ASTVผู้จัดการรายวัน - "จานส้ม"ลั่นกลองรบ ลุยศึกเคเบิลทีวีแบบจานรับสัญญาณดาวเทียมเต็มกำลัง อัดงบเพิ่มอีก 1,000 ล.หวังขยายฐานผู้ชมใหม่อีก 2 ล้านครัวเรือน ชูจุดแข็งดูฟรี100%ทุกช่อง เน้นผลิตรายการเอง มั่นใจสิ้นปีมีรายได้จากการขายกล่องไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ลั่นพร้อมลงชิงช่องทีวีดิจิตอล พร้อมก้าวสู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้า
นายมานพ โตการค้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียมระบบเคยูแบนด์ ภายใต้แบรนด์ IPM หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่าเป็นจานส้ม เปิดเผยว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาระบบ โครงข่าย และผลิตคอนเท้นท์เองมาโดยตลอด ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท จนปัจจุบันมีฐานผู้ชมที่รับชมช่องรายการต่างๆผ่านจานไอพีเอ็ม หรือจานสีส้มกว่า 3 ล้านครัวเรือนแล้ว
ล่าสุดปีนี้จากที่กสทช.ได้ออกใบอนุญาตสำหรับช่องรายการทีวีดาวเทียม ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทพร้อมลงทุนในการดำเนินธุรกิจจานรับสัญญาณดาวเทียมอย่างเต็มรูปแบบ เบื้องต้นได้ขอใบอนุญาตผลิตชองรายการทีวีดาวเทียมแล้วกว่า 56ใบ และในเฟส2 เตรียมขอเพิ่มอีก 60 ใบ ทั้งนี้เพื่อทำให้จานไอพีเอ็ม เป็นจานรับสัญญาณดาวเทียมที่มีช่องรายการที่มีการบริหารจัดการที่ดี ช่วยให้เพิ่มฐานผู้ชมได้เร็วยิ่งขึ้น มั่นใจว่าปีนี้จะมีฐานผู้ชมเพิ่มอีก 2 ล้านจาน รวมแล้วถึงสิ้นปีนี้น่าจะมีผู้ชมจากจานส้มกว่า 5 ล้านจานได้
สำหรับจานไอพีเอ็ม ถือเป็นจานรับสัญญาณดาวเทียมที่บริษัทมีการบริหารจัดการเองแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคอนเท้นท์ที่เน้นผลิตเองกว่า 50% ที่เหลือมาจากพันธมิตรผู้ผลิตคอนเท้นท์ในประเทศ 25% และพันธมิตรคอนเท้นท์จากต่างประเทศ 25% จากปัจจุบันผู้ชมสามารถรับชมได้กว่า 120 ช่อง และผู้ชมสามารถรับชมได้แบบฟรี 100% ทุกช่องแบบไม่มีรายเดือน ถือเป็นจุดแข็งของจานไอพีเอ็ม ที่ต้องการมุ่งขยายฐานผู้ชมให้ได้มากที่สุด อันจะนำไปสู่การหารายได้จากโฆษณาในอนาคตต่อไป จากปัจจุบันช่องรายการทั้งหมดมีเพียง 20 รายการเท่านั้นที่มีโฆษณาเพียงเล็กน้อย
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทเตรียมใช้งบเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับการรุกธุรกิจนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตคอนเท้นท์ใหม่ จากปัจจุบันมีช่องรายการกว่า 120 ช่อง และช่องเอชดี 10ช่อง ภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 200 ช่อง และเอชดีเป็น 20ช่อง และในปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 300 ช่อง และช่องเอชดีเป็น 40 ช่อง รวมแล้วในปีหน้าจานไอพีเอ็มจะมีช่องรายการทั้งสิ้น 340 ช่อง ส่วนงบการตลาดปีนี้อยู่ที่ 250 ล้านบาท มั่นใจว่าถึงสิ้นปีภาพรวมรายได้จะเติบโตอีกเป็นเท่าตัว ขณะที่รายได้จากการขายจานปีนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 3,000-3,500 ล้านบาท จากปัจจุบันจานไอพีเอ็มวางจำหน่ายพร้อมกล่องรับสัญญาณ 3 รุ่น คือ 1.IPM Lite ราคา 1,000 กว่าบาท 2.IPM Clear ราคา 1,500 บาท และ3.IPM HD Pro 2,500 กว่าบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นราคาที่ยังไม่รวมค่าติดตั้ง
นายมานพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในภาพรวมของบริษัท ยังมีบริษัทในเครืออีกมากมายที่พร้อมดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโทรทัศน์ในไทย ดังนั้นภายในปีหน้าบริษัทจึงมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยขณะนี้จะต้องมีการปรับโครงสร้างบริษัท เตรียมความพร้อมสู่การเข้าตลาดต่อไป นอกจากนี้จากความพร้อมทุกด้านเกี่ยวกับธุรกิจโทรทัศน์ บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอลด้วย 2 ช่อง คือ ช่องรายการสำหรับเด็ก และช่องรายการบันเทิงท้องถิ่น แต่ต้องรอดูความชัดเจนต่างๆจากกสทช.ก่อนจึงจะสามารถกำหนดเม็ดเงินลงทุนได้
นายมานพ โตการค้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียมระบบเคยูแบนด์ ภายใต้แบรนด์ IPM หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่าเป็นจานส้ม เปิดเผยว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาระบบ โครงข่าย และผลิตคอนเท้นท์เองมาโดยตลอด ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท จนปัจจุบันมีฐานผู้ชมที่รับชมช่องรายการต่างๆผ่านจานไอพีเอ็ม หรือจานสีส้มกว่า 3 ล้านครัวเรือนแล้ว
ล่าสุดปีนี้จากที่กสทช.ได้ออกใบอนุญาตสำหรับช่องรายการทีวีดาวเทียม ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทพร้อมลงทุนในการดำเนินธุรกิจจานรับสัญญาณดาวเทียมอย่างเต็มรูปแบบ เบื้องต้นได้ขอใบอนุญาตผลิตชองรายการทีวีดาวเทียมแล้วกว่า 56ใบ และในเฟส2 เตรียมขอเพิ่มอีก 60 ใบ ทั้งนี้เพื่อทำให้จานไอพีเอ็ม เป็นจานรับสัญญาณดาวเทียมที่มีช่องรายการที่มีการบริหารจัดการที่ดี ช่วยให้เพิ่มฐานผู้ชมได้เร็วยิ่งขึ้น มั่นใจว่าปีนี้จะมีฐานผู้ชมเพิ่มอีก 2 ล้านจาน รวมแล้วถึงสิ้นปีนี้น่าจะมีผู้ชมจากจานส้มกว่า 5 ล้านจานได้
สำหรับจานไอพีเอ็ม ถือเป็นจานรับสัญญาณดาวเทียมที่บริษัทมีการบริหารจัดการเองแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคอนเท้นท์ที่เน้นผลิตเองกว่า 50% ที่เหลือมาจากพันธมิตรผู้ผลิตคอนเท้นท์ในประเทศ 25% และพันธมิตรคอนเท้นท์จากต่างประเทศ 25% จากปัจจุบันผู้ชมสามารถรับชมได้กว่า 120 ช่อง และผู้ชมสามารถรับชมได้แบบฟรี 100% ทุกช่องแบบไม่มีรายเดือน ถือเป็นจุดแข็งของจานไอพีเอ็ม ที่ต้องการมุ่งขยายฐานผู้ชมให้ได้มากที่สุด อันจะนำไปสู่การหารายได้จากโฆษณาในอนาคตต่อไป จากปัจจุบันช่องรายการทั้งหมดมีเพียง 20 รายการเท่านั้นที่มีโฆษณาเพียงเล็กน้อย
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทเตรียมใช้งบเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับการรุกธุรกิจนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิตคอนเท้นท์ใหม่ จากปัจจุบันมีช่องรายการกว่า 120 ช่อง และช่องเอชดี 10ช่อง ภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 200 ช่อง และเอชดีเป็น 20ช่อง และในปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 300 ช่อง และช่องเอชดีเป็น 40 ช่อง รวมแล้วในปีหน้าจานไอพีเอ็มจะมีช่องรายการทั้งสิ้น 340 ช่อง ส่วนงบการตลาดปีนี้อยู่ที่ 250 ล้านบาท มั่นใจว่าถึงสิ้นปีภาพรวมรายได้จะเติบโตอีกเป็นเท่าตัว ขณะที่รายได้จากการขายจานปีนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 3,000-3,500 ล้านบาท จากปัจจุบันจานไอพีเอ็มวางจำหน่ายพร้อมกล่องรับสัญญาณ 3 รุ่น คือ 1.IPM Lite ราคา 1,000 กว่าบาท 2.IPM Clear ราคา 1,500 บาท และ3.IPM HD Pro 2,500 กว่าบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นราคาที่ยังไม่รวมค่าติดตั้ง
นายมานพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในภาพรวมของบริษัท ยังมีบริษัทในเครืออีกมากมายที่พร้อมดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโทรทัศน์ในไทย ดังนั้นภายในปีหน้าบริษัทจึงมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยขณะนี้จะต้องมีการปรับโครงสร้างบริษัท เตรียมความพร้อมสู่การเข้าตลาดต่อไป นอกจากนี้จากความพร้อมทุกด้านเกี่ยวกับธุรกิจโทรทัศน์ บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอลด้วย 2 ช่อง คือ ช่องรายการสำหรับเด็ก และช่องรายการบันเทิงท้องถิ่น แต่ต้องรอดูความชัดเจนต่างๆจากกสทช.ก่อนจึงจะสามารถกำหนดเม็ดเงินลงทุนได้