เอเจนซีส์ – มาเลเซียประกาศจัดการเลือกตั้งในวันที่ 5 เดือนหน้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นการชิงชัยครั้งที่ยากลำบากที่สุดสำหรับพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งครองอำนาจมายาวนานถึง 56 ปี ขณะเดียวกัน นี่ก็อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ อันวาร์ อิบราฮิม จะได้นำทัพฝ่ายค้านแย่งชิงคะแนนเสียงจากฝ่ายรัฐบาล
อาซิส ยูซุฟ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการคราวนี้เมื่อวันพุธ (10) หรือหนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ประกาศยุบสภา เขาแถลงด้วยว่าการหาเสียงอย่างเป็นทางการนาน 2 สัปดาห์จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 20 เดือนนี้
เห็นกันว่า พันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลนำโดย พรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ซึ่งเป็นผู้ปกครองมาเลเซียตลอดมาตั้งแต่ประเทศประกาศเอกราชในปี 1957 กำลังเผชิญศึกหนักจากฝ่ายค้านที่ให้สัญญาว่าจะขจัดการคอร์รัปชั่น ระบบพวกพ้อง และระบอบเผด็จการ
นาจิบนั้นหวังว่า รัฐบาลจะยังคงได้ชัยชนะหมือนเช่นครั้งที่ผ่านมา ด้วยการมุ่งเน้นการดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการอาศัยนโยบายของรัฐบาลมาทำการแจกจ่ายเงินทองและสิ่งจูงใจอื่นๆ ให้แก่ประชาชน
โฆษกของผู้นำแดนเสือเหลืองชี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกระหว่างการยึดมั่นกับรัฐบาลที่ส่งเสริมการปฏิรูป หรือว่าจะนำเอาความมั่งคั่งของประเทศไปเสี่ยงกับฝ่ายค้านซึ่งทั้งไร้ประสบการณ์และแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
อย่างไรก็ดี ฝ่ายค้านขณะนี้กำลังได้รับการสนับสนุนอุ่นหนาฝาคั่งขึ้น จากการชูนโยบายธรรมาภิบาลโปร่งใส เคารพเสรีภาพพลเมือง โดยอาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารอย่างเสรีชนิดอำนาจรัฐปิดกั้นไม่สำเร็จ
พันธมิตรฝ่ายรัฐบาล ที่มีชื่อว่า บาริซัน แนชันแนล (กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ) ที่มีอัมโนเป็นแกนนำ สามารถกวาดชัยชนะท่วมท้นในการเลือกตั้งทุกสมัยที่ผานมา จวบจนกระทั่งครั้งหลังสุดในปี 2008 ที่ไม่สามารถครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในสภาได้เป็นครั้งแรก
สำหรับครั้งนี้ กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติต้องต่อสู้กับพันธมิตรฝ่ายค้านซึ่งใช้ชื่อว่า ปาคะตัน รัคยัต (พันธมิตรประชาชน) ที่นำโดยอันวาร์ อิบราฮิม โดยที่ อันวาร์ คือผู้ที่ มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกฯมาเลเซียผู้ทรงอิทธิพล เคยวางตัวให้เป็นทายาทดูแลพรรคอัมโนต่อจากตัวเขา แต่แล้วมหาเธร์ก็ทำให้อันวาร์ถูกปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯในปี 1998 และถูกจำคุกจากข้อหาที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า เป็นการป้ายสีทางการเมือง
อันวาร์ประกาศว่า นี่เป็นโอกาสดีที่สุดสำหรับปาคะตัน รัคยัต ในการนำเสนอทางเลือกสำหรับประชาธิปไตยและรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และเขาเชื่อว่า ฝ่ายค้านมีโอกาสมากที่จะชนะการเลือกตั้ง
การแข่งขันที่ค่อนข้างคู่คี่ทำให้ต่างฝ่ายงัดคำมั่นมาซื้อใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งจนน่ากลัวว่า หนี้สาธารณะของมาเลเซียจะเบ่งบาน
วันเสาร์ที่ผ่านมา (6) นาจิบให้สัญญาเดินนโยบายแจกจ่ายเงินและสิ่งของเพิ่มเติมแก่คนยากจน
ด้านปาคะตัน รัคยัต ก็ให้คำมั่น หากชนะเลือกตั้งจะให้เยาวชนได้เรียนฟรีตั้งแต่ชั้นประถมยันอุดมศึกษา พร้อมชูนโยบายสร้างรายได้เพิ่ม และอื่นๆ อีกมากมาย
ฝ่ายค้านตลอดจนพวกที่รณรงค์สนับสนุนการปฏิรูปการเลือกตั้ง พากันร้องเรียนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เนื่องจากมีการบิดเบือนระบบเพื่อเข้าข้างรัฐบาล พร้อมเตือนว่า จะมีการโกงเลือกตั้ง และการร้องเรียนความผิดปกติในการเลือกตั้งตามเขตต่างๆ ทั่วประเทศ
ด้านรัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการปฏิรูปมากมายไปเรียบร้อยแล้ว เช่น การใช้หมึกที่ไม่สามารถลบได้เพื่อป้องกันการลงคะแนนซ้ำ นอกจากนี้หน่วยงานต่อต้านการทุจริตจะติดตามตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด
นาจิบนั้นขึ้นบริหารประเทศในปี 2009 หลังจากนายกรัฐมนตรีคนก่อนลาออกไปท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลจากผลการเลือกตั้งที่พลิกล็อกถล่มทลายก่อนหน้านั้นหนึ่งปี
หลังจากรับตำแหน่ง นาจิบเดินหน้าปฏิรูปเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและปรับปรุงเสรีภาพของประชาชน ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจแดนเสือเหลืองขยายตัว 5.6% แม้เศรษฐกิจโลกโงนเงน
ทว่า ฝ่ายค้านโจมตีว่า การปฏิรูปของนาจิบเป็นเพียงมาตรการผักชีโรยหน้า พร้อมตอกย้ำเรื่องทุจริตอื้อฉาวที่เชื่อมโยงถึงรัฐบาลและเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปัจจุบัน พันธมิตรรัฐบาลครองที่นั่งในสภา 135 จาก 222 ที่นั่ง และเป็นผู้ปกครองท้องถิ่น 9 รัฐจาก 13 รัฐทั่วประเทศ ขณะที่แนวร่วมฝ่ายค้านมี 75 ที่นั่ง และควบคุม 4 รัฐ
ทางด้าน โออิซัน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันเพื่อการระหว่างประเทศศึกษา เอส. ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ ชี้ว่า นาจิบจะต้องทำได้ดีกว่าปี 2008 เพราะหากผลงานแย่กว่าเดิม เขาก็คงถูกท้าทายอำนาจจากภายในพรรค
สำหรับอันวาร์นั้น ด้วยวัย 58 ปี การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤษภาคม อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้เป็นจอมทัพฝ่ายค้านแย่งชิงคะแนนเสียงจากรัฐบาล
อาซิส ยูซุฟ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการคราวนี้เมื่อวันพุธ (10) หรือหนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ประกาศยุบสภา เขาแถลงด้วยว่าการหาเสียงอย่างเป็นทางการนาน 2 สัปดาห์จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 20 เดือนนี้
เห็นกันว่า พันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลนำโดย พรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ซึ่งเป็นผู้ปกครองมาเลเซียตลอดมาตั้งแต่ประเทศประกาศเอกราชในปี 1957 กำลังเผชิญศึกหนักจากฝ่ายค้านที่ให้สัญญาว่าจะขจัดการคอร์รัปชั่น ระบบพวกพ้อง และระบอบเผด็จการ
นาจิบนั้นหวังว่า รัฐบาลจะยังคงได้ชัยชนะหมือนเช่นครั้งที่ผ่านมา ด้วยการมุ่งเน้นการดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการอาศัยนโยบายของรัฐบาลมาทำการแจกจ่ายเงินทองและสิ่งจูงใจอื่นๆ ให้แก่ประชาชน
โฆษกของผู้นำแดนเสือเหลืองชี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกระหว่างการยึดมั่นกับรัฐบาลที่ส่งเสริมการปฏิรูป หรือว่าจะนำเอาความมั่งคั่งของประเทศไปเสี่ยงกับฝ่ายค้านซึ่งทั้งไร้ประสบการณ์และแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
อย่างไรก็ดี ฝ่ายค้านขณะนี้กำลังได้รับการสนับสนุนอุ่นหนาฝาคั่งขึ้น จากการชูนโยบายธรรมาภิบาลโปร่งใส เคารพเสรีภาพพลเมือง โดยอาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารอย่างเสรีชนิดอำนาจรัฐปิดกั้นไม่สำเร็จ
พันธมิตรฝ่ายรัฐบาล ที่มีชื่อว่า บาริซัน แนชันแนล (กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ) ที่มีอัมโนเป็นแกนนำ สามารถกวาดชัยชนะท่วมท้นในการเลือกตั้งทุกสมัยที่ผานมา จวบจนกระทั่งครั้งหลังสุดในปี 2008 ที่ไม่สามารถครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในสภาได้เป็นครั้งแรก
สำหรับครั้งนี้ กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติต้องต่อสู้กับพันธมิตรฝ่ายค้านซึ่งใช้ชื่อว่า ปาคะตัน รัคยัต (พันธมิตรประชาชน) ที่นำโดยอันวาร์ อิบราฮิม โดยที่ อันวาร์ คือผู้ที่ มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกฯมาเลเซียผู้ทรงอิทธิพล เคยวางตัวให้เป็นทายาทดูแลพรรคอัมโนต่อจากตัวเขา แต่แล้วมหาเธร์ก็ทำให้อันวาร์ถูกปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯในปี 1998 และถูกจำคุกจากข้อหาที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า เป็นการป้ายสีทางการเมือง
อันวาร์ประกาศว่า นี่เป็นโอกาสดีที่สุดสำหรับปาคะตัน รัคยัต ในการนำเสนอทางเลือกสำหรับประชาธิปไตยและรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และเขาเชื่อว่า ฝ่ายค้านมีโอกาสมากที่จะชนะการเลือกตั้ง
การแข่งขันที่ค่อนข้างคู่คี่ทำให้ต่างฝ่ายงัดคำมั่นมาซื้อใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งจนน่ากลัวว่า หนี้สาธารณะของมาเลเซียจะเบ่งบาน
วันเสาร์ที่ผ่านมา (6) นาจิบให้สัญญาเดินนโยบายแจกจ่ายเงินและสิ่งของเพิ่มเติมแก่คนยากจน
ด้านปาคะตัน รัคยัต ก็ให้คำมั่น หากชนะเลือกตั้งจะให้เยาวชนได้เรียนฟรีตั้งแต่ชั้นประถมยันอุดมศึกษา พร้อมชูนโยบายสร้างรายได้เพิ่ม และอื่นๆ อีกมากมาย
ฝ่ายค้านตลอดจนพวกที่รณรงค์สนับสนุนการปฏิรูปการเลือกตั้ง พากันร้องเรียนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เนื่องจากมีการบิดเบือนระบบเพื่อเข้าข้างรัฐบาล พร้อมเตือนว่า จะมีการโกงเลือกตั้ง และการร้องเรียนความผิดปกติในการเลือกตั้งตามเขตต่างๆ ทั่วประเทศ
ด้านรัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการปฏิรูปมากมายไปเรียบร้อยแล้ว เช่น การใช้หมึกที่ไม่สามารถลบได้เพื่อป้องกันการลงคะแนนซ้ำ นอกจากนี้หน่วยงานต่อต้านการทุจริตจะติดตามตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด
นาจิบนั้นขึ้นบริหารประเทศในปี 2009 หลังจากนายกรัฐมนตรีคนก่อนลาออกไปท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลจากผลการเลือกตั้งที่พลิกล็อกถล่มทลายก่อนหน้านั้นหนึ่งปี
หลังจากรับตำแหน่ง นาจิบเดินหน้าปฏิรูปเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและปรับปรุงเสรีภาพของประชาชน ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจแดนเสือเหลืองขยายตัว 5.6% แม้เศรษฐกิจโลกโงนเงน
ทว่า ฝ่ายค้านโจมตีว่า การปฏิรูปของนาจิบเป็นเพียงมาตรการผักชีโรยหน้า พร้อมตอกย้ำเรื่องทุจริตอื้อฉาวที่เชื่อมโยงถึงรัฐบาลและเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปัจจุบัน พันธมิตรรัฐบาลครองที่นั่งในสภา 135 จาก 222 ที่นั่ง และเป็นผู้ปกครองท้องถิ่น 9 รัฐจาก 13 รัฐทั่วประเทศ ขณะที่แนวร่วมฝ่ายค้านมี 75 ที่นั่ง และควบคุม 4 รัฐ
ทางด้าน โออิซัน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันเพื่อการระหว่างประเทศศึกษา เอส. ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ ชี้ว่า นาจิบจะต้องทำได้ดีกว่าปี 2008 เพราะหากผลงานแย่กว่าเดิม เขาก็คงถูกท้าทายอำนาจจากภายในพรรค
สำหรับอันวาร์นั้น ด้วยวัย 58 ปี การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤษภาคม อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้เป็นจอมทัพฝ่ายค้านแย่งชิงคะแนนเสียงจากรัฐบาล