ASTV ผู้จัดการรายวัน - “ซูซูกิ” เติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าปีนี้ 60,000 คัน ส่วนใหญ่เป็นอีโคคาร์รุ่นสวิฟท์ จนต้องปรับแผนยื่นบีโอไอขอลงทุนเฟสใหม่เร็วขึ้น เพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัวเป็น 100,000 คัน ใช้เวลาเพียง 3 ปี จากเดิมกำหนดใน 5 ปี พร้อมเดินหน้ารุกตลาดรถไทย เปิดมินิเอ็มพีวี “ซูซูกิ เออร์ติกา” กดราคาทุบคู่แข่งเริ่ม 5.54 แสนบาท
นายทาคายูกิ ซูกิยาม่า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ลงทุนโครงการอีโคคาร์และเปิดตัวซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เมื่อเดือนมีนาคม 2555 ที่ผ่านมา และสามารถทำยอดขายได้กว่า 23,000 คัน จากที่ตั้งเป้าไว้เบื้องต้น 10,000 คัน จากความสำเร็จของรุ่นสวีฟท์ และเพื่อต่อยอดตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์ที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ของผู้บริโภค บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “ซูซูกิ เออร์ติกา” (Suzuki Ertiga) สู่ตลาดไทยอีกรุ่น
ทั้งนี้การเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นเออร์ติกา จะช่วยผลักดันให้ซูซูกิในไทยเติบโตมากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าการขายไว้ 60,000 คัน มากกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ทั้งหมด 24,680 คัน แบ่งเป็นอีโคคาร์รุ่นสวิฟท์ 41,000 คัน กระบะอเนกประสงค์ ซูซูกิ แครี 13,000 คัน และอีก 6,000 คัน เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ซูซูกิ เออร์ติกา รุ่นใหม่ที่เปิดตัวล่าสุด โดยมีราคา 554,000-689,000 บาท ถือเป็นราคาจูงใจและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นพิเศษ
“จากการที่ยอดขายเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะรุ่นสวิฟท์ที่ตอนนี้มียอดค้างส่งมอบประมาณ 30,000 คัน ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการผลิตใหม่ โดยกำลังขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ (BOI) เพื่อลงทุนการผลิตเฟส2 ขยายกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 50,000 คัน เพิ่มเป็น 100,000 คันในปีหน้า ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ 3 เท่านั้นของการลงทุนโครงการอีโคคาร์ จากเดิมที่กำหนดใน 5 ปี แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยเงินลงทุนใหม่ได้” นายซูกิยาม่ากล่าว
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายรถซูซูกิ บริษัทฯ เตรียมเพิ่มบริการหลังการขาย จากปีที่ผ่านมามีศูนย์บริการประมาณ 40 แห่ง จะเพิ่มเป็น 100 แห่ง โดยพร้อมเปิดบริการในปีนี้ 80 แห่ง ที่เหลืออีก 20 แห่ง กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังจะมีการฝึกอบรมพนักงาน ทั้งในส่วนของช่างผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานฝ่ายต่างๆ ให้พร้อมรองรับบริการลูกค้าอย่างเต็มที่
“ส่วนยอดค้างส่งมอบรถรุ่นสวิฟท์ที่มีอยู่จำนวนมาก ตอนนี้ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิต และมั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตามเป้าหมายการขาย แต่ยอมรับว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้าใหม่ที่เข้ามาจองรถลดลง 20-30% ซึ่งเป็นธรรมดาที่ไม่มีโครงการรถคันแรกผลักดัน อย่างไรก็ตามมั่นใจทิศทางตลาดลูกค้าจะให้ความสำคัญกับอีโคคาร์มากขึ้น โดยบางส่วนมาจากลูกค้ากลุ่มเก๋งซับคอมแพ็กต์ เพราะเซกเม้นท์นี้ต่อไปหากไม่มีโครงการรถคันแรก ความต้องน่าจะลดลงมาก”
สำหรับรถยนต์ใหม่ซูซูกิ เออร์ติกา เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง ใช้พื้นฐานของรุ่นสวิฟท์แต่ได้มีการขายฐานล้อ และปรับช่วงล่างให้เหมาะกับการรองรับผู้โดยสารมากขึ้น โดยวางเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 95 แรงม้า มีให้เลือก 3 รุ่น แยกเป็นรุ่น GA เกียร์ธรรมดา ราคา 554,000 บาท รุ่น GL เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ 639,000 บาท และรุ่น GX ราคา 689,000 บาท ถือเป็นรถมินิเอ็มพีวีที่มีราคาต่ำสุด หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด โตโยต้า อแวนซ่า ราคา 569,000 - 699,000 บาท และเชฟโรเลต สปิน มีรุ่นเดียว 762,000 บาท จะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 ปลายเดือนมีนาคมนี้
นายทาคายูกิ ซูกิยาม่า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ลงทุนโครงการอีโคคาร์และเปิดตัวซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เมื่อเดือนมีนาคม 2555 ที่ผ่านมา และสามารถทำยอดขายได้กว่า 23,000 คัน จากที่ตั้งเป้าไว้เบื้องต้น 10,000 คัน จากความสำเร็จของรุ่นสวีฟท์ และเพื่อต่อยอดตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์ที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ของผู้บริโภค บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “ซูซูกิ เออร์ติกา” (Suzuki Ertiga) สู่ตลาดไทยอีกรุ่น
ทั้งนี้การเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นเออร์ติกา จะช่วยผลักดันให้ซูซูกิในไทยเติบโตมากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าการขายไว้ 60,000 คัน มากกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ทั้งหมด 24,680 คัน แบ่งเป็นอีโคคาร์รุ่นสวิฟท์ 41,000 คัน กระบะอเนกประสงค์ ซูซูกิ แครี 13,000 คัน และอีก 6,000 คัน เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ซูซูกิ เออร์ติกา รุ่นใหม่ที่เปิดตัวล่าสุด โดยมีราคา 554,000-689,000 บาท ถือเป็นราคาจูงใจและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นพิเศษ
“จากการที่ยอดขายเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะรุ่นสวิฟท์ที่ตอนนี้มียอดค้างส่งมอบประมาณ 30,000 คัน ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการผลิตใหม่ โดยกำลังขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ (BOI) เพื่อลงทุนการผลิตเฟส2 ขยายกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 50,000 คัน เพิ่มเป็น 100,000 คันในปีหน้า ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ 3 เท่านั้นของการลงทุนโครงการอีโคคาร์ จากเดิมที่กำหนดใน 5 ปี แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยเงินลงทุนใหม่ได้” นายซูกิยาม่ากล่าว
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายรถซูซูกิ บริษัทฯ เตรียมเพิ่มบริการหลังการขาย จากปีที่ผ่านมามีศูนย์บริการประมาณ 40 แห่ง จะเพิ่มเป็น 100 แห่ง โดยพร้อมเปิดบริการในปีนี้ 80 แห่ง ที่เหลืออีก 20 แห่ง กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังจะมีการฝึกอบรมพนักงาน ทั้งในส่วนของช่างผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานฝ่ายต่างๆ ให้พร้อมรองรับบริการลูกค้าอย่างเต็มที่
“ส่วนยอดค้างส่งมอบรถรุ่นสวิฟท์ที่มีอยู่จำนวนมาก ตอนนี้ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิต และมั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตามเป้าหมายการขาย แต่ยอมรับว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้าใหม่ที่เข้ามาจองรถลดลง 20-30% ซึ่งเป็นธรรมดาที่ไม่มีโครงการรถคันแรกผลักดัน อย่างไรก็ตามมั่นใจทิศทางตลาดลูกค้าจะให้ความสำคัญกับอีโคคาร์มากขึ้น โดยบางส่วนมาจากลูกค้ากลุ่มเก๋งซับคอมแพ็กต์ เพราะเซกเม้นท์นี้ต่อไปหากไม่มีโครงการรถคันแรก ความต้องน่าจะลดลงมาก”
สำหรับรถยนต์ใหม่ซูซูกิ เออร์ติกา เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง ใช้พื้นฐานของรุ่นสวิฟท์แต่ได้มีการขายฐานล้อ และปรับช่วงล่างให้เหมาะกับการรองรับผู้โดยสารมากขึ้น โดยวางเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 95 แรงม้า มีให้เลือก 3 รุ่น แยกเป็นรุ่น GA เกียร์ธรรมดา ราคา 554,000 บาท รุ่น GL เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ 639,000 บาท และรุ่น GX ราคา 689,000 บาท ถือเป็นรถมินิเอ็มพีวีที่มีราคาต่ำสุด หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด โตโยต้า อแวนซ่า ราคา 569,000 - 699,000 บาท และเชฟโรเลต สปิน มีรุ่นเดียว 762,000 บาท จะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 ปลายเดือนมีนาคมนี้
