ASTVผู้จัดการรายวัน - ศาลอุทธรณ์จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา อดีต ผอ.ร.ร.สามเสนวิทยาลัย ถูกฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ไม่ส่งรายชื่อผู้ใต้บังคับบัญชา ให้สนง.เขตการศึกษากรุงเทพฯ พิจารณา เป็น"ครูต้นแบบ"
ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วานนี้ (4 เม.ย.) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่นายชาญวิทย์ เศรษฐพานิชผล ครู ร.ร.สามเสนวิทยาลัย (ในขณะนั้น) เป็นโจทก์ฟ้องนายวิศรุต สนธิชัย อดีต ผอ.ร.ร.สามเสนวิทยาลัย เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2549 โจทก์ยื่นแบบการประเมินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะชำนาญการกรณีพิเศษ (ครูแกนนำ/ครูต้นแบบ) ของโจทก์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้จำเลยทำการตรวจสอบและรับรองในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นต้นแล้ว ซึ่งจำเลยเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องและเป็นความจริง แต่จำเลยกลับไม่ดำเนินการให้โจทก์ตามขั้นตอน โดยจำเลยมีหน้าที่ส่งแบบประเมินของโจทก์ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 แต่จำเลยกลับถอนชื่อโจทก์ออกจากบัญชีรายชื่อข้าราชการครูที่ยื่นคำขอ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย ถ.พระราม 6 เขตพญาไท กทม. ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,165 จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2553 ให้ยกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ต่อมาญาติจำเลยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นตำแหน่งข้าราชการครู 2.5 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยตีราคาประกัน 2.5 แสนบาท
ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วานนี้ (4 เม.ย.) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่นายชาญวิทย์ เศรษฐพานิชผล ครู ร.ร.สามเสนวิทยาลัย (ในขณะนั้น) เป็นโจทก์ฟ้องนายวิศรุต สนธิชัย อดีต ผอ.ร.ร.สามเสนวิทยาลัย เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2549 โจทก์ยื่นแบบการประเมินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะชำนาญการกรณีพิเศษ (ครูแกนนำ/ครูต้นแบบ) ของโจทก์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้จำเลยทำการตรวจสอบและรับรองในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นต้นแล้ว ซึ่งจำเลยเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องและเป็นความจริง แต่จำเลยกลับไม่ดำเนินการให้โจทก์ตามขั้นตอน โดยจำเลยมีหน้าที่ส่งแบบประเมินของโจทก์ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 แต่จำเลยกลับถอนชื่อโจทก์ออกจากบัญชีรายชื่อข้าราชการครูที่ยื่นคำขอ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย ถ.พระราม 6 เขตพญาไท กทม. ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,165 จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2553 ให้ยกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ต่อมาญาติจำเลยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นตำแหน่งข้าราชการครู 2.5 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยตีราคาประกัน 2.5 แสนบาท
