้บุกเบิกวัดป่าสุนันทวนาราม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นวัดป่านานาชาติ และก่อนลาสิกขาบทดำรงสถานะเป็นเจ้าอาวาสซึ่งนับเป็นสาขาที่ 117 ของวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.2533 ยังเป็นผู้ริเริ่มมูลนิธิมายา โคตมี ที่ให้การช่วยเหลือด้านการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กๆ ที่ขาดโอกาส ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งของวัดหนองป่าพง ที่ท่านได้อุปสมบทมาก่อน
***บริจาคสิ่งของช่วยเหลือภาคใต้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า หลังทราบข่าวตนรู้สึกงงๆ และตกใจมาก เนื่องจากท่านมิตซูโอะได้บรรพชามานานหลายสิบปี ทำคุณประโยชน์ด้านพระพุทธศาสนามากมาย โดยเฉพาะการสอนและเผยแผ่การปฎิบัติธรรมที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย มีการปฎิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ท่านเขียนหนังสือเกี่ยวกับแนวทางปฎิบัติธรรม ทำการกุศลต่อสาธารณะนำสิ่งของที่ได้รับการถวายมาไปบริจาคช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ไม่อยากเชื่อ ช็อคไปเลย เพราะไม่คิดว่าท่านมิตซูโอะจะสึก แต่คนจะคลอดลูก พระจะสึก ห้ามกันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีมีกระแสข่าวว่าพระมิตซูโอะสึกที่วัดชนะสงครามฯนั้น บอกตรงๆผมไม่ทราบว่าท่านสึกที่ไหนจริงๆ เพราะการสึกอยู่ที่ผู้บวชพอใจว่าจะสึกที่ไหน กับใคร ”ผอ.พศ. กล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก อายุ 63 ปี พระสายวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้ลาสิกขาบทแล้วเมื่อเช้าวานนี้ (10 มิ.ย.) ที่วัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ภายหลังการลาสิกขาบท มิตซูโอะ ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศญี่ปุ่นทันที
นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบเกี่ยวกับเรื่องการลาสิขาบถของเจ้าอาวาสวัดป่าสุนันทวนาราม เบื้องต้นมีสาเหตุมาจากท่านเป็นโรคเบาหวานซึ่งเป็นประจำตัวมานาน ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรงไม่สามารถปฏิบัติภารกิจทางสงฆ์ได้เป็นปกติ จึงตัดสินใจลาสิขาบถ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิมายา โคตมี ซึ่งเป็นมูลนิธิที่พระมิตซูโอะสร้างขึ้น ในวัดป่าสุนันท์วนาราม โดยจะทำการแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้งในวันนี้ (11 มิ.ย.)
นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค เปิดเผยว่า ท่านได้ลาสิกขาบทแล้ว โดยตอนนี้พระอาจารย์หนูพรม รองเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส แต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่ที่วัดก็เลยยังไม่ทราบว่าท่านจะมีแนวทางอย่างไร
ด้านแม่ชีพิณพรรณ เนียมมุณี แม่ชีที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุนันทวนารามนานกว่า 8 ปี กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องหลวงพ่อลาสิกขาบท เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ของวันที่ 10 มิ.ย. โดยทางมูลนิธิฯได้แจ้งมายังทางวัด รู้สึกตกใจมาก โดยลาสิกขาบทที่วัดชนะสงครามกทม.และตอนนี้เดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว ส่วนสาเหตุทราบว่าท่านป่วยเป็นโรคเบาหวานมานานกว่า 2 ปีแล้ว ท่านไม่ค่อยแข็งแรง และมีกิจนิมนต์ตลอดเกือบทุกวัน และอีกเหตุหนึ่งน่าจะมาจากท่านเคยพูดกับญาติโยมว่าท่านเป็นคนญี่ปุ่น หากมีโอกาสก็อยากจะกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นบ้าง เพราะคนญี่ปุ่นขณะนี้ยังมีคนที่ลำบากมากเช่นกัน ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องสุขภาพกับเรื่องการอยากกลับไปช่วยคนญี่ปุ่นทำให้ท่านลาสิขาบท
"แต่เรื่องอื่นๆ ไม่เคยได้รับทราบ ท่านเป็นพระที่น่ายกย่องนับถือเป็นพระที่มีคำสอนให้แก่ญาติธรรมเพื่อให้เกิดสติในการแก้ปัญหาต่างๆจำนวนมาก รู้สึกเสียดายมาก"
นายศุภมิตร แก้วงอก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรดยค เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้มีโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก ยิ่งเมื่อสอบถามมายังวัดทราบว่าท่านลาสิขาบทจริงยิ่งเสียใจ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความรักและบูชาท่านมาก เพราะท่านให้ทั้งการพัฒนาคน ทั้งพัฒนาท้องถิ่น ท่านให้ทั้งทุนการศึกษากับเด็กเยาวชนที่ด้อยโอกาสได้มีเงินเรียนหนังสือ วัดมีลูกศิษย์มามากชาวบ้านก็ทำมาค้าขายได้มีรายได้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ตนรู้สึกเสียดายท่านมาก ซึ่งต้องรอดูว่าท่านอาจารย์หนูพรมท่านจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในส่วนของผู้นำท้องที่ก็พร้อมที่จะช่วยวัดให้สามารถพัฒนาต่อไป
สำหรับประวัติ พระอาจารย์มิตซูโอะ เป็นพระภิกษุชาวญี่ปุ่น บวชในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท คณะมหานิกาย เป็นศิษย์รุ่นแรกของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก มีชื่อเดิมว่า "มิตซูโอะ ชิบาฮาชิ" เป็นชาวจังหวัดอิวะเตะ ประเทศญี่ปุ่น พระอาจารย์มิตซูโอะ ได้เดินทางมาสู่ประเทศไทย หลังจากได้เดินทางแสวงหาธรรมะที่แท้จริงมาแล้วจากหลายประเทศทั่วโลก ไปเป็นที่อินเดียอีกครั้งในปี พ.ศ.2517 แต่ได้เปลี่ยนใจเมื่อระลึกได้ถึงพุทธคยา เห็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ก็ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าและประจักษ์ต่อใจตนเองว่า แท้จริงแล้วความสุขที่แท้จริงอยู่ที่จิตใจภายในตนเอง จึงหยุดการแสวงหาจากภายนอกมาสู่การแสวงหาจากภายใน
ในชั้นแรกพระอาจารย์มิตซูโอะ ไปฝึกโยคะอยู่ที่สำนักโยคีแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย และเกิดความพอใจที่จะเป็นโยคีอยู่ที่อินเดียตลอดชีวิต แต่ต่อมาเกิดปัญหาว่าวีซ่าของท่านหมดอายุ ท่านจึงเดินทางมาประเทศไทยอีกครั้ง เพราะมีผู้แนะนำให้ท่านไปศึกษาพุทธศาสนาที่ประเทศไทย เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ
จากนั้นเมื่อท่านบรรพชาได้ 3 เดือน ท่านได้แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรม มีผู้แนะนำท่านให้ไปกราบหลวงพ่อชา สุภทฺโท ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งท่านก็ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อตั้งแต่บัดนั้น และได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2518 ได้รับฉายา "คเวสโก" หมายถึง "ผู้แสวงหาซึ่งฝั่ง"
พระอาจารย์มิตซูโอะ เป็นผู้บุกเบิกวัดป่าสุนันทวนาราม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นวัดป่านานาชาติ และก่อนลาสิกขาบทดำรงสถานะเป็นเจ้าอาวาสซึ่งนับเป็นสาขาที่ 117 ของวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.2533 ยังเป็นผู้ริเริ่มมูลนิธิมายา โคตมี ที่ให้การช่วยเหลือด้านการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กๆ ที่ขาดโอกาส ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งของวัดหนองป่าพง ที่ท่านได้อุปสมบทมาก่อน
***บริจาคสิ่งของช่วยเหลือภาคใต้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า หลังทราบข่าวตนรู้สึกงงๆ และตกใจมาก เนื่องจากท่านมิตซูโอะได้บรรพชามานานหลายสิบปี ทำคุณประโยชน์ด้านพระพุทธศาสนามากมาย โดยเฉพาะการสอนและเผยแผ่การปฎิบัติธรรมที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย มีการปฎิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ท่านเขียนหนังสือเกี่ยวกับแนวทางปฎิบัติธรรม ทำการกุศลต่อสาธารณะนำสิ่งของที่ได้รับการถวายมาไปบริจาคช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ไม่อยากเชื่อ ช็อคไปเลย เพราะไม่คิดว่าท่านมิตซูโอะจะสึก แต่คนจะคลอดลูก พระจะสึก ห้ามกันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีมีกระแสข่าวว่าพระมิตซูโอะสึกที่วัดชนะสงครามฯนั้น บอกตรงๆผมไม่ทราบว่าท่านสึกที่ไหนจริงๆ เพราะการสึกอยู่ที่ผู้บวชพอใจว่าจะสึกที่ไหน กับใคร ”ผอ.พศ. กล่าว