เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (3เม.ย.) ที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะนายทหารระดับสูง เดินทางมาตรวจเยี่ยมการตรวจคัดเลือกทหารกองเกิน เพื่อเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ โดยมี พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า อยากให้ชายไทยได้รับการตรวจเลือกเข้ามาเป็นทหาร เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่ต้องทำ เพราะหากหนีทหารจะมีปัญหาติดตัว ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่า ให้เข้มงวดกวดขันเรื่องการปฏิบัติตามระเบียบ โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส พร้อมทั้งเร่งรัดให้ตามจับกุมตัวคนที่หนีทหารมาลงโทษด้วย สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คือ การใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ที่ช่วยให้สามารถหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารได้
ดังนั้นในอนาตอาจจะมีการแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพื่อลดการหลบเลี่ยง ซึ่งต้องแก้ไขทั้งระบบ และเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนแนวโน้มที่จะมีการยกเลิกการเกณฑ์ทหารแล้วให้เฉพาะผู้สมัครใจเข้ารับการตรวจเลือกนั้น เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งหากมีผู้สมัครใจเข้ามาจำนวนมาก อาจจะยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี 2556 นี้ กระทรวงกลาโหม มีความต้องการทหารกองประจำการจำนวน 94,480 คน จากผู้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินตามบัญชีเรียก จำนวน 359,863 คน ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนเท่ากับ 3.8 ต่อ 1 โดยแบ่งความต้องการทหารกองประจำการตามเหล่าทัพต่าง ๆ ดังนี้
กองทัพบก 69,356 คน กองทัพอากาศ 7,667 คน กองทัพเรือ 16,000 คน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 506 คน และกองบัญชาการกองทัพไทย 951 คน โดยรมว.กลาโหม มีนโยบายและประกาศเจตนารมณ์ให้เหล่าทัพ และหน่วยขึ้นตรงของกระทรวงกลาโหมใช้เป็นแนวทางปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการสัสดี ให้พยายามสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามาเป็นทหาร พิจารณาใช้ประโยชน์ทหารกองประจำการ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมกับคุณวุฒิและมีแผนติดตามทหารหนีราชการอย่างจริงจัง รวมทั้งขอให้มีการปฏิบัติบนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน และหากเกิดข้อสงสัยประการใดๆ หรือได้รับความไม่เป็นธรรมในการคัดเลือกของคณะกรรมการตรวจเลือก สามารถยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูงภายใน 30 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาใหม่ โดยจะยึดถือคำตัดสินของคณะกรรมการชั้นสูงให้เป็นที่สุด
ทั้งนี้พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า อยากให้ชายไทยได้รับการตรวจเลือกเข้ามาเป็นทหาร เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่ต้องทำ เพราะหากหนีทหารจะมีปัญหาติดตัว ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่า ให้เข้มงวดกวดขันเรื่องการปฏิบัติตามระเบียบ โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส พร้อมทั้งเร่งรัดให้ตามจับกุมตัวคนที่หนีทหารมาลงโทษด้วย สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คือ การใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ที่ช่วยให้สามารถหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารได้
ดังนั้นในอนาตอาจจะมีการแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร เพื่อลดการหลบเลี่ยง ซึ่งต้องแก้ไขทั้งระบบ และเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนแนวโน้มที่จะมีการยกเลิกการเกณฑ์ทหารแล้วให้เฉพาะผู้สมัครใจเข้ารับการตรวจเลือกนั้น เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งหากมีผู้สมัครใจเข้ามาจำนวนมาก อาจจะยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี 2556 นี้ กระทรวงกลาโหม มีความต้องการทหารกองประจำการจำนวน 94,480 คน จากผู้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินตามบัญชีเรียก จำนวน 359,863 คน ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนเท่ากับ 3.8 ต่อ 1 โดยแบ่งความต้องการทหารกองประจำการตามเหล่าทัพต่าง ๆ ดังนี้
กองทัพบก 69,356 คน กองทัพอากาศ 7,667 คน กองทัพเรือ 16,000 คน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 506 คน และกองบัญชาการกองทัพไทย 951 คน โดยรมว.กลาโหม มีนโยบายและประกาศเจตนารมณ์ให้เหล่าทัพ และหน่วยขึ้นตรงของกระทรวงกลาโหมใช้เป็นแนวทางปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการสัสดี ให้พยายามสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามาเป็นทหาร พิจารณาใช้ประโยชน์ทหารกองประจำการ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมกับคุณวุฒิและมีแผนติดตามทหารหนีราชการอย่างจริงจัง รวมทั้งขอให้มีการปฏิบัติบนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน และหากเกิดข้อสงสัยประการใดๆ หรือได้รับความไม่เป็นธรรมในการคัดเลือกของคณะกรรมการตรวจเลือก สามารถยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูงภายใน 30 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาใหม่ โดยจะยึดถือคำตัดสินของคณะกรรมการชั้นสูงให้เป็นที่สุด