นนทบุรี- คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำร้านทอง “ออโรร่า” ภายในห้างบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ ขนทองหนักกว่า 80 บาทใจเย็นเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนขับรถหนีลอยนวล ตร.คาดอาจเป็นปืนแก๊ป เร่งพิสูจน์หลักฐานหาลายนิ้วมือแฝงกล้องวงจรปิดติดตามล่าตัวคนร้ายต่อไป
วานนี้ (27 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง “ออโรร่า” ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ หมู่ 8 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่พนักงานภายในร้าน และได้กวาดทองรูปพรรณซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท จำนวนประมาณ 20 เส้น สร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวนประมาณ 25 เส้น และยังมีทองรูปพรรณชนิดต่างๆ น้ำหนักประมาณ 80-100 บาท มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท ก่อนขับรถกระบะหลบหนีไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า คนร้ายมาคนเดียว ส่วนปืนที่ใช้คาดว่าอาจเป็นปืนปลอม หรือปืนแก๊ป เพราะมีพยานเห็นว่ามีควันออกจากปากกระบอกปืนเยอะผิดสังเกต หลังเกิดเหตุคนร้ายหลบหนีเข้าห้องน้ำของห้างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถของห้างหลบหนีไปลอยนวล
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับทางห้างร้าน และธนาคารที่มีวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบลักษณะรูปพรรณของคนร้ายที่ก่อเหตุ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอออกหมายจับตามภาพสเกตช์ของคนร้ายในกล้องวงจรปิดเพื่อเร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
วานนี้ (27 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง “ออโรร่า” ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ หมู่ 8 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่พนักงานภายในร้าน และได้กวาดทองรูปพรรณซึ่งเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท จำนวนประมาณ 20 เส้น สร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวนประมาณ 25 เส้น และยังมีทองรูปพรรณชนิดต่างๆ น้ำหนักประมาณ 80-100 บาท มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท ก่อนขับรถกระบะหลบหนีไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า คนร้ายมาคนเดียว ส่วนปืนที่ใช้คาดว่าอาจเป็นปืนปลอม หรือปืนแก๊ป เพราะมีพยานเห็นว่ามีควันออกจากปากกระบอกปืนเยอะผิดสังเกต หลังเกิดเหตุคนร้ายหลบหนีเข้าห้องน้ำของห้างเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถของห้างหลบหนีไปลอยนวล
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับทางห้างร้าน และธนาคารที่มีวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบลักษณะรูปพรรณของคนร้ายที่ก่อเหตุ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอออกหมายจับตามภาพสเกตช์ของคนร้ายในกล้องวงจรปิดเพื่อเร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป