นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เปิดภายหลังการประชุมว่า ทางคณะกรรมาธิการ มีความเห็นว่าจะพัฒนาสนามบินเลิงนกทา จ.ยโสธร เป็นสนามบินพานิชย์ เพื่อต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยที่ประชุมได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มุกดาหาร และ อำนาจเจริญ รวมถึง ส.ส.ทั้ง 3 จังหวัด เข้าร่วมหารือในครั้งนี้
ทั้งนี้ สนามบินเลิงนกทา อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก ซึ่งขณะนี้ ภารกิจทางการทหารด้านยุทธศาสตร์ที่เคยใช้สนามบินนี้ กลับปล่อยให้รกร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มติทางคณะรัฐมนตรีที่ออกมา ประกาศให้จ.มุกดาหาร เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้าน และเพื่อศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ทางคณะกรรมาธิการจึงมีมติมอบหมายให้ นายมานิต นพอมรบดี ประธานคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนของประเทศไทยเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำหน้าที่ศึกษาข้อมูลภายในระยะเวลา 1 เดือน เพื่อมำข้อสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อทำการผลักดันต่อไป
นายไชยา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องที่เกินขีดความสามารถในเมื่อยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงมีความสำคัญน้อยลง ก็ควรที่จะเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจให้แข่งขันกับประเทศภูมิภาคได้ ส่วนเรื่องของงบประมาณในการพัฒนาสนามบินครั้งนี้ ได้ติดต่อไปยังกรมการบินพลเรือนว่า จะต้องมีการปรับปรุง หรือก่อสร้างอะไรบ้าง ซึ่งพบว่า พื้นที่ที่จะต้องใช้อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก และก็จะมีการจัดการกับพื้นที่ของประชาชนโดยรอบ แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ก็จะเป็นผู้ทำความเข้าใจต่อประชาชนว่า การปรับปรุงครั้งนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า งานก่อสร้างที่จะเกิดขึ้น ใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างสนามบินใหม่ อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ สนามบินเลิงนกทา อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก ซึ่งขณะนี้ ภารกิจทางการทหารด้านยุทธศาสตร์ที่เคยใช้สนามบินนี้ กลับปล่อยให้รกร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มติทางคณะรัฐมนตรีที่ออกมา ประกาศให้จ.มุกดาหาร เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้าน และเพื่อศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ทางคณะกรรมาธิการจึงมีมติมอบหมายให้ นายมานิต นพอมรบดี ประธานคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนของประเทศไทยเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำหน้าที่ศึกษาข้อมูลภายในระยะเวลา 1 เดือน เพื่อมำข้อสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อทำการผลักดันต่อไป
นายไชยา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องที่เกินขีดความสามารถในเมื่อยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงมีความสำคัญน้อยลง ก็ควรที่จะเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจให้แข่งขันกับประเทศภูมิภาคได้ ส่วนเรื่องของงบประมาณในการพัฒนาสนามบินครั้งนี้ ได้ติดต่อไปยังกรมการบินพลเรือนว่า จะต้องมีการปรับปรุง หรือก่อสร้างอะไรบ้าง ซึ่งพบว่า พื้นที่ที่จะต้องใช้อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก และก็จะมีการจัดการกับพื้นที่ของประชาชนโดยรอบ แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ก็จะเป็นผู้ทำความเข้าใจต่อประชาชนว่า การปรับปรุงครั้งนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า งานก่อสร้างที่จะเกิดขึ้น ใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างสนามบินใหม่ อย่างแน่นอน