00 มาอีกแล้วครับทั่น หลังจากโอดครวญว่า "กำลังลอยคอจะตายแล้ว" และแสดงอาการฉุนเฉียวกับพวก "ขี้ข้า"ที่หลอกต้มกีดกันไม่อยากให้กลับบ้านสักที แม้คำพูดดังกล่าวของ ทักษิณ ชินวัตร จะไม่ได้เอ่ยชื่อถึงใคร แต่รับรองว่าในจำนวนนั้นต้องมีคนอย่าง เฉลิม อยู่บำรุง "ต้องสะดุ้ง"สุดตัวด้วยอีกคนอย่างแน่นอน เพราะถือว่าก่อนหน้านี้เคย "รับอาสา"พากลับบ้านแลกกับเก้าอี้แลกกับตำแหน่งมาแล้ว แต่นานไปชักเงียบหาย จนล่าสุด ทำให้ เหลิม ต้องออกอาการนั่งไม่ติด ปัดฝุ่นร่างพรบ.ปรองดองหรือถ้าเรียกให้ถูกต้องก็คือ "กม.ล้างผิดและคืนเงินให้แม้ว"นั่นแหละ
00 สำหรับเนื้อหาก็สั้นๆ หน้าด้านๆแบบตรงไปตรงมา ตามที่ เหลิม ซึ่งคราวนี้เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการเอง มีอยู่ 5-6 มาตรา นั่นคือให้ลบล้างความผิดทั้งหมด ความหมายก็คือทุกคนทุกสี ถ้าเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังปี 49 เป็นต้นมาก็เป็นอันว่า "หลุดหมด" แต่แอ๊นแอ่นแอ้น เป้าหมายหลักก็คือ "เหลี่ยมจัด" ทักษิณ นั่นแหละ แม้จะอ้างแบบอุบาทว์ทุเรศๆว่าเขียนแบบคลาสสิคไม่เอ่ยชื่อใคร ก็แหงอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวก่อนพี่น้องมันมีทีเด็ดกว่านั้นก็คือ ยังครอบคลุมไปถึงคำสั่งหรือผลจากคำสั่งคณะปฏิวัติคมช.เช่นในเรื่องตั้งคตส.ขึ้นตรวจสอบก็ถือว่าไม่มีผลไม่มีความผิด ดังนั้นเมื่อไม่มีความผิดก็ต้องคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ศาลสั่งยึดไปคืนมาด้วยใช่มั๊ยละไอ้เวร "อุบาทว์"จริงๆ
00 ต้องบอกว่างานนี้จะได้เห็นม็อบขับไล่ ฮือกันมาแบบมืดฟ้ามัวดินแน่ ช่วยไม่ได้อยากหาเรื่องเอง วันๆ คนพวกนี้ไม่คิดทำอะไรนอกจากคิดหาทางช่วย แม้ว ให้เอาเปรียบสังคม เอาเปรียบคนอื่นอยู่ร่ำไป แต่คนพวกนี้ก็ไม่เคยเข็ดสักที แม้ว่าคราวนี้จะพยายามกลบจุดอ่อนมีการตั้งเวทีเดินสายกล่อมชาวบ้าน ทำกันทุกทาง แต่ตราบใดถ้าสังคมรู้ทัน จากเนื้อหาที่เห็นตามที่ เหลิม อวดฉลาดคิดว่าชาวบ้านคล้อยตามทุกคน หากยังดึงดันแม้จะตบตารวบรัดแบบไหนรับรองว่าเละแน่ และที่สำคัญชาวบ้านเขาเริ่มรำคาญรัฐบาล รำคาญพวกกุ๊ยอันธพาลเสื้อแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคิดว่าทำกันแบบนี้แล้วจะได้กลับบ้านอย่างเท่ก็ลองดูแล้วกัน
00 ส่วนสนามเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง เริ่มดุเดือดตั้งแต่ต้นมือ เพราะคราวนี้ไม่ใช่เลือกตั้งซ่อมธรรมดา แต่เป็นการเลือกตั้งในเชิง"สัญลักษณ์" ช่วงชิงกันระหว่างสองพรรคใหญ่คือ เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ ยุรนันท์ ภมรมนตรี กับ แทนคุณ จิตต์อิสระ เท่านั้นแต่ความหมายมันมากกว่านั้นความหมายก็คือถ้าเพื่อไทยแพ้ หรือว่าประชาธิปัตย์ชนะหรือว่าแพ้แบบหลุดลุ่ยนั่นแหละเรื่องใหญ่ และที่สำคัญดูแนวโน้มแล้ว "เถื่อนถ่อย" เต็มเหนี่ยวแน่นอน เพราะมันเดิมพันสูงอย่างที่ว่า อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ของ "จอมถีบ" อย่างเจ้าเก่ง การุณ โหสกุล ที่มีประวัติถ่อยอย่างไรเชื่อว่าสังคมคงจำกันได้ดี ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่การหาเสียงเลือกตั้งจะต้องเต็มไปด้วยวิชามาร จนอาจไม่รู้ว่ามาจากฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน
00 ต่อเนื่องมาที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังจะเลือกทางเดินของตัวเองว่าในอนาคตจะต้องการแพ้ซ้ำซากแล้วหายนะ กับมีลุ้นชนะ "ระบอบทักษิณ" เมื่อมีข้อเสนอปฏิรูปฯ ล่าสุดคนที่มีความกล้ายกมือขึ้นพูดอย่าง อลงกรณ์ พลบุตร กำลังจะถูกบรรดา "ขาใหญ่"ในพรรคที่เกรงว่าจะเสียบทบาทสูญเสียการครอบงำพรรครุมยำเสียเละ และอย่าได้แปลกใจเพราะนี่คือประชาธิปัตย์ของแท้ ก็คงต้องปล่อยไปตามยะถากรรมแล้วกัน เวรกรรม !!
00 สำหรับเนื้อหาก็สั้นๆ หน้าด้านๆแบบตรงไปตรงมา ตามที่ เหลิม ซึ่งคราวนี้เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการเอง มีอยู่ 5-6 มาตรา นั่นคือให้ลบล้างความผิดทั้งหมด ความหมายก็คือทุกคนทุกสี ถ้าเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังปี 49 เป็นต้นมาก็เป็นอันว่า "หลุดหมด" แต่แอ๊นแอ่นแอ้น เป้าหมายหลักก็คือ "เหลี่ยมจัด" ทักษิณ นั่นแหละ แม้จะอ้างแบบอุบาทว์ทุเรศๆว่าเขียนแบบคลาสสิคไม่เอ่ยชื่อใคร ก็แหงอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวก่อนพี่น้องมันมีทีเด็ดกว่านั้นก็คือ ยังครอบคลุมไปถึงคำสั่งหรือผลจากคำสั่งคณะปฏิวัติคมช.เช่นในเรื่องตั้งคตส.ขึ้นตรวจสอบก็ถือว่าไม่มีผลไม่มีความผิด ดังนั้นเมื่อไม่มีความผิดก็ต้องคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ศาลสั่งยึดไปคืนมาด้วยใช่มั๊ยละไอ้เวร "อุบาทว์"จริงๆ
00 ต้องบอกว่างานนี้จะได้เห็นม็อบขับไล่ ฮือกันมาแบบมืดฟ้ามัวดินแน่ ช่วยไม่ได้อยากหาเรื่องเอง วันๆ คนพวกนี้ไม่คิดทำอะไรนอกจากคิดหาทางช่วย แม้ว ให้เอาเปรียบสังคม เอาเปรียบคนอื่นอยู่ร่ำไป แต่คนพวกนี้ก็ไม่เคยเข็ดสักที แม้ว่าคราวนี้จะพยายามกลบจุดอ่อนมีการตั้งเวทีเดินสายกล่อมชาวบ้าน ทำกันทุกทาง แต่ตราบใดถ้าสังคมรู้ทัน จากเนื้อหาที่เห็นตามที่ เหลิม อวดฉลาดคิดว่าชาวบ้านคล้อยตามทุกคน หากยังดึงดันแม้จะตบตารวบรัดแบบไหนรับรองว่าเละแน่ และที่สำคัญชาวบ้านเขาเริ่มรำคาญรัฐบาล รำคาญพวกกุ๊ยอันธพาลเสื้อแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคิดว่าทำกันแบบนี้แล้วจะได้กลับบ้านอย่างเท่ก็ลองดูแล้วกัน
00 ส่วนสนามเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง เริ่มดุเดือดตั้งแต่ต้นมือ เพราะคราวนี้ไม่ใช่เลือกตั้งซ่อมธรรมดา แต่เป็นการเลือกตั้งในเชิง"สัญลักษณ์" ช่วงชิงกันระหว่างสองพรรคใหญ่คือ เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ ยุรนันท์ ภมรมนตรี กับ แทนคุณ จิตต์อิสระ เท่านั้นแต่ความหมายมันมากกว่านั้นความหมายก็คือถ้าเพื่อไทยแพ้ หรือว่าประชาธิปัตย์ชนะหรือว่าแพ้แบบหลุดลุ่ยนั่นแหละเรื่องใหญ่ และที่สำคัญดูแนวโน้มแล้ว "เถื่อนถ่อย" เต็มเหนี่ยวแน่นอน เพราะมันเดิมพันสูงอย่างที่ว่า อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ของ "จอมถีบ" อย่างเจ้าเก่ง การุณ โหสกุล ที่มีประวัติถ่อยอย่างไรเชื่อว่าสังคมคงจำกันได้ดี ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่การหาเสียงเลือกตั้งจะต้องเต็มไปด้วยวิชามาร จนอาจไม่รู้ว่ามาจากฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน
00 ต่อเนื่องมาที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังจะเลือกทางเดินของตัวเองว่าในอนาคตจะต้องการแพ้ซ้ำซากแล้วหายนะ กับมีลุ้นชนะ "ระบอบทักษิณ" เมื่อมีข้อเสนอปฏิรูปฯ ล่าสุดคนที่มีความกล้ายกมือขึ้นพูดอย่าง อลงกรณ์ พลบุตร กำลังจะถูกบรรดา "ขาใหญ่"ในพรรคที่เกรงว่าจะเสียบทบาทสูญเสียการครอบงำพรรครุมยำเสียเละ และอย่าได้แปลกใจเพราะนี่คือประชาธิปัตย์ของแท้ ก็คงต้องปล่อยไปตามยะถากรรมแล้วกัน เวรกรรม !!
