ASTVผู้จัดการรายวัน-เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุ7วันอันตรายสงกรานต์ ตั้งเป้า ปีนี้ "ตายไม่เกิน 320 ราย" ส่วนการจราจรทั่วประเทศติดหนึบ อุบัติเหตุวันแรก “ทัวร์อิสราเอลเจ็บ-ฝรั่งนอร์เวย์ชะตาขาด”ด้าน"พายุฤดูร้อน"ทำกรุงเทพฯชุ่มช่ำ “อุตุฯ”เตือน11-14เม.ย. แรงบริเวณไทยตอนบน ส่วนสธ.-สพฉ.รดมพลรับฉุกเฉิน “ระวังเปิบพิสดาร” กทม.ปิดสีลม 13-16 ห้ามขายเหล้า หลายหน่วยงานรองรับผู้โดยสาร
ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วานนี้ (11 เม.ย.2556)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพฯมีสภาพท้องฟ้าที่มืดครึ้ม จากสายฝนที่กระหน่ำอย่างหนักไม่หยุด พร้อมลมกระโชกแรง ย่านประชานิเวศน์ เขตจตุจักร และพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 5 อนึ่ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12-16 เมษายน 2556 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตก ในระยะแรก(12-14 เม.ย. 56) ทำให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลง คาดว่าจะมีอุณหภูมิในช่วงบ่าย ประมาณ 33-37 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน 2556
**ถนน-รถไฟคนกลับบ้านแน่น
สำหรับบรรยายกาศการเดินทาง เส้นภาคอีสาน ถนนมิตรภาพเกือบตลอดทั้งสายมีปริมาณรถยนต์มาก โดยเฉพาะช่วง จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ คาดว่าการจราจรทุกเส้นทางจะหนาแน่นขึ้นในวันที่ 12 เม.ย. โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นภาคเหนือ และภาคอีสาน
ส่วนเส้นภาคเหนือ บนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงลำพูน-เชียงใหม่ตั้งแต่อำเภอแม่ทา ไปจนถึงเชียงใหม่ ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร มีความหนาแน่น เช่นเดียวกับการจราจรบนถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ มีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ ประเดิมศพแรกในช่วง 7 วันระวังอันตรายของจ.พิษณุโลก
ที่จ.เชียงรายว่า ถนนพหลโยธินสายพะเยา-เชียงราย เนืองแน่นไปด้วยรถยนต์ที่เดินทางทั้งขาเข้าเมือง และจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่ชั้นใน บางช่วงก็จะเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนภาคใต้ ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ มีปริมาณรถที่มากขึ้นทำให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นระยะ เช่นเดียวกับที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เริ่มมีประชาชานหนาแน่น ทั้งรถไฟเส้นทางรถท้องถิ่น และรถสายยาวเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ - 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะรถนอนถูกจองเต็มไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย. นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มตลอดเส้นทาง
**เมืองกาญจน์“กระบะทาทา” ดับ 2
ขณะที่อุบัติเหตุรายแรก เวลา 11.55 น. เกิดเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ บาดเจ็บสาหัส 5 ราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายลาดหญ้า-เอราวัณ หลักกิโลเมตรที่ 11 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้อทาทา สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒผ 6156 กทม. เสียหลักตกลงไปไหล่ทางด้านขวามือ ด้านหน้าชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่จนพังยับ พบผู้บาดเจ็บคือ 1.นายอเนก สนธิ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 2 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์คันเกิดเหตุ 2.ด.ช.สมเกียรติ จันทร ไม่ทราบอายุ และที่อยู่ 3.นายจิระวัฒน์ ร่วมชาติ 4.นายเกรียงไกร ไม่ทราบนามสกุล และ 5.นางวิไลวัลย์ ขันทอง โดยทั้ง 4 รายยังไม่ทราบอายุ และที่อยู่ ขณะที่ผู้เสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วย 1.นายประสิทธิ์ มณีใส และ 2.นางเนวรัตน์ แซ่โง้ว ทั้งสองรายยังไม่ทราบอายุ และที่อยู่เช่นกัน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดเป็นคนงานของบริษัทรับเหมาทั่วไปในพื้นที่ กทม. ที่บริษัทให้หยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเดินทางจาก กทม. มุ่งหน้าไปเที่ยวที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และกำลังมุ่งหน้าไปเที่ยวล่องแพในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์
** “ทัวร์อิสราเอล” เจ็บ 16 คน
อีกเหตุ เวลา 14.05 น. รถกระบะชนรถตู้ บริเวณถนนสายกาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์ หมู่ 2 ต.ช่องสะเดา พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สีบรอนด์เทา ทะเบียน ฎศ 3154 กทม. จอดอยู่ข้างถนนสายดังกล่าว ที่ประตูฝั่งด้านคนนั่งถูกชนจนบุบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และยังพบรถยนต์ตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 30-0167 กทม. จอดอยู่ข้างทางที่ด้านหน้ามีรอยถูกชน มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลรวมทั้งคนขับชาวไทยได้รับบาดเจ็บรวม 13 ราย
ทราบว่าก่อนเกิดเหตุภายในรถยนต์กระบะมาจาก อำเภอเมืองกาญจนบุรี กำลังมุ่งหน้าไป อำเภอศรีสวัสดิ์ มาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ามีฝนตกถนนลื่น รถที่วิ่งมาเกิดเสียการทรงตัว และคนขับบังคับรถไม่อยู่ทำให้หมุนเคว้งไปตามท้องถนน จังหวะเดียวกันนั้นได้มีรถยนต์ตู้วิ่งสวนทางมา ทำให้ตัวถังซ้ายของรถยนต์กระบะกระแทกเข้าอย่างจัง
**ฝรั่งนอร์เวย์ชะตาขาดที่ขอนแก่น
อีกเหตุเวลา 09.00 น. บนถ.มิตรภาพ ฝั่งขาขึ้นมุ่งหน้าไป จ.อุดรธานี หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า แจ๊ส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท-9239 ขอนแก่น จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน คษน-159 ขอนแก่นและรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสีแดง หมายเลขทะเบียน คมท-723 ขอนแก่น ทั้งสองคันสภาพพังยับเยินจอดอยู่กลางถนนเช่นกัน
จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายฮูแมน เยอริ่ง ชาวนอร์เวย์ ซึ่งขับขี่รถจักรยายนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังคงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 ราย
**ปภ.ตั้งเป้าปีนี้ตายไม่เกิน 320 ราย
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 เพื่อบูรณาการข้อมูลอุบัติเหตุทั่วประเทศ ว่า ปีนี้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการลดอุบัติเหตุทางท้องถนน ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติและกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ภายใต้แนวคิด สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยมีการจัดโซนนิ่งและจัดพื้นที่เฉพาะในการเล่นน้ำสงกรานต์ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุให้น้อย ที่สุด ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด เป็นผู้กำหนดเขตพื้นที่และติดตามการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด โดยขอความร่วมมือประชาชนให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะเล่นน้ำสงกรานต์บนรถกระบะ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง ปภ.ได้ตั้งเป้าลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในปีนี้ไม่เกิน 320 รายจากปีที่ผ่านมา พร้อมลดจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุด้วย
ทั้งนี้ หากพบว่ามีจังหวัดที่มีสถิติการเสียชีวิตสูง ทาง ปภ.ไม่มีการคาดโทษ เนื่องจากเป็นการเน้นอาศัยขอความร่วมมือด้วยความเต็มใจ ส่วนการตระเวนเล่นน้ำไม่ได้มีการห้ามแต่เป็นไปได้อยากให้มีการงดเว้นและควรเล่นในสถานที่ที่จัดงานเพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบ
**กมธ.ปกครองวุฒิฯ จี้นายกฯลงดูแลเอง
ที่รัฐสภา นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในคณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา แถลงถึงผลการสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติภัย “ลดความตายบนท้องถนน” ว่าข้อสรุปของการสัมมนาดังกล่าวมีข้อเสนอต่อรัฐบาล ได้แก่ 1.ให้จัดงบประมาณจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็น 10 % มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศที่เสียปีละ 2แสนล้านบาท 2.กำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต่อเนื่องตบลอดทั้งปีไม่ใช่รณรงค์แค่ช่วง 7วันอันตรายในช่วงเทศกาล 3.รัฐบาลต้องกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยนายกรัฐมนตรีต้องลงมากำกับเรื่องนี้ด้วยตนเอง 4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดหลักสูตรการขับขี่บนท้องถนนให้ประชาชนอย่างถูกต้อง
**สธ.-สพฉ.เฝ้าระวัง-ระวังเปิบพิสดาร
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ได้เตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยได้ประสานกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 และมีการตรวจเช็กคู่สายกว่า 500 สายทั่วประเทศให้พร้อมใช้งาน และกระจายทีมกู้ชีพทั้งในส่วนภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของประชาชนต้องเตรียมพร้อมด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ที่พบอุบัติเหตุหรือประสบเหตุเอง แต่ยังช่วยเหลือตนเองได้ ควรตั้งสติและประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของ
“ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทีมกู้ชีพเราพร้อมทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยตั้งเป้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้ภายใน 8 นาที” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การรับประทานหมูดิบหรือสุกๆดิบๆ เป็นสาเหตุให้ป่วยเป็นโรคไข้หูดับและหูหนวกถาวร บางรายอาจถึงตาย จึงขอให้สงกรานต์นี้งดเมนูหมูสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะลาบหมูดิบ หลู้หมูดิบ และแหนมหมูดิบ
**กทม.ปิดสีลม 13-16 ห้ามขายเหล้า
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมผู้อำนวยการเขตกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ประกอบด้วย เขตปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย วัฒนา พระโขนง สวนหลวง และบางนา เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมการจัดงานสงกรานต์บริเวณถนนสีลม ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุม
นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางรัก ในฐานะประธานกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ กล่าวว่า ในวันที่ 13-15 เม.ย.2556 จะมีการปิดถนนบริเวณถนนสีลม ตั้งแต่แยกศาลาแดง (ถนนสีลมตัดถนนพระราม 4) ถึงแยกนราลม (ถนนสีลมตัดถนนราธิวาสราชนครินทร์)โรงแรมดุสิตธานี ถึงแยกนราลม ตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น.ซึ่งสำนักงานเขตบางรักได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ จำนวน 100 นาย พร้อมทั้งประสาน 3 สถานีตำรวจนครบาลจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 100 นาย เฝ้าระวัง
ทั้งนี้จะขอให้ผู้ประกอบการร้านค้างดจำหน่ายแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะสร้างปัญหาทะเลาะวิวาทและก่ออาชญากรรมได้หลายรูปแบบ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในการจัดชุดตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบเป็นกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมเดินตรวจและดูแลความปลอดภัยตลอดงาน เนื่องจากมิจฉาชีพจะใช้ช่วงการเล่นน้ำลักทรัพย์ และกรีดกระเป๋า เป็นจำนวนมาก
สำหรับจุดจอดรถกู้ชีพภายในบริเวณถนนสีลม รวม 4 จุด ประกอบด้วย บริเวณหน้าอาคารไอทีเอฟ ถนนธนิยะ อาคารซีพีทาวเวอร์ และหน้าโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งจะประจำจุดตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. พร้อมกันนี้กทม.ได้จัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็ว
วันเดียวกันนายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม,) พร้อมด้วยนางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกทม.และคณะ เปิดกิจกรรม “สงกรานต์ เดินทางอย่างปลอดภัย ห่วงใยทุกคน” ที่ริมถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบยานพาหนะก่อนออกเดินทาง
**หลายหน่วยงานรองรับผู้โดยสาร
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ รักษาการผู้อำนวยศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ผู้โดยสารสามารถเดินทางกับขบวนรถประจำในเส้นทางสายเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และสายแม่กลอง จำนวน 250 ขบวน และจะมีการพ่วงเพิ่มตู้โดยสารของขบวนรถประจำกับขบวนรถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา ท้องถิ่น ในทุกเส้นทางเฉลี่ยขบวนรถละ 1-2 ตู้ ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 10,000 คนต่อวัน และประกาศเดินขบวนรถพิเศษช่วยการเดินเพิ่มเติมจากขบวนรถประจำ เป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 (เที่ยวไป) วันที่ 11-12 เมษายน 2556 เดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 8 ขบวน และช่วงที่ 2 (เที่ยวกลับ) วันที่ 15-18 เมษายน 2556 เดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 18 ขบวนซึ่งจะสามารรองรับผู้โดยสารได้เฉลี่ยวันละ 13,000 คนต่อวัน
นางสาววิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.กล่าวว่า ขอความร่วมมือผู้โดยสารให้เดินทางมาถึงสนามบินให้เร็วกว่าปกติ โดยหากเดินทางระหว่างประเทศให้เผื่อเวลาล่วงหน้า 3ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออก และ 2 ชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อเผื่อเวลาในการรอคิวผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆ
นาวาอากาศตรีประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะมีเที่ยวบินเข้าออกในจำนวน 844 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิม 800 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้น40 เที่ยวบินต่อวัน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม เป็นประธานปล่อยขบวนรถอำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” เพื่อให้อาสาสมัครทางหลวงชนบท (อส.ทช.) ได้ทำแผนบูรณาการ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัครทางหลวงชนบทกว่า 9,400 คน
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีทช.กล่าวว่า ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วให้การช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศและประชาสัมพันธ์เรื่องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะขณะขับขี่หรือโดยสารบนรถทุกประเภท และให้หลีกเลี่ยงการจราจรโดยใช้เส้นทางเลี่ยงของ ทช. รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้รับจ้างหยุดดำเนินการก่อสร้าง/บำรุงถนนและสะพานในช่วงนี้
**ป.รณรงค์เล่นสงกรานต์ไร้รุนแรง
ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กองกำกับการ 1-6 และ กก.ปพ.บก.ป.ออกรณรงค์ให้มีการฉลองเทศกาลสงกรานต์ให้มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างปลอดภัย ไม่ใช้ความรุนแรง โดยจัดกำลังตำรวจ บก.ป.เข้าร่วมดูแลความปลอดภัย ป้องกันปัญหาอาชญากรรม เฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงไม่ให้มีการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวตามสถานที่จัดงานทั่วประเทศ
ด้าน พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป.กล่าวว่า ทาง ร.ต.ท.สงกรานต์ เตชะณรงค์ รอง สว.ฝอ.บก.ป.ซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาสังกัด บก.ป.และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยโฆษก บก.ป.เป็นพรีเซนเตอร์ร่วมรณรงค์ ตามโครงการ “ซิด แอนด์ เซฟ” เพื่อให้พี่น้องชาวอีสาน เล่นสาดน้ำสงกรานต์กันด้วยความปลอดภัย
ที่บริเวณสี่แยกบุคคโล แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ตำรวจสน.บุคคโล ร่วมกับวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ทำกิจกรรม รณรงค์ ลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเสียชีวิตบริเวณสี่แยกบุคคโล ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะมุ่งหน้า สู่ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางออกสู่ต่างจังหวัด.
**โพลชี้วัยรุ่นเล่นน้ำผู้ใหญ่ เข้าวัด
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใหญ่และวัยรุ่น จำนวน 1,338 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง "วันสงกรานต์" ในทัศนะของผู้ใหญ่และวัยรุ่น พบว่า วัยรุ่นจะไปฉลองสงกรานต์ที่สถานที่ที่จัดให้เล่นน้ำ เช่น ข้าวสาร สีลม เป็นต้น ถึงร้อยละ 37.22 ขณะที่ผู้ใหญ่จะไปฉลองที่วัดสูง ร้อยละ 36.60 เมื่อถามถึงเรื่องกวนใจ กังวลใจ ที่จะทำให้เที่ยวไม่สนุกคือ ทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นล้วนตอบว่าเป็นเรื่องการจราจร รถติด อุบัติเหตุบนท้องถนน ร้อยละ 30.45 และ 29.45 ตามลำดับ
ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วานนี้ (11 เม.ย.2556)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพฯมีสภาพท้องฟ้าที่มืดครึ้ม จากสายฝนที่กระหน่ำอย่างหนักไม่หยุด พร้อมลมกระโชกแรง ย่านประชานิเวศน์ เขตจตุจักร และพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 5 อนึ่ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12-16 เมษายน 2556 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตก ในระยะแรก(12-14 เม.ย. 56) ทำให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลง คาดว่าจะมีอุณหภูมิในช่วงบ่าย ประมาณ 33-37 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน 2556
**ถนน-รถไฟคนกลับบ้านแน่น
สำหรับบรรยายกาศการเดินทาง เส้นภาคอีสาน ถนนมิตรภาพเกือบตลอดทั้งสายมีปริมาณรถยนต์มาก โดยเฉพาะช่วง จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ คาดว่าการจราจรทุกเส้นทางจะหนาแน่นขึ้นในวันที่ 12 เม.ย. โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าขึ้นภาคเหนือ และภาคอีสาน
ส่วนเส้นภาคเหนือ บนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงลำพูน-เชียงใหม่ตั้งแต่อำเภอแม่ทา ไปจนถึงเชียงใหม่ ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร มีความหนาแน่น เช่นเดียวกับการจราจรบนถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ มีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ ประเดิมศพแรกในช่วง 7 วันระวังอันตรายของจ.พิษณุโลก
ที่จ.เชียงรายว่า ถนนพหลโยธินสายพะเยา-เชียงราย เนืองแน่นไปด้วยรถยนต์ที่เดินทางทั้งขาเข้าเมือง และจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่ชั้นใน บางช่วงก็จะเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนภาคใต้ ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ มีปริมาณรถที่มากขึ้นทำให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นระยะ เช่นเดียวกับที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เริ่มมีประชาชานหนาแน่น ทั้งรถไฟเส้นทางรถท้องถิ่น และรถสายยาวเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ - 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะรถนอนถูกจองเต็มไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย. นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มตลอดเส้นทาง
**เมืองกาญจน์“กระบะทาทา” ดับ 2
ขณะที่อุบัติเหตุรายแรก เวลา 11.55 น. เกิดเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ บาดเจ็บสาหัส 5 ราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายลาดหญ้า-เอราวัณ หลักกิโลเมตรที่ 11 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้อทาทา สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒผ 6156 กทม. เสียหลักตกลงไปไหล่ทางด้านขวามือ ด้านหน้าชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่จนพังยับ พบผู้บาดเจ็บคือ 1.นายอเนก สนธิ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 2 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์คันเกิดเหตุ 2.ด.ช.สมเกียรติ จันทร ไม่ทราบอายุ และที่อยู่ 3.นายจิระวัฒน์ ร่วมชาติ 4.นายเกรียงไกร ไม่ทราบนามสกุล และ 5.นางวิไลวัลย์ ขันทอง โดยทั้ง 4 รายยังไม่ทราบอายุ และที่อยู่ ขณะที่ผู้เสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วย 1.นายประสิทธิ์ มณีใส และ 2.นางเนวรัตน์ แซ่โง้ว ทั้งสองรายยังไม่ทราบอายุ และที่อยู่เช่นกัน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดเป็นคนงานของบริษัทรับเหมาทั่วไปในพื้นที่ กทม. ที่บริษัทให้หยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเดินทางจาก กทม. มุ่งหน้าไปเที่ยวที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และกำลังมุ่งหน้าไปเที่ยวล่องแพในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์
** “ทัวร์อิสราเอล” เจ็บ 16 คน
อีกเหตุ เวลา 14.05 น. รถกระบะชนรถตู้ บริเวณถนนสายกาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์ หมู่ 2 ต.ช่องสะเดา พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สีบรอนด์เทา ทะเบียน ฎศ 3154 กทม. จอดอยู่ข้างถนนสายดังกล่าว ที่ประตูฝั่งด้านคนนั่งถูกชนจนบุบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และยังพบรถยนต์ตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 30-0167 กทม. จอดอยู่ข้างทางที่ด้านหน้ามีรอยถูกชน มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลรวมทั้งคนขับชาวไทยได้รับบาดเจ็บรวม 13 ราย
ทราบว่าก่อนเกิดเหตุภายในรถยนต์กระบะมาจาก อำเภอเมืองกาญจนบุรี กำลังมุ่งหน้าไป อำเภอศรีสวัสดิ์ มาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ามีฝนตกถนนลื่น รถที่วิ่งมาเกิดเสียการทรงตัว และคนขับบังคับรถไม่อยู่ทำให้หมุนเคว้งไปตามท้องถนน จังหวะเดียวกันนั้นได้มีรถยนต์ตู้วิ่งสวนทางมา ทำให้ตัวถังซ้ายของรถยนต์กระบะกระแทกเข้าอย่างจัง
**ฝรั่งนอร์เวย์ชะตาขาดที่ขอนแก่น
อีกเหตุเวลา 09.00 น. บนถ.มิตรภาพ ฝั่งขาขึ้นมุ่งหน้าไป จ.อุดรธานี หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า แจ๊ส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท-9239 ขอนแก่น จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน คษน-159 ขอนแก่นและรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสีแดง หมายเลขทะเบียน คมท-723 ขอนแก่น ทั้งสองคันสภาพพังยับเยินจอดอยู่กลางถนนเช่นกัน
จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายฮูแมน เยอริ่ง ชาวนอร์เวย์ ซึ่งขับขี่รถจักรยายนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังคงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 ราย
**ปภ.ตั้งเป้าปีนี้ตายไม่เกิน 320 ราย
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 เพื่อบูรณาการข้อมูลอุบัติเหตุทั่วประเทศ ว่า ปีนี้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการลดอุบัติเหตุทางท้องถนน ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติและกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ภายใต้แนวคิด สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยมีการจัดโซนนิ่งและจัดพื้นที่เฉพาะในการเล่นน้ำสงกรานต์ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุให้น้อย ที่สุด ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด เป็นผู้กำหนดเขตพื้นที่และติดตามการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด โดยขอความร่วมมือประชาชนให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะเล่นน้ำสงกรานต์บนรถกระบะ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง ปภ.ได้ตั้งเป้าลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในปีนี้ไม่เกิน 320 รายจากปีที่ผ่านมา พร้อมลดจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุด้วย
ทั้งนี้ หากพบว่ามีจังหวัดที่มีสถิติการเสียชีวิตสูง ทาง ปภ.ไม่มีการคาดโทษ เนื่องจากเป็นการเน้นอาศัยขอความร่วมมือด้วยความเต็มใจ ส่วนการตระเวนเล่นน้ำไม่ได้มีการห้ามแต่เป็นไปได้อยากให้มีการงดเว้นและควรเล่นในสถานที่ที่จัดงานเพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบ
**กมธ.ปกครองวุฒิฯ จี้นายกฯลงดูแลเอง
ที่รัฐสภา นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในคณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา แถลงถึงผลการสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติภัย “ลดความตายบนท้องถนน” ว่าข้อสรุปของการสัมมนาดังกล่าวมีข้อเสนอต่อรัฐบาล ได้แก่ 1.ให้จัดงบประมาณจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็น 10 % มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศที่เสียปีละ 2แสนล้านบาท 2.กำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต่อเนื่องตบลอดทั้งปีไม่ใช่รณรงค์แค่ช่วง 7วันอันตรายในช่วงเทศกาล 3.รัฐบาลต้องกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยนายกรัฐมนตรีต้องลงมากำกับเรื่องนี้ด้วยตนเอง 4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดหลักสูตรการขับขี่บนท้องถนนให้ประชาชนอย่างถูกต้อง
**สธ.-สพฉ.เฝ้าระวัง-ระวังเปิบพิสดาร
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ได้เตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยได้ประสานกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 และมีการตรวจเช็กคู่สายกว่า 500 สายทั่วประเทศให้พร้อมใช้งาน และกระจายทีมกู้ชีพทั้งในส่วนภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของประชาชนต้องเตรียมพร้อมด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ที่พบอุบัติเหตุหรือประสบเหตุเอง แต่ยังช่วยเหลือตนเองได้ ควรตั้งสติและประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของ
“ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทีมกู้ชีพเราพร้อมทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยตั้งเป้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้ภายใน 8 นาที” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การรับประทานหมูดิบหรือสุกๆดิบๆ เป็นสาเหตุให้ป่วยเป็นโรคไข้หูดับและหูหนวกถาวร บางรายอาจถึงตาย จึงขอให้สงกรานต์นี้งดเมนูหมูสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะลาบหมูดิบ หลู้หมูดิบ และแหนมหมูดิบ
**กทม.ปิดสีลม 13-16 ห้ามขายเหล้า
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมผู้อำนวยการเขตกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ประกอบด้วย เขตปทุมวัน บางรัก สาทร บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย วัฒนา พระโขนง สวนหลวง และบางนา เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมการจัดงานสงกรานต์บริเวณถนนสีลม ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุม
นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางรัก ในฐานะประธานกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ กล่าวว่า ในวันที่ 13-15 เม.ย.2556 จะมีการปิดถนนบริเวณถนนสีลม ตั้งแต่แยกศาลาแดง (ถนนสีลมตัดถนนพระราม 4) ถึงแยกนราลม (ถนนสีลมตัดถนนราธิวาสราชนครินทร์)โรงแรมดุสิตธานี ถึงแยกนราลม ตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น.ซึ่งสำนักงานเขตบางรักได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ จำนวน 100 นาย พร้อมทั้งประสาน 3 สถานีตำรวจนครบาลจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 100 นาย เฝ้าระวัง
ทั้งนี้จะขอให้ผู้ประกอบการร้านค้างดจำหน่ายแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะสร้างปัญหาทะเลาะวิวาทและก่ออาชญากรรมได้หลายรูปแบบ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในการจัดชุดตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบเป็นกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมเดินตรวจและดูแลความปลอดภัยตลอดงาน เนื่องจากมิจฉาชีพจะใช้ช่วงการเล่นน้ำลักทรัพย์ และกรีดกระเป๋า เป็นจำนวนมาก
สำหรับจุดจอดรถกู้ชีพภายในบริเวณถนนสีลม รวม 4 จุด ประกอบด้วย บริเวณหน้าอาคารไอทีเอฟ ถนนธนิยะ อาคารซีพีทาวเวอร์ และหน้าโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งจะประจำจุดตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. พร้อมกันนี้กทม.ได้จัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็ว
วันเดียวกันนายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม,) พร้อมด้วยนางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกทม.และคณะ เปิดกิจกรรม “สงกรานต์ เดินทางอย่างปลอดภัย ห่วงใยทุกคน” ที่ริมถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบยานพาหนะก่อนออกเดินทาง
**หลายหน่วยงานรองรับผู้โดยสาร
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ รักษาการผู้อำนวยศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ผู้โดยสารสามารถเดินทางกับขบวนรถประจำในเส้นทางสายเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และสายแม่กลอง จำนวน 250 ขบวน และจะมีการพ่วงเพิ่มตู้โดยสารของขบวนรถประจำกับขบวนรถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา ท้องถิ่น ในทุกเส้นทางเฉลี่ยขบวนรถละ 1-2 ตู้ ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 10,000 คนต่อวัน และประกาศเดินขบวนรถพิเศษช่วยการเดินเพิ่มเติมจากขบวนรถประจำ เป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 (เที่ยวไป) วันที่ 11-12 เมษายน 2556 เดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 8 ขบวน และช่วงที่ 2 (เที่ยวกลับ) วันที่ 15-18 เมษายน 2556 เดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 18 ขบวนซึ่งจะสามารรองรับผู้โดยสารได้เฉลี่ยวันละ 13,000 คนต่อวัน
นางสาววิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.กล่าวว่า ขอความร่วมมือผู้โดยสารให้เดินทางมาถึงสนามบินให้เร็วกว่าปกติ โดยหากเดินทางระหว่างประเทศให้เผื่อเวลาล่วงหน้า 3ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออก และ 2 ชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อเผื่อเวลาในการรอคิวผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆ
นาวาอากาศตรีประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะมีเที่ยวบินเข้าออกในจำนวน 844 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิม 800 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้น40 เที่ยวบินต่อวัน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม เป็นประธานปล่อยขบวนรถอำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” เพื่อให้อาสาสมัครทางหลวงชนบท (อส.ทช.) ได้ทำแผนบูรณาการ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัครทางหลวงชนบทกว่า 9,400 คน
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีทช.กล่าวว่า ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วให้การช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศและประชาสัมพันธ์เรื่องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะขณะขับขี่หรือโดยสารบนรถทุกประเภท และให้หลีกเลี่ยงการจราจรโดยใช้เส้นทางเลี่ยงของ ทช. รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้รับจ้างหยุดดำเนินการก่อสร้าง/บำรุงถนนและสะพานในช่วงนี้
**ป.รณรงค์เล่นสงกรานต์ไร้รุนแรง
ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กองกำกับการ 1-6 และ กก.ปพ.บก.ป.ออกรณรงค์ให้มีการฉลองเทศกาลสงกรานต์ให้มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างปลอดภัย ไม่ใช้ความรุนแรง โดยจัดกำลังตำรวจ บก.ป.เข้าร่วมดูแลความปลอดภัย ป้องกันปัญหาอาชญากรรม เฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงไม่ให้มีการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวตามสถานที่จัดงานทั่วประเทศ
ด้าน พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป.กล่าวว่า ทาง ร.ต.ท.สงกรานต์ เตชะณรงค์ รอง สว.ฝอ.บก.ป.ซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาสังกัด บก.ป.และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยโฆษก บก.ป.เป็นพรีเซนเตอร์ร่วมรณรงค์ ตามโครงการ “ซิด แอนด์ เซฟ” เพื่อให้พี่น้องชาวอีสาน เล่นสาดน้ำสงกรานต์กันด้วยความปลอดภัย
ที่บริเวณสี่แยกบุคคโล แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ตำรวจสน.บุคคโล ร่วมกับวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ทำกิจกรรม รณรงค์ ลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดอัตราเสี่ยงการเสียชีวิตบริเวณสี่แยกบุคคโล ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะมุ่งหน้า สู่ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางออกสู่ต่างจังหวัด.
**โพลชี้วัยรุ่นเล่นน้ำผู้ใหญ่ เข้าวัด
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใหญ่และวัยรุ่น จำนวน 1,338 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง "วันสงกรานต์" ในทัศนะของผู้ใหญ่และวัยรุ่น พบว่า วัยรุ่นจะไปฉลองสงกรานต์ที่สถานที่ที่จัดให้เล่นน้ำ เช่น ข้าวสาร สีลม เป็นต้น ถึงร้อยละ 37.22 ขณะที่ผู้ใหญ่จะไปฉลองที่วัดสูง ร้อยละ 36.60 เมื่อถามถึงเรื่องกวนใจ กังวลใจ ที่จะทำให้เที่ยวไม่สนุกคือ ทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นล้วนตอบว่าเป็นเรื่องการจราจร รถติด อุบัติเหตุบนท้องถนน ร้อยละ 30.45 และ 29.45 ตามลำดับ