เอเจนซีส์ - มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก มหาเศรษฐีวัย 28 ปี ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ก้าวเข้าสู่โลกการเมืองของสหรัฐฯ โดยกำลังเข้าร่วมก่อตั้งกลุ่มรณรงค์ทางการเมือง ซึ่งประกอบด้วยพวกผู้นำแวดวงไฮเทค เพื่อผลักดันให้มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงกฎหมายของสหรัฐฯ ในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่การศึกษา ไปจนถึงนโยบายคนเข้าเมือง
สื่อชื่อดังในสหรัฐฯ เป็นต้นว่า ซานฟรานซิสโกโครนิเคิล, โพลิติโค, และวอลล์สตรีทเจอร์นัล ต่างรายงานกันอย่างกว้างขวางทางออนไลน์ในวันอังคาร (26) ว่า ซัคเคอร์เบิร์ก กำลังเตรียมเปิดตัวกลุ่มรณรงค์ทางการเมืองนี้ ร่วมกับ โจ กรีน อดีตเพื่อนร่วมห้องสมัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเวลานี้ผันตัวเป็นผู้บริหารกิจการด้านเทคโนโลยีจนประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็กำลังเกี้ยวพาราสีผู้บริหารระดับท็อปของแวดวงไฮเทคคนอื่นๆ เป็นต้นว่า รีด ฮอฟฟ์มาน ผู้ก่อตั้ง ลิงค์อิน (LinkedIn) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมชื่อดังทางภาคธุรกิจ
เหล่าบริษัทเทคโนโลยีรวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กของซัคเคอร์เบิร์ก เคยร้องเรียนถึงระบบคนเข้าเมืองอันเข้มงวดของสหรัฐฯ ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการคัดสรรผู้สำเร็จการศึกษาที่มีพรสวรรค์จากต่างแดน
เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซักเคอร์เบิร์กและเหล่าซีอีโอของบริษัทต่างๆ อีก 99 ราย ทำหนังสือถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเหล่าผู้นำในรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขอคำรับรองว่าแผนการปฏิรูปกฎหมายผู้อพยพเข้าเมืองซึ่งสมาชิกคนสำคัญของเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังร่างอยู่ในปัจจุบัน จะให้ความใส่ใจกับปัญหานี้
“แรงงานต่างด้าวความสามารถสูงจำนวนมากที่ยังต้องการอยู่ในสหรัฐฯ ต้องถูกบังคับให้ออกนอกประเทศ เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้วีซ่าถาวร” หนังสือร้องเรียนฉบับนี้ระบุ
นอกเหนือจากเรื่องนโยบายรับผู้อพยพเข้าเมืองแล้ว แวดวงไฮเทคของสหรัฐฯในซิลลิคอนแวลลีย์ ยังให้ความสนใจมานานแล้วในประเด็นเรื่องการยกระดับคะแนนของนักเรียนในระบบโรงเรียนของสหรัฐฯในวิชาวิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, และวิศวกรรม รวมทั้งขอบเขตของเนื้อหาวิชา ตลอดจนเรื่องนโยบายส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนาซึ่งจะเป็นการบ่มเพาะให้เกิดนวัตกรรม
ซานฟรานซิสโก โครนิเคิล รายงานว่า กลุ่มรณรงค์ทางการเมืองของซัคเคอร์เบิร์ก ยังระดมที่ปรึกษาหลายคนเข้ามาร่วมงาน เป็นต้นว่า จอน เลอร์เนอร์ และรอบ เจสเมอร์ ที่ปรึกษาทางการเมืองกลุ่มฝ่ายขวาของรีพับลิกัน รวมทั้ง โจ ล็อกฮาร์ท อดีตเลขานุการฝ่ายหนังสือพิมพ์ของบิล คลินตัน และเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊ก
ซัคเคอร์เบิร์กได้เคยแสดงความสนใจเรื่องการเมืองมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเคยบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ จากสินทรัพย์ทั้งหมด 13,000 ล้านดอลลาร์ ให้แก่เครือข่ายโรงเรียนภาครัฐในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ และตอนต้นปี 2012 ก็เป็นเจ้าภาพเปิดบ้านจัดงานเลี้ยงระดมหาทุนรณรงค์หาเสียงให้แก่ คริส คริสตี ผู้ว่าการมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ถูกจับตามองว่าอาจจะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันในอนาคต
นอกจากนั้น เขาก็ได้พบปะกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลายครั้งหลายหน อีกทั้งเคยเป็นเจ้าภาพจัดรายการหาเสียงให้โอบามาที่สำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊กในปี 2011
สำหรับกลุ่มรณรงค์ทางการเมืองล่าสุดนี้ รายงานของสื่อบอกว่า ซัคเคอร์เบิร์กและผู้ร่วมก่อการตั้งเป้าจะระดมเงินบริจาคให้ได้ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ โดยที่ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กรายนี้เตรียมควักกระเป๋าตนเองราว 20 ล้านดอลลาร์
สื่อชื่อดังในสหรัฐฯ เป็นต้นว่า ซานฟรานซิสโกโครนิเคิล, โพลิติโค, และวอลล์สตรีทเจอร์นัล ต่างรายงานกันอย่างกว้างขวางทางออนไลน์ในวันอังคาร (26) ว่า ซัคเคอร์เบิร์ก กำลังเตรียมเปิดตัวกลุ่มรณรงค์ทางการเมืองนี้ ร่วมกับ โจ กรีน อดีตเพื่อนร่วมห้องสมัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเวลานี้ผันตัวเป็นผู้บริหารกิจการด้านเทคโนโลยีจนประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็กำลังเกี้ยวพาราสีผู้บริหารระดับท็อปของแวดวงไฮเทคคนอื่นๆ เป็นต้นว่า รีด ฮอฟฟ์มาน ผู้ก่อตั้ง ลิงค์อิน (LinkedIn) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมชื่อดังทางภาคธุรกิจ
เหล่าบริษัทเทคโนโลยีรวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กของซัคเคอร์เบิร์ก เคยร้องเรียนถึงระบบคนเข้าเมืองอันเข้มงวดของสหรัฐฯ ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการคัดสรรผู้สำเร็จการศึกษาที่มีพรสวรรค์จากต่างแดน
เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซักเคอร์เบิร์กและเหล่าซีอีโอของบริษัทต่างๆ อีก 99 ราย ทำหนังสือถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเหล่าผู้นำในรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขอคำรับรองว่าแผนการปฏิรูปกฎหมายผู้อพยพเข้าเมืองซึ่งสมาชิกคนสำคัญของเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังร่างอยู่ในปัจจุบัน จะให้ความใส่ใจกับปัญหานี้
“แรงงานต่างด้าวความสามารถสูงจำนวนมากที่ยังต้องการอยู่ในสหรัฐฯ ต้องถูกบังคับให้ออกนอกประเทศ เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้วีซ่าถาวร” หนังสือร้องเรียนฉบับนี้ระบุ
นอกเหนือจากเรื่องนโยบายรับผู้อพยพเข้าเมืองแล้ว แวดวงไฮเทคของสหรัฐฯในซิลลิคอนแวลลีย์ ยังให้ความสนใจมานานแล้วในประเด็นเรื่องการยกระดับคะแนนของนักเรียนในระบบโรงเรียนของสหรัฐฯในวิชาวิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, และวิศวกรรม รวมทั้งขอบเขตของเนื้อหาวิชา ตลอดจนเรื่องนโยบายส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนาซึ่งจะเป็นการบ่มเพาะให้เกิดนวัตกรรม
ซานฟรานซิสโก โครนิเคิล รายงานว่า กลุ่มรณรงค์ทางการเมืองของซัคเคอร์เบิร์ก ยังระดมที่ปรึกษาหลายคนเข้ามาร่วมงาน เป็นต้นว่า จอน เลอร์เนอร์ และรอบ เจสเมอร์ ที่ปรึกษาทางการเมืองกลุ่มฝ่ายขวาของรีพับลิกัน รวมทั้ง โจ ล็อกฮาร์ท อดีตเลขานุการฝ่ายหนังสือพิมพ์ของบิล คลินตัน และเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊ก
ซัคเคอร์เบิร์กได้เคยแสดงความสนใจเรื่องการเมืองมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเคยบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ จากสินทรัพย์ทั้งหมด 13,000 ล้านดอลลาร์ ให้แก่เครือข่ายโรงเรียนภาครัฐในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ และตอนต้นปี 2012 ก็เป็นเจ้าภาพเปิดบ้านจัดงานเลี้ยงระดมหาทุนรณรงค์หาเสียงให้แก่ คริส คริสตี ผู้ว่าการมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ถูกจับตามองว่าอาจจะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันในอนาคต
นอกจากนั้น เขาก็ได้พบปะกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลายครั้งหลายหน อีกทั้งเคยเป็นเจ้าภาพจัดรายการหาเสียงให้โอบามาที่สำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊กในปี 2011
สำหรับกลุ่มรณรงค์ทางการเมืองล่าสุดนี้ รายงานของสื่อบอกว่า ซัคเคอร์เบิร์กและผู้ร่วมก่อการตั้งเป้าจะระดมเงินบริจาคให้ได้ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ โดยที่ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กรายนี้เตรียมควักกระเป๋าตนเองราว 20 ล้านดอลลาร์