xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"นำครม.ทัวร์เหนือ ควัก3หมื่นซื้อเครื่องเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"นายกฯปู"นำขบวนทัวร์ภาคเหนือก่อนประชุม ครม.สัญจรที่เมืองลับแล ตรวจชายแดนแม่สอด ดูเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก่อนแวะชมอุทยานฯศรีสัชนาลัย สักการะเจดีย์วัดนางพญา-วัดช้างล้อม พร้อมชอปเครื่องเงิน กว่า 30,000 บาท ขณะที่คนเชียงใหม่บ้านเกิด "ปู" ตามไปประท้วงถึงอุตรดิตถ์ ดักรอยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมหลังราคาลำไยอบแห้งตกต่ำ จนสหกรณ์ฯ 4 จังหวัดขาดทุนกันถ้วนหน้า ขอเงินชดเชย 14 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางไปประชุม ครม.สัญจรที่ จ.อุตรดิตถ์ว่า เมื่อเวลา 07.50 น.วานนี้ (20 ม.ค.) นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานทหารอากาศ กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานแม่สอด จ.ตาก
จากนั้นเวลา 09.45 น.นายกฯ และคณะได้เดินทางมายังจุดผ่านแดนแม่สอด และตลาดริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมสภาพสะพานฯ ดูสภาพความคับคั่งของการจราจร การแก้ไขปัญหาความแออัดของสภาพการจราจร และการขนถ่ายสินค้า รวมถึงสำรวตดูความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 และพื้นที่ที่ทาง จ.ตาก เสนอโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 ในการแก้ปัญหาความแออัดในการคมนาคมขนส่งผ่านแดน ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2557 โดยมีนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ให้การต้อนรับ และกล่าวรายงานสภาพพื้นที่ และภาพรวมโครงการต่างๆ

ทั้งนี้ นายกฯ ได้สอบถามข้อมูลต่างๆ พร้อมกับกล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรายละเอียดผลการศึกษาการโครงการก่อสร้างสะพานทั้ง 2 แห่ง มาพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงประโยชน์ที่ได้จากการก่อสร้าง และนำเสนอต่อที่ประชุมครม. อีกครั้ง รวมถึงให้ศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะให้มีการจัดทำบัตรสำหรับผู้ที่ใช้บริการด่านศุลกากรแม่สอด เป็นประจำ เพื่อให้เกิดความสะดวกในเรื่องศุลกากรมากขึ้น
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังศูนย์แสดงสินค้า และอัญมณี อ.แม่สอด เพื่อรับฟังบรรยายสรุปเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด โดยมี ผวจ.ตาก นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก นายกเทศมนตรีนครแม่สอด และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจของ จ.ตาก และเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ขณะที่กรมโยธาธิการ และผังเมือง กระทรวงมหาดไทย บรรยายเรื่อง ผังเมืองแม่สอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบริเวณจุดผ่านแดนแม่สอด และหน้าศูนย์แสดงสินค้าและอัญมณี อ.แม่สอด ได้มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนชาวพม่า รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ มาให้การต้อนรับ พร้อมกับนำดอกกุหลาบ มามอบให้นายกฯ และคณะ จำนวนมาก

ทั้งนี้ ผวจ.ตาก กล่าวบรรยายสรุปว่า จ.ตาก มีรายได้เฉลี่ยปีละ กว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการค้าบริเวณชายแดน ประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าเมื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว มูลค่าการค้าบริเวณชายแดน จะสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวและการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) โดยเฉพาะกุหลาบอบแห้ง ที่เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนด้านการคมนาคม เช่น การปรับปรุงถนน การเพิ่มระบบโลจิสติก อุโมงค์รถไฟเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟ ตาก-แม่สอด ซึ่งผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว รวมถึงการที่ทางจังหวัดฯได้เตรียมพื้นที่กว่า 500 ไร่ เพื่อสร้างศูนย์กระจายสินค้ารองรับประชาคมอาเซียน รวมถึงการเชื่อมต่อกับประเทศจีน และอินเดีย

ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเห็นด้วยและให้ความสำคัญกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่ควรมีการศึกษาในเรื่องความคุ้มค่าของการลงทุนทางเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะต้องมีประสิทธิภาพด้วย แต่ เพิ่มเติม สำหรับการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ และรถยนต์นั้น รัฐบาลอยากทราบข้อมูลในเรื่องของการย่นระยะทางและเวลาในการเดินทาง และควรทำเส้นทางตัดผ่านพื้นที่ชุมชนอำนวยความสะดวกให้กับประชาน รวมถึงต้องเป็นเส้นทางหลักที่มีความคุ้มค่าอย่างแท้จริง

**"ปู"เยี่ยมชมอุทยานฯศรีสัชนาลัย

ต่อมาเวลา 15.00 น. ได้เดินทางถึงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายกับประชาชน กลุ่มแม่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนกลุ่ม นปช.ศรีสัชนาลัย ที่มาให้กำลังใจ และได้นั่งรถรางเยี่ยมชมอุทยานฯ และวางพวงมาลัยดอกไม้สักการะเจดีย์วัดช้างล้อม ที่มีอายุ 755 ปี โดยวัดช้างล้อม เป็นวัดที่สันนิษฐานว่า อาจถูกสร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยเจดีย์มีทรงกลม บนฐานประทักษิณสูง มีประติมากรรมลอยตัวรูปช้างประดับอยู่ 39 เชือก มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย จำนวน 20 ซุ้มอยู่โดยรอบ

จากนั้นได้นั่งรถรางต่อไปยังวัดนางพญา เพื่อวางพวงมาลัยดอกไม้สักการะเจดีย์วัดนางพญา เยี่ยมชมลายปูนปั้นโบราณที่อยู่บนผิวปูนฉาบด้านนอกของวิหารประธานวัดนางพญา ซึ่งเป็นสถานที่มีชื่อเสียงระดับโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาชมงานศิลปลายโบราณดังกล่าว อาทิ ลายรักร้อย ลายแข้งสิงห์ ลายประจำยาม ซึ่งลายต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นต้นแบบถูกนำไปถักเส้นทองเป็นลายทองโบราณที่เรียกว่า “ลายศรีสัชนาลัย”

**ชอปเครื่องเงินกว่า 30,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้ลองสวมสร้อยเงิน 99 เปอร์เซนต์ ของร้านไหมเงิน และให้คนสนิท ซื้อทั้งสร้อยคอ และกำไล รวมเป็นเงิน 38,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลดแล้ว 20 เปอร์เซนต์ ทั้งนี้ ระหว่างการชมสินค้า นายกฯได้เสนอแนวคิดให้ทางจังหวัด จัดทำแผ่นพับโฆษณา แจกบนสายการบิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นงานหัตถกรรมของไทย

นอกจากนี้ นายกฯ ได้ให้คำแนะนำกับทางจังหวัดสุโขทัย และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ด้วยว่า อยากให้นำช่างฝีมือทำทองลายศรีสัชนาลัย ระดับครูมาฝึกให้ช่วยเพิ่มจำนวนช่างฝีมือให้มากขึ้น เพราะดูแล้วสินค้าเครื่องประดับเหล่านี้เป็นสินค้าเกรดเอ จึงอยากให้เสนอเป็นสินค้าโอทอป ส่งออกระดับเกรดเอ เพื่อแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากชาวโลกเป็นอย่างมาก

จากนั้นนายกฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุป แผนการจัดผังเมืองเฉพาะอุทยานประวัติศาสตร์ฯ โดยนายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และอธิบดีกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย และรักษาการหัวหน้าอุทยานฯ ที่เรือนรับรองริมแม่น้ำยม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ฯ

จากนั้นนายกฯ และคณะ ออกเดินทางโดยรถยนต์ไปยังโรงพยาบาลลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเยี่ยมชมโครงการคุณแม่วัยใส ที่อาคารส่งเสริมสุขภาพ โดยมีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง รอให้การต้อนรับ และนายกฯจะเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารส่งเสริมสุขภาพและที่พักผู้ป่วย 4 ชั้น รวมถึงพบปะผู้นำชุมชน อสม. กลุ่มแม่บ้าน และประชาชนใน อ.ลับแล

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. นายกฯ และคณะ ได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เพื่อประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน (กรอ.) ต่อด้วยการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และในช่วงค่ำนายกฯ และ ครม.ได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองที่ห้องบอลรูม โรงแรมสีหราช จ.อุตรดิตถ์ ก่อนที่นายกฯจะเป็นประธานประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 21 ม.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภภัฏอุตรดิตถ์

**ตามประท้วง"ปู"ถึงอุตรดิตถ์

วันเดียวกันที่มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มสมาชิกสหกรณ์สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ กว่า 10 คนเดินทางมารอยื่นหนังสือประท้วงขอความเป็นธรรม เรื่องลำไยอบแห้งตกต่ำจนสหกรณ์ขาดทุน ต่อนายกฯ ที่จะเดินทางมาเป็นประธานในการประชุม กรอ.ภูมิภาค ครั้งที่ 1/56

นางสุพัฒตรา ผ่อนจัตุรัส ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนถือว่าเป็นคนบ้านเกิดเดียวกับนายกฯ ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกันคนปลูกลำไย 4 จังหวัด 6 สหกรณ์ประกอบด้วย สหกรณ์สันป่าตองจำกัด (เชียงใหม่) สหกรณ์แม่ท่า จำกัด(ลำพูน) สหกรณ์เมืองพะเยา (พะเยา) สหกรณ์การเกษตรเชียงกลาง (น่าน) สหกรณ์ท่าวังผา จำกัด (น่าน) สหกรณ์การเกษตรเมืองน่าน (น่าน) รวมสมาชิกแล้วมีเป็นหมื่นคน

เนื่องจากปีที่ผ่านมา ลำไยอบแห้งได้ประสพกับภาวะราคาตกต่ำอย่างผิดปกติ เกินขีดความสามารถของสหกรณ์จะควบคุมและบริหารจัดการได้ เพราะผลผลิตส่วนใหญ่จะต้องส่งขายประเทศจีน แต่พ่อค้าจีนได้ชะลอการซื้อ อีกทั้งคนจีนดักซื้อลำไยอบแห้งก่อน ทำให้ราคาลำไยของสหกรณ์ต้องขายต่ำกว่าทุน จนเกิดภาวะขาดทุนจึงขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือชดเชยราคาผลผลิตลำไยอบแห้งที่ตกต่ำของสหกรณ์ โดยขอรับชดเชยผลขาดทุนจากการจำหน่ายทั้ง 6 สหกรณ์ จำนวนเงิน 14,531,150 บาท
ต่อมานายสุภรณ์ อัตถาวงส์ รองเลขาธิการนายรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เข้ารับเรื่องเอาไว้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อารักขา ได้พยายามกันกลุ่มผู้เรียกร้องออกไปจากที่ประชุมอย่างเร่งด่วน.
กำลังโหลดความคิดเห็น