วานนี้ ( 28 ก.พ.) นายกฤษณ์ สุริยผล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 20 ได้เข้ายื่นหนังสือเพิ่มเติมต่อ กกต.กทม. กรณีที่ขอให้ตรวจสอบการการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ก.พ.ว่า มีการล็อกเลขรางวัล ตามที่นายกรัฐมนตรี และรมช.พานิชย์ ได้ปราศรัย เพื่อเอื้อต่ออคะแนนนิยมของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. บางรายหรือไม่ และขอให้สั่งยับยั้งการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 1 มี.ค.
โดยนายกฤษณ์ กล่าวว่า หลังจากมายื่นเรื่องกับกกต. ก็ได้ไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย โดยขอว่า หากสำนักงานสลากฯ ไม่สามารถงดการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.ได้ ก็ขอให้แต่งตั้งตนเข้าร่วมเป็นกรรมการออกรางวัล ซึ่งทางสำนักงานสลากฯ อ้างว่าจะต้องสอบถามไปยังกกต.กทม. ก่อนว่า สามารถทำได้หรือไม่ แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือแจ้งมายังตนว่า ไม่สามารถระงับการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.ได้ เพราะมีการพิมพ์สลากออกจำหน่าย ทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากบำรุงการกุศล ที่กำหนดวันออกรางวัลดังกล่าวไว้ที่สลากทุกฉบับ โดยประชาชนได้ซื้อสลากในงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.นี้ไปแล้ว และรอติดตามการออกรางวัลในวันดังกล่าวอยู่ หากเลื่อนหรือระงับการออกรางวัล ก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ของสำนักงาน
"ส่วนที่ผมขอเป็นกรรมการออกรางวัล ประจำงวดวันที่ 1 มี.ค. ที่ จ.ภูเก็ต ทางสำนักงานสลากฯ อ้างว่าได้กำหนดแผนการออกรางวัล และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิของจ.ภูเก็ต เพื่อเป็นกรรมการออกรางวัลครบถ้วนไว้เป็นการล่วงหน้าแล้ว จึงไม่อาจตั้งผมไปเป็นกรรมการด้วยได้ ผมจึงอยากจะทราบจากกกต.กทม. ว่า ทางสำนักงานสลากฯ ได้มีการประสานสอบถามความเห็นมาว่า จะตั้งผมเป็นกรรมการออกรางวัลหรือไม่ และที่ผมยื่นให้ตรวจสอบการล็อกเลขรางวัลไปถึงไหนแล้ว และถ้าผลการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.นี้ เกิดออกมาตรงกับหมายเลขผู้สมัครบางคนที่เขาบอกว่าเป็นตัวเต็ง กกต. จะทำอย่างไร จะถือว่าทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เป็นโมฆะหรือไม่ หรือถ้า ออกมาไม่ตรงกับหมายเลขที่เป็นตัวเต็ง จะถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ ผมไม่อยากให้ใครมองกกต.ว่า เหมือนเสือกระดาษ หรือขนมจีนไม่มีน้ำยา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณ์ ยังได้นำซองเลขเด็ดของ “ฟ้ามีตา” งวดประจำวันที่ 1 มี.ค. มาโชว์ ประกอบการยื่นคำร้อง โดยอ้างว่า หมายเลของผู้สมัครที่เป็นตัวเต็ง ก็เป็นเลขเด็ดของซองใบ้หวยนี้ด้วย ซึ่งไปหาซื้อ ก็ไม่มีในทุกแผงแล้ว จึงต้องซื้อหมายเลข 20 ของตนเองไว้รวม 30 ใบ ถ้าถูกก็ได้เงินรางวัล 106 ล้านบาท ไม่ขอเป็นผู้ว่าฯกทม. แล้ว
โดยนายกฤษณ์ กล่าวว่า หลังจากมายื่นเรื่องกับกกต. ก็ได้ไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย โดยขอว่า หากสำนักงานสลากฯ ไม่สามารถงดการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.ได้ ก็ขอให้แต่งตั้งตนเข้าร่วมเป็นกรรมการออกรางวัล ซึ่งทางสำนักงานสลากฯ อ้างว่าจะต้องสอบถามไปยังกกต.กทม. ก่อนว่า สามารถทำได้หรือไม่ แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือแจ้งมายังตนว่า ไม่สามารถระงับการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.ได้ เพราะมีการพิมพ์สลากออกจำหน่าย ทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากบำรุงการกุศล ที่กำหนดวันออกรางวัลดังกล่าวไว้ที่สลากทุกฉบับ โดยประชาชนได้ซื้อสลากในงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.นี้ไปแล้ว และรอติดตามการออกรางวัลในวันดังกล่าวอยู่ หากเลื่อนหรือระงับการออกรางวัล ก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ของสำนักงาน
"ส่วนที่ผมขอเป็นกรรมการออกรางวัล ประจำงวดวันที่ 1 มี.ค. ที่ จ.ภูเก็ต ทางสำนักงานสลากฯ อ้างว่าได้กำหนดแผนการออกรางวัล และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิของจ.ภูเก็ต เพื่อเป็นกรรมการออกรางวัลครบถ้วนไว้เป็นการล่วงหน้าแล้ว จึงไม่อาจตั้งผมไปเป็นกรรมการด้วยได้ ผมจึงอยากจะทราบจากกกต.กทม. ว่า ทางสำนักงานสลากฯ ได้มีการประสานสอบถามความเห็นมาว่า จะตั้งผมเป็นกรรมการออกรางวัลหรือไม่ และที่ผมยื่นให้ตรวจสอบการล็อกเลขรางวัลไปถึงไหนแล้ว และถ้าผลการออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค.นี้ เกิดออกมาตรงกับหมายเลขผู้สมัครบางคนที่เขาบอกว่าเป็นตัวเต็ง กกต. จะทำอย่างไร จะถือว่าทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เป็นโมฆะหรือไม่ หรือถ้า ออกมาไม่ตรงกับหมายเลขที่เป็นตัวเต็ง จะถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ ผมไม่อยากให้ใครมองกกต.ว่า เหมือนเสือกระดาษ หรือขนมจีนไม่มีน้ำยา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษณ์ ยังได้นำซองเลขเด็ดของ “ฟ้ามีตา” งวดประจำวันที่ 1 มี.ค. มาโชว์ ประกอบการยื่นคำร้อง โดยอ้างว่า หมายเลของผู้สมัครที่เป็นตัวเต็ง ก็เป็นเลขเด็ดของซองใบ้หวยนี้ด้วย ซึ่งไปหาซื้อ ก็ไม่มีในทุกแผงแล้ว จึงต้องซื้อหมายเลข 20 ของตนเองไว้รวม 30 ใบ ถ้าถูกก็ได้เงินรางวัล 106 ล้านบาท ไม่ขอเป็นผู้ว่าฯกทม. แล้ว