ผบช.ภ.4 แถลงผลการจับกุม"พี่สะใภ้" อู๊ด เป็นต่อ เผยฝีมือชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ รวบตัวได้ที่ร้อยเอ็ด เผยก่อนหน้านี้จับลูกชายเสพยาบ้า นำหมายศาลบุกค้นบ้านยึดตู้เซฟ สมุดบัญชีเงินฝาก โฉนดที่ดิน คู่มือรถยนต์ จักรยานยนต์ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา
วานนี้(29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จับกุมอดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว อ.กุฉินารายณ์ พร้อมภรรยา เครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ของกลางยาบ้า 15,727 เม็ด และให้การซัดทอดนางวาสนา ธีระวิทยากุล ภรรยาครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ และมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้นายธีระชาติ ธีระวิทยากุล หรือ "อู๊ด เป็นต่อ" นักแสดงและตลกชื่อดัง โดยนำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าทำการจับกุมที่บ้าน แต่ไหวตัวทันหลบหนีไปได้นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พ.ต.ท.พัฒน์ ภูราษฎร์ รองผกก.สส. พ.ต.ต.ภูวิรินทร์ ขามชู สว.สส. พ.ต.ท.รัฐพล เหลาพรม รองผกก.กก.สส.ภาค 4 นำหมายศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ ค.70/2556 พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 และฝ่ายปกครองกว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 647 หมู่ 13 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ ซึ่งเปิดเป็นหอพักและรีสอร์ตให้เช่า ของนางวาสนา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ายาเสพติด
ทั้งนี้ ก่อนการตรวจค้น เมื่อวันที่ 28 มกราคม ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ ควบคุมตัวนายธนารัตน์ ธีระวิทยากุล อายุ 22 ปี บุตรชาย นางวาสนา ในข้อหาเสพยาบ้าได้ที่ จ.มหาสารคาม พร้อมนำตัวเข้าตรวจค้นบ้าน โดยตำรวจใช้คีมตัดตัดเหล็กประตูบ้านเข้าไป และตรวจยึดตู้เซฟ สมุดบัญชีธนาคาร โฉนดที่ดิน สร้อยคอทองคำ คู่มือรถยนต์ และจักรยานยนต์หลายสิบเล่ม ซึ่งเป็นของนางวาสนา คาดว่าจะมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ต่อมา เวลา 14.30 น. พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ. 4 พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมแถลงผลการจับกุมตัวนางวาสนา ธีระวิทยากุล ผู้ต้องหา ซึ่งชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ จับกุมได้ที่จ.ร้อยเอ็ด โดยยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องยาเสพติด และอ้างว่าไม่รู้จักกับอดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งไม่ได้หลบหนี แต่ไปพักอาศัยอยู่บ้านญาติ โดยปฏิเสธที่จะพูดถึงแหล่งที่ไปที่มาของเงินที่มีอยู่
พล.ต.ท.กวี กล่าวว่า การติดตามคดีนางวาสนา เกิดขึ้นจากการแจ้งเบาะแสของประชาชนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ รวมถึงการข่าวจากตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติด จนทำให้สืบทราบว่านางวาสนา คือ นักค้ายาบ้ารายใหญ่ ที่อยู่เบื้องหลังมานานนับ 10 ปี โดยเฉพาะล่าสุดผลการจับกุมอดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว ที่ให้การซัดทอด อีกทั้ง นางวาสนา ยังกล้าโทรศัพท์ต่อรองด้วยการติดสินบนตำรวจ ซึ่งถูกบันทึกเสียงเอาไว้ได้โดยชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จึงได้ขอออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีก่อน แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด
"แม้จะให้การปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานแน่นหนา ต้องถูกดำเนินคดี ขณะนี้ได้สั่งการให้พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ หัวหน้าชุดทำการตรวจสอบทรัพย์สิน และยึดทรัพย์ที่เกิดจากการค้ายาเสพติดทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดให้หมดไป อีกทั้งยังจะมีการขยายผลไปยังนักค้ายาบ้าชายแดน"
ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้ยังมี สามีของนางวาสนา ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอ.กุฉินารายณ์ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่กาฬสินธุ์ เขต 3 ตั้งกรรมการสอบสวน ว่ามีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติดหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่าสามีของนางวาสนาไม่อยู่ที่โรงเรียน ทั้งนี้จะให้ทุกฝ่ายร่วมมือกับตำรวจเพื่อร่วมกันขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจาก จ.กาฬสินธุ์
วานนี้(29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จับกุมอดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว อ.กุฉินารายณ์ พร้อมภรรยา เครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ของกลางยาบ้า 15,727 เม็ด และให้การซัดทอดนางวาสนา ธีระวิทยากุล ภรรยาครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ และมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้นายธีระชาติ ธีระวิทยากุล หรือ "อู๊ด เป็นต่อ" นักแสดงและตลกชื่อดัง โดยนำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าทำการจับกุมที่บ้าน แต่ไหวตัวทันหลบหนีไปได้นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พ.ต.ท.พัฒน์ ภูราษฎร์ รองผกก.สส. พ.ต.ต.ภูวิรินทร์ ขามชู สว.สส. พ.ต.ท.รัฐพล เหลาพรม รองผกก.กก.สส.ภาค 4 นำหมายศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ ค.70/2556 พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 และฝ่ายปกครองกว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 647 หมู่ 13 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ ซึ่งเปิดเป็นหอพักและรีสอร์ตให้เช่า ของนางวาสนา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ายาเสพติด
ทั้งนี้ ก่อนการตรวจค้น เมื่อวันที่ 28 มกราคม ชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ ควบคุมตัวนายธนารัตน์ ธีระวิทยากุล อายุ 22 ปี บุตรชาย นางวาสนา ในข้อหาเสพยาบ้าได้ที่ จ.มหาสารคาม พร้อมนำตัวเข้าตรวจค้นบ้าน โดยตำรวจใช้คีมตัดตัดเหล็กประตูบ้านเข้าไป และตรวจยึดตู้เซฟ สมุดบัญชีธนาคาร โฉนดที่ดิน สร้อยคอทองคำ คู่มือรถยนต์ และจักรยานยนต์หลายสิบเล่ม ซึ่งเป็นของนางวาสนา คาดว่าจะมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ต่อมา เวลา 14.30 น. พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ. 4 พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมแถลงผลการจับกุมตัวนางวาสนา ธีระวิทยากุล ผู้ต้องหา ซึ่งชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ จับกุมได้ที่จ.ร้อยเอ็ด โดยยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องยาเสพติด และอ้างว่าไม่รู้จักกับอดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งไม่ได้หลบหนี แต่ไปพักอาศัยอยู่บ้านญาติ โดยปฏิเสธที่จะพูดถึงแหล่งที่ไปที่มาของเงินที่มีอยู่
พล.ต.ท.กวี กล่าวว่า การติดตามคดีนางวาสนา เกิดขึ้นจากการแจ้งเบาะแสของประชาชนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ รวมถึงการข่าวจากตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติด จนทำให้สืบทราบว่านางวาสนา คือ นักค้ายาบ้ารายใหญ่ ที่อยู่เบื้องหลังมานานนับ 10 ปี โดยเฉพาะล่าสุดผลการจับกุมอดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว ที่ให้การซัดทอด อีกทั้ง นางวาสนา ยังกล้าโทรศัพท์ต่อรองด้วยการติดสินบนตำรวจ ซึ่งถูกบันทึกเสียงเอาไว้ได้โดยชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จึงได้ขอออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีก่อน แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด
"แม้จะให้การปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานแน่นหนา ต้องถูกดำเนินคดี ขณะนี้ได้สั่งการให้พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ หัวหน้าชุดทำการตรวจสอบทรัพย์สิน และยึดทรัพย์ที่เกิดจากการค้ายาเสพติดทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดให้หมดไป อีกทั้งยังจะมีการขยายผลไปยังนักค้ายาบ้าชายแดน"
ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้ยังมี สามีของนางวาสนา ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอ.กุฉินารายณ์ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่กาฬสินธุ์ เขต 3 ตั้งกรรมการสอบสวน ว่ามีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติดหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่าสามีของนางวาสนาไม่อยู่ที่โรงเรียน ทั้งนี้จะให้ทุกฝ่ายร่วมมือกับตำรวจเพื่อร่วมกันขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจาก จ.กาฬสินธุ์
