เมื่อเวลา 14.15 น. วานนี้ (3 เม.ย.) นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์ 4" ได้เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ต่อมา นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาสมทบ
จากนั้นเวลา 15.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่รับการโปรดเกล้าฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกัน บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยเวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรี จะนำรัฐมนตรีทั้ง 2 คน เดินทางไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และนายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการ สำนักนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สอช.) ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้า เกี่ยวกับการวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และขอพระราชทานแนวพระราชดำริ ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำด้วย
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงนโยบายการทำงานในกระทรวงหลังเข้ารับตำแหน่ง ว่า จะเน้นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เนื่องจากหลายประเทศนักท่องเที่ยวประสบปัญหาการก่ออาชญากรรม ถ้าหากเราให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวในเรื่องนี้ได้ ภาพลักษณ์ประเทศไทยจะดีขึ้น ทุกวันนี้เขามองว่าเมืองไทยมีแนวโน้มอาชญากรรมสูง ฉะนั้นต้องอาศัยเครือข่ายมหาดไทย กระบวนการยุติธรรม โดยต้องหารือในทุกระดับ ทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เราเป็นเจ้าหน้าที่ต้องอนุเคราะห์นักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหา อย่าให้เขากลับไปเขียนเฟซบุ๊ก หรือ ยูทูป เพราะจะก่อให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้นอีก ถ้าเป็นไปได้เราน่าจะใช้เครือข่ายจากโลกไซเบอร์ ให้ช่วยเป็นตาวิเศษในเรื่องนี้ จะทำให้ภาพของไทยน่าเที่ยวมากขึ้น
ทั้งนี้ ตราบใดที่คนไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ เชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวจะไปได้ ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวจะได้ตามเป้าหรือไม่ ต้องประสานทุกภาคส่วนก่อน และรายได้การท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ
ส่วนการเดินหน้าเวิลด์เอ็กซโป หรือไม่นั้น ตนขอรับทราบนโยบายจากผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งการเป็นจะเป็นเจ้าภาพ ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อม ทั้งสภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจด้วย
เมื่อถามว่าเป็นห่วงข่าวที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา จะเข้ามาล้วงลูกหรือไม่ นายสมศักย์ กล่าวว่า ตนอยู่สุพรรณบุรีมา 8 ปี ท่านก็ให้โอกาสทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เมืองโบราณอู่ทอง
เมื่อถามว่า เพียงแต่ว่าเป็นการรับคำแนะนำ จากนายบรรหาร นายสมศักย์ กล่าวว่า เราไปทำงานในพื้นที่ใครก็ต้องรายงานให้ทราบ ทั้งนี้การทำงานกับนายบรรหาร ต้องเร็ว ตนก็ทำงานเร็วอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะเดินทางเข้าทำงานในกระทรวงในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ เนื่องจากวันที่ 4 เม.ย. ต้องไปพบผู้ใหญ่ ที่นัดไว้ก่อน
จากนั้นเวลา 15.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่รับการโปรดเกล้าฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกัน บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยเวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรี จะนำรัฐมนตรีทั้ง 2 คน เดินทางไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และนายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการ สำนักนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สอช.) ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้า เกี่ยวกับการวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และขอพระราชทานแนวพระราชดำริ ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำด้วย
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงนโยบายการทำงานในกระทรวงหลังเข้ารับตำแหน่ง ว่า จะเน้นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เนื่องจากหลายประเทศนักท่องเที่ยวประสบปัญหาการก่ออาชญากรรม ถ้าหากเราให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวในเรื่องนี้ได้ ภาพลักษณ์ประเทศไทยจะดีขึ้น ทุกวันนี้เขามองว่าเมืองไทยมีแนวโน้มอาชญากรรมสูง ฉะนั้นต้องอาศัยเครือข่ายมหาดไทย กระบวนการยุติธรรม โดยต้องหารือในทุกระดับ ทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เราเป็นเจ้าหน้าที่ต้องอนุเคราะห์นักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหา อย่าให้เขากลับไปเขียนเฟซบุ๊ก หรือ ยูทูป เพราะจะก่อให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้นอีก ถ้าเป็นไปได้เราน่าจะใช้เครือข่ายจากโลกไซเบอร์ ให้ช่วยเป็นตาวิเศษในเรื่องนี้ จะทำให้ภาพของไทยน่าเที่ยวมากขึ้น
ทั้งนี้ ตราบใดที่คนไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ เชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวจะไปได้ ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวจะได้ตามเป้าหรือไม่ ต้องประสานทุกภาคส่วนก่อน และรายได้การท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ
ส่วนการเดินหน้าเวิลด์เอ็กซโป หรือไม่นั้น ตนขอรับทราบนโยบายจากผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งการเป็นจะเป็นเจ้าภาพ ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อม ทั้งสภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจด้วย
เมื่อถามว่าเป็นห่วงข่าวที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา จะเข้ามาล้วงลูกหรือไม่ นายสมศักย์ กล่าวว่า ตนอยู่สุพรรณบุรีมา 8 ปี ท่านก็ให้โอกาสทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เมืองโบราณอู่ทอง
เมื่อถามว่า เพียงแต่ว่าเป็นการรับคำแนะนำ จากนายบรรหาร นายสมศักย์ กล่าวว่า เราไปทำงานในพื้นที่ใครก็ต้องรายงานให้ทราบ ทั้งนี้การทำงานกับนายบรรหาร ต้องเร็ว ตนก็ทำงานเร็วอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะเดินทางเข้าทำงานในกระทรวงในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ เนื่องจากวันที่ 4 เม.ย. ต้องไปพบผู้ใหญ่ ที่นัดไว้ก่อน