“ชีวิตงดงามด้วยศีล สมาธิ ปัญญา” สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาทวันมาฆบูชาปี 56 ด้าน กรมการศาสนาจัดพิมพ์บัตรอวยพรเป็นภาพพระพุทธชินสีห์ปางมารวิชัย พระโอวาทสมเด็จพระสังฆราช ขณะที่ ดุสิตโพล เผยประชาชนจะเข้าวัดทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลในวัน “มาฆบูชา” และส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับวันดังกล่าวเพราะเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา อธิษฐานขอพรให้ครอบครัวมีความสุข ไม่เจ็บป่วยมากที่สุด
วานนี้ (24 ก.พ.) นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2556 ตรงกับวันที่ 25 ก.พ.นี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาท เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2556 ความตอนหนึ่งว่า พระพุทธศาสนา แสดงว่า พระสุคต คือพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด และแสดงว่า บุคคลย่อมงามในเบื้องต้นด้วยศีล งามในท่ามกลางด้วยสมาธิ งามในที่สุดด้วยปัญญา เพราะว่าศีลทำให้กาย วาจา หรือพฤติกรรมเรียบร้อยงดงาม สมาธิทำให้ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจสงบเยือกเย็นและมั่นคง ปัญญาทำให้ความรู้ความสามารถสะอาดบริสุทธิ์เป็นไปในทางสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามแก่ชีวิต เมื่อประมวลเข้าด้วยกัน ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คือคุณเครื่องทำให้ชีวิตงดงาม วันมาฆบูชา คือ วันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยย่นย่อ ส่วนหนึ่งของหลักการสำคัญดังกล่าวก็คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ ซึ่งก็คือ หลักศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
ฉะนั้น วันมาฆบูชา จึงถือได้ว่าเป็นวันแห่งความงามของชีวิต จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย น้อมจิตรำลึกถึงพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งน้อมนำเอาพระธรรมคำสอนของพระองค์มาบริหารจัดการชีวิตของตนให้งดงามด้วยการปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา ทั่วกัน
นอกจากนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดเสระเกศ ยังให้โอวาทว่า วันมาฆบูชา ความตอนหนึ่งว่า เป็นวันที่มีความสำคัญมาก สำหรับผู้นับถือพระพุทธศาสนา เนื่องด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ แก่บรรดาพระอรหันต์ จำนวน 1,250 รูป ในวันเพ็ญกลางเดือน 3 และยึดถือกันว่า เป็นธรรมรัตนะ ผู้นับถือพระพุทธศาสนา มีความรู้สึกลึกซื้ง ต่อวันดังกล่าว จึงได้พร้อมใจกันบูชาเป็นพิเศษ ต่อพระรัตนตรัย และกำหนดการบูชาพิเศษ ในวันนั้นว่า “วันมาฆบูชา” ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ได้โปรดดลบันดาลประทานพระ ให้พุทธศาสนิกชน ทุกท่าน เจริญด้วย จตุรพิธพรชัย งอกงาม ไพบูลย์ ในพระศาสนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดนิตยกาลเทอญ
ส่วนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้คำอำนวยพรความตอนหนึ่งว่า วันมาฆบูชา วันแห่งความรักที่บริสุทธิ์ เมื่อ 2600 ปีที่แล้ว สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ วัชรบัลลังก์ ได้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศอินเดีย ทรงประกอบด้วย พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ แนะนำสั่งสอนชาวโลกด้วย พระอริยสัจธรรมที่ทรงตรัสรู้นั้น ตลอดพระชนมชีพ โอวาทปาฏิโมกข์ เป็นคำสอนที่ทรงประทานแก่พุทธสาวก ในวันเพ็ญมาฆมาส ทรงประสงค์ให้ชาวโลกอยู่ร่วมกันด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ทำร้ายกันทางวาจา ไม่ทำร้ายกันทางกาย รักษาความประพฤติให้น่าเลื่อมใส เสพปัจจัยอย่างรู้ประมาณ พอเพียง รักความสงบ และพัฒนาจิตใจให้สูงส่ง เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชา ปี 2556 นี้ ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายได้น้อมนำโอวาทปาฏิโมกข์มาปฏิบัติ จงอยู่ร่วมกันด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนกัน มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญฯ
ทั้งนี้ กรมการศาสนาจัดพิมพ์บัตรอวยพรเป็นภาพพระพุทธชินสีห์ปางมารวิชัย พระโอวาทสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โอวาทและคำอำนวยพรของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ คณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พร้อมโปสเตอร์ และหนังสือสวดมนต์วันมาฆบูชาจำนวน 30,000 ชุดแจกจ่ายให้กับหน่วยงานราชการ ประชาชน ผู้สนใจทั่วประเทศ พร้อมกับเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม www.m-culture.go.th และเว็บไซต์กรมการศาสนา www.dra.go.th โดยส่วนกลางจะจัดงานใหญ่ที่สนามหลวงในวันที่ 25 ก.พ.นี้
***ขอพร "มีความสุข ไม่เจ็บป่วย"
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็น ในหัวข้อคนกรุงฯ กับ "วันมาฆบูชา" ณ วันนี้ โดยได้สอบถามความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ต่อ "วันมาฆบูชา" จำนวน 1,136 คน ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2556 สรุปผลดังนี้ เมื่อถามว่า "ประชาชน" คิดอย่างไร? กับ "วันมาฆบูชา" ที่จะมาถึงในวันจันทร์นี้ อันดับ 1.เป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนไทยจะนำวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆดีๆ เข้าวัดทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล 48.06%อันดับ 2.เป็นวันหยุดพิเศษ 1 วัน ทำให้มีเวลาได้อยู่กับครอบครัว ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน 27.23% อันดับ 3.อยากให้คนไทยทุกคนให้ความสำคัญและช่วยกันส่งเสริม ทำนุบำรุงศาสนา โดยเฉพาะวัยรุ่นในปัจจุบัน 24.71%
เมื่อถามว่า ประชาชนรู้ประวัติความเป็นมาของ "วันมาฆบูชา" มากน้อยเพียงใด อันดับ 1. พอรู้บ้าง 50.20% เพราะ มีในบทเรียน เป็นวันที่ผู้ใหญ่มักสอนเสมอว่า "ให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" ฯลฯ อันดับ 2 รู้เป็นอย่างดี 31.63% รู้ว่า เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก ,เกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการ มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกัน ณ วัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย ฯลฯ อันดับ 3.ไม่ค่อยรู้ 12.24%เพราะ จำประวัติความเป็นมาไม่ค่อยได้ ในประเทศไทยมีวันสำคัญทางศาสนาหลายวัน ฯลฯ อันดับ 4 ไม่รู้เลย 5.93% เพราะ ไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับความหมายของวันนี้ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะทำบุญใส่บาตรในวันนี้บ้าง ฯลฯ
เมื่อถามว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับ "วันมาฆบูชา" มากน้อยเพียงใด อันดับ 1.ค่อนข้างให้ความสำคัญ 47.91% เพราะ เป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวพุทธทุกคน ,เป็นวันหยุดทำให้มีเวลาเข้าวัดทำบุญมากขึ้น ,หาความสงบหาที่พึ่งทางใจ ฯลฯ อันดับ 2. ให้ความสำคัญมาก 37.50% เพราะ ถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ ในการดำรงชีวิตหรือการทำงาน ช่วยสร้างกำลังใจและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนไทยได้ ,ทำบุญเป็นประจำทุกปี ฯลฯ อันดับ 3. ไม่ค่อยให้ความสำคัญ 13.54% เพราะ ถือว่าทุก ๆ วันมีความสำคัญเหมือนกันหมด , การคิดดี ทำดี ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ฯลฯ อันดับ 4 .ไม่ให้ความสำคัญเลย 1.05% เพราะ มีภาระงานมาก ,ระยะหลังมีข่าวพระสงฆ์ประพฤติผิดวินัยบ่อย ทำให้เสื่อมศรัทธาไม่อยากเข้าวัด ฯลฯ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า ประชาชนจะทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษใน "วันมาฆบูชา" นี้หรือไม่? อันดับ 1.ทำกิจกรรมเป็นพิเศษ 71.68% โดยกิจกรรมที่ทำคือ ทำบุญ ตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา เข้าวัด สวดมนต์ เวียนเทียน ทำความสะอาดหิ้งพระ อยู่กับครอบครัว ฯลฯ อันดับ 2 ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษ28.32%เพราะ ติดธุระ ต้องทำงาน ไม่ว่าง ไม่สะดวก ฯลฯ
เมื่อถามว่า เนื่องจาก "วันมาฆบูชา" เป็นวันแห่ง "ความรัก ความศรัทธา" ทางพระพุทธศาสนา ประชาชนอยากอธิษฐานอะไรในวันนี้บ้าง อันดับ 1.ขอให้ตนเองและครอบครัวมีความสุขความเจริญ ไม่มีโรคภัย สุขภาพแข็งแรง 54.66% อันดับ 2ขอให้บ้านเมืองสงบสุข มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในบ้านเมือง 28.19% อันดับ 3.ขอให้คนไทยรักกัน สามัคคีกัน17.15%.
วานนี้ (24 ก.พ.) นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2556 ตรงกับวันที่ 25 ก.พ.นี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาท เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2556 ความตอนหนึ่งว่า พระพุทธศาสนา แสดงว่า พระสุคต คือพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด และแสดงว่า บุคคลย่อมงามในเบื้องต้นด้วยศีล งามในท่ามกลางด้วยสมาธิ งามในที่สุดด้วยปัญญา เพราะว่าศีลทำให้กาย วาจา หรือพฤติกรรมเรียบร้อยงดงาม สมาธิทำให้ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจสงบเยือกเย็นและมั่นคง ปัญญาทำให้ความรู้ความสามารถสะอาดบริสุทธิ์เป็นไปในทางสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามแก่ชีวิต เมื่อประมวลเข้าด้วยกัน ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คือคุณเครื่องทำให้ชีวิตงดงาม วันมาฆบูชา คือ วันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยย่นย่อ ส่วนหนึ่งของหลักการสำคัญดังกล่าวก็คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ ซึ่งก็คือ หลักศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
ฉะนั้น วันมาฆบูชา จึงถือได้ว่าเป็นวันแห่งความงามของชีวิต จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย น้อมจิตรำลึกถึงพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งน้อมนำเอาพระธรรมคำสอนของพระองค์มาบริหารจัดการชีวิตของตนให้งดงามด้วยการปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา ทั่วกัน
นอกจากนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดเสระเกศ ยังให้โอวาทว่า วันมาฆบูชา ความตอนหนึ่งว่า เป็นวันที่มีความสำคัญมาก สำหรับผู้นับถือพระพุทธศาสนา เนื่องด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ แก่บรรดาพระอรหันต์ จำนวน 1,250 รูป ในวันเพ็ญกลางเดือน 3 และยึดถือกันว่า เป็นธรรมรัตนะ ผู้นับถือพระพุทธศาสนา มีความรู้สึกลึกซื้ง ต่อวันดังกล่าว จึงได้พร้อมใจกันบูชาเป็นพิเศษ ต่อพระรัตนตรัย และกำหนดการบูชาพิเศษ ในวันนั้นว่า “วันมาฆบูชา” ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ได้โปรดดลบันดาลประทานพระ ให้พุทธศาสนิกชน ทุกท่าน เจริญด้วย จตุรพิธพรชัย งอกงาม ไพบูลย์ ในพระศาสนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดนิตยกาลเทอญ
ส่วนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ให้คำอำนวยพรความตอนหนึ่งว่า วันมาฆบูชา วันแห่งความรักที่บริสุทธิ์ เมื่อ 2600 ปีที่แล้ว สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ วัชรบัลลังก์ ได้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศอินเดีย ทรงประกอบด้วย พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ แนะนำสั่งสอนชาวโลกด้วย พระอริยสัจธรรมที่ทรงตรัสรู้นั้น ตลอดพระชนมชีพ โอวาทปาฏิโมกข์ เป็นคำสอนที่ทรงประทานแก่พุทธสาวก ในวันเพ็ญมาฆมาส ทรงประสงค์ให้ชาวโลกอยู่ร่วมกันด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ทำร้ายกันทางวาจา ไม่ทำร้ายกันทางกาย รักษาความประพฤติให้น่าเลื่อมใส เสพปัจจัยอย่างรู้ประมาณ พอเพียง รักความสงบ และพัฒนาจิตใจให้สูงส่ง เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชา ปี 2556 นี้ ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายได้น้อมนำโอวาทปาฏิโมกข์มาปฏิบัติ จงอยู่ร่วมกันด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนกัน มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญฯ
ทั้งนี้ กรมการศาสนาจัดพิมพ์บัตรอวยพรเป็นภาพพระพุทธชินสีห์ปางมารวิชัย พระโอวาทสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โอวาทและคำอำนวยพรของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ คณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พร้อมโปสเตอร์ และหนังสือสวดมนต์วันมาฆบูชาจำนวน 30,000 ชุดแจกจ่ายให้กับหน่วยงานราชการ ประชาชน ผู้สนใจทั่วประเทศ พร้อมกับเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรม www.m-culture.go.th และเว็บไซต์กรมการศาสนา www.dra.go.th โดยส่วนกลางจะจัดงานใหญ่ที่สนามหลวงในวันที่ 25 ก.พ.นี้
***ขอพร "มีความสุข ไม่เจ็บป่วย"
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็น ในหัวข้อคนกรุงฯ กับ "วันมาฆบูชา" ณ วันนี้ โดยได้สอบถามความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ต่อ "วันมาฆบูชา" จำนวน 1,136 คน ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2556 สรุปผลดังนี้ เมื่อถามว่า "ประชาชน" คิดอย่างไร? กับ "วันมาฆบูชา" ที่จะมาถึงในวันจันทร์นี้ อันดับ 1.เป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนไทยจะนำวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆดีๆ เข้าวัดทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล 48.06%อันดับ 2.เป็นวันหยุดพิเศษ 1 วัน ทำให้มีเวลาได้อยู่กับครอบครัว ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน 27.23% อันดับ 3.อยากให้คนไทยทุกคนให้ความสำคัญและช่วยกันส่งเสริม ทำนุบำรุงศาสนา โดยเฉพาะวัยรุ่นในปัจจุบัน 24.71%
เมื่อถามว่า ประชาชนรู้ประวัติความเป็นมาของ "วันมาฆบูชา" มากน้อยเพียงใด อันดับ 1. พอรู้บ้าง 50.20% เพราะ มีในบทเรียน เป็นวันที่ผู้ใหญ่มักสอนเสมอว่า "ให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" ฯลฯ อันดับ 2 รู้เป็นอย่างดี 31.63% รู้ว่า เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก ,เกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการ มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกัน ณ วัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย ฯลฯ อันดับ 3.ไม่ค่อยรู้ 12.24%เพราะ จำประวัติความเป็นมาไม่ค่อยได้ ในประเทศไทยมีวันสำคัญทางศาสนาหลายวัน ฯลฯ อันดับ 4 ไม่รู้เลย 5.93% เพราะ ไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับความหมายของวันนี้ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะทำบุญใส่บาตรในวันนี้บ้าง ฯลฯ
เมื่อถามว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับ "วันมาฆบูชา" มากน้อยเพียงใด อันดับ 1.ค่อนข้างให้ความสำคัญ 47.91% เพราะ เป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวพุทธทุกคน ,เป็นวันหยุดทำให้มีเวลาเข้าวัดทำบุญมากขึ้น ,หาความสงบหาที่พึ่งทางใจ ฯลฯ อันดับ 2. ให้ความสำคัญมาก 37.50% เพราะ ถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ ในการดำรงชีวิตหรือการทำงาน ช่วยสร้างกำลังใจและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนไทยได้ ,ทำบุญเป็นประจำทุกปี ฯลฯ อันดับ 3. ไม่ค่อยให้ความสำคัญ 13.54% เพราะ ถือว่าทุก ๆ วันมีความสำคัญเหมือนกันหมด , การคิดดี ทำดี ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ฯลฯ อันดับ 4 .ไม่ให้ความสำคัญเลย 1.05% เพราะ มีภาระงานมาก ,ระยะหลังมีข่าวพระสงฆ์ประพฤติผิดวินัยบ่อย ทำให้เสื่อมศรัทธาไม่อยากเข้าวัด ฯลฯ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า ประชาชนจะทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษใน "วันมาฆบูชา" นี้หรือไม่? อันดับ 1.ทำกิจกรรมเป็นพิเศษ 71.68% โดยกิจกรรมที่ทำคือ ทำบุญ ตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา เข้าวัด สวดมนต์ เวียนเทียน ทำความสะอาดหิ้งพระ อยู่กับครอบครัว ฯลฯ อันดับ 2 ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษ28.32%เพราะ ติดธุระ ต้องทำงาน ไม่ว่าง ไม่สะดวก ฯลฯ
เมื่อถามว่า เนื่องจาก "วันมาฆบูชา" เป็นวันแห่ง "ความรัก ความศรัทธา" ทางพระพุทธศาสนา ประชาชนอยากอธิษฐานอะไรในวันนี้บ้าง อันดับ 1.ขอให้ตนเองและครอบครัวมีความสุขความเจริญ ไม่มีโรคภัย สุขภาพแข็งแรง 54.66% อันดับ 2ขอให้บ้านเมืองสงบสุข มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในบ้านเมือง 28.19% อันดับ 3.ขอให้คนไทยรักกัน สามัคคีกัน17.15%.
