วานนี้ (6 มี.ค.) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะอดีตกรรมการ ศอฉ. ชี้แจงถึงการมีอยู่ของชายชุดดำในการชุมนุมคนเสื้อแดง ปี 53 ที่มีการใช้คำสั่งเรียกชี้แจงแล้วถึงสองครั้ง แต่นายธาริต ไม่มาชี้แจงตามคำสั่งที่เรียกไป แต่กลับส่ง พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่เป็นตัวแทนเข้าชี้แจง โดยอ้างเหตุร่วมประชุมกับผู้บริหารตำรวจประเทศนิวซีแลนด์ และเห็นว่าคณะกรรมาธิการฯ ไม่มีอำนาจที่จะเรียกเข้าชี้แจง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่มีน้ำหนักพอ
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ใช้อำนาจตามคำสั่งเรียกเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้เข้าชี้แจง ในวันพุธที่ 13 มี.ค.นี้ หากนายธาริต ยังไม่ให้ความร่วมมือ จะถือเป็นข้าราชการไทยรายแรกที่ต้องโทษจาก พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่งมีโทษทั้งจำ และปรับ รวมไปถึงโทษทางวินัยร้ายแรงด้วย จึงขอให้นายธาริต เคารพกฎหมาย ร่วมมือให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการฯ
ส่วนที่นายธาริต กล่าวหาว่าตนได้ไล่ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ. สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกจากห้องคณะกรรมาธิการฯนั้น เป็นเพียงการเชิญออกเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้เป็นบุคคลที่ใช้คำสั่งเรียกเข้าชี้แจง ซึ่งในการชี้แจงครั้งต่อไป คณะกรรมาธิการฯจะไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นร่วมชี้แจงกับนายธาริต
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ใช้อำนาจตามคำสั่งเรียกเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้เข้าชี้แจง ในวันพุธที่ 13 มี.ค.นี้ หากนายธาริต ยังไม่ให้ความร่วมมือ จะถือเป็นข้าราชการไทยรายแรกที่ต้องโทษจาก พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่งมีโทษทั้งจำ และปรับ รวมไปถึงโทษทางวินัยร้ายแรงด้วย จึงขอให้นายธาริต เคารพกฎหมาย ร่วมมือให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการฯ
ส่วนที่นายธาริต กล่าวหาว่าตนได้ไล่ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ. สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกจากห้องคณะกรรมาธิการฯนั้น เป็นเพียงการเชิญออกเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้เป็นบุคคลที่ใช้คำสั่งเรียกเข้าชี้แจง ซึ่งในการชี้แจงครั้งต่อไป คณะกรรมาธิการฯจะไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นร่วมชี้แจงกับนายธาริต