xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งลักรถรายใหญ่ นำสวมทะเบียนขายต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบช.ภ.1 ควงผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา แถลงผลจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 8 ราย ของกลางรถกระบะ 7 คัน พร้อมปืนอาก้า อุปกรณ์ตอกเลขเครื่อง-ตัวถัง เผยตระเวนซื้อสมุดจดทะเบียนจากรถที่ขายซากทิ้งเพราะอุบัติเหตุ แล้วลักตามยี่ห้อ-รุ่นในสมุด เอามาสวมขายภาคตะวันตก เตรียมขยายผลตามยึดทรัพย์ต่ออีก

วานนี้ (1 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรกรรมแล้วรถสวมทะเบียนขาย ซึ่งถือเป็นรายใหญ่ในภาคกลาง ว่า พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส. พ.ต.ท.รามณรงค์ เกียรติบุญเกิด สว.สส.กก.สส และพ.ต.ต.พิภพ นาพุทรา สว.ปพ.กก.สส.ภ.จว. พ.ต.ท.จิณวัตร ก้อนทองดี รองผกก.สส.สภ.เสนา พร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้จับกุมนายขวัญ หรือโก๊ะ อ่อนน้อม อายุ 30 ปี ชาวอ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์จากศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา

จากนั้นได้ขยายผลจนจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 6 คน ประกอบด้วย 1.นายสุริยา ปิ่นแก้ว หรือกุ้ง อายุ 34 ปี 2.น.ส.วงเดือน แก้วบัวดี หรือหนึ่ง อายุ 26 ปี 3.นายยอด ม้าทอง อายุ 42 ปี 4.นายบุญหลง รักแสง อายุ 35 ปี ทั้ง 4 คนเป็นชาวจ.สุพรรณบุรี 5.นายวิโรจน์ ทองดี อายุ 39 ปี และ 6.นางปราณี อาจเครือ หรือจอย อายุ 39 ปี ทั้ง 2 คนเป็นชาวจ.ราชบุรี พร้อมปืนอาก้า 1 กระบอก ซ่อนอยู่เบาะที่นั่งคนขับ กระสุนในรังเพลิง 1 นัด และซองกระสุน 26 นัด อยู่ในกล่องเก็บของด้านซ้ายของคนขับ จึงควบคุมตัวผู้ขับขี่ ทราบชื่อนายสมใจ อินวอ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 5 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยของกลางรถกระบะ 7 คัน ที่แจ้งหายไว้ที่สน.ทุ่งสองห้อง กรุงเทพฯ สภ.เมือง จ.กำแพงเพชร สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี สภ.ลาดบัวหลวง สภ.พระนครศรีอยุธยา สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และอุปกรณ์ตอกเลขเครื่อง เลขตัวถัง 1 กล่อง

จากการสอบสวน นายขวัญ นายสุริยา และน.ส.วงเดือน จะเป็นผู้ลงมือลักรถยนต์ตามคำสั่งของนายบุญหลงและนายวิโรจน์ ซึ่งทั้ง 2 คนจะเป็นผู้ไปซื้อสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ แล้วขายซากรถทิ้ง เมื่อได้สมุดมาแล้วจึงจะสั่งให้นายขวัญและนายสุริยา ไปหารถยี่ห้อที่ตรงกับสมุด แล้วนำมาสวมทะเบียนด้วยการลบหมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง เพื่อสวมทะเบียน โดยมีนายวิโรจน์ทำหน้าที่ใช้อุปกรณ์ตอกเลขเครื่อง และตัวถังใหม่ให้ตรงกับสมุดคู่มือที่ซื้อมา จากนั้นนางปราณีและนายยอด จะนำรถไปขายให้แก่ลูกค้าในภาคตะวันตก

พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า ต้องขอชมเชยตำรวจที่จับกุมขบวนการโจรกรรมรถยนต์แก๊งนี้ เพราะถือว่าเป็นแก๊งใหญ่ โจรกรรมรถในพื้นที่ภาค 7 กรุงเทพฯ และจ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้สั่งให้ตรวจสอบประวัติให้ละเอียด รวมทั้งทรัพย์สินของผู้ต้องหา เพื่อนำไปสู่กระบวนการยึดทรัพย์ เนื่องจากการโจรกรรมรถถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจของชาติ ซึ่งฝากให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายมาดูตัวผู้ต้องหา และตรวจสอบรถยนต์ที่ได้แจ้งหายเอาไว้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น