ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต.กทม. เตือนขุดประวัติฉาวในอดีตเล่นงานคู่แข่งชิงผู้ว่าฯ กทม. เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ปชป.เซ็ง "สุขุมพันธุ์" ถูกดีเอสไอเตะตัดขา เรียกรับทราบข้อหาเงินบริจาค แต่สุดท้ายยอมถอย ด้าน "ปู" ควง "พงศพัศ" หาเสียงครั้งแรก พบ "แจ๊ด" โผล่อำนวยความสะดวก "ประชา"ยันยังไม่ลาออกเลขาฯ ป.ป.ส. รอง ผบ.ตร. ขณะที่เจ้าตัวบุก กกต. บอกบริสุทธิ์ทุกกรณี ขู่มือโพสต์ระวังผิดใส่ร้าย
พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) แถลงถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า เฉพาะในวันที่ 21 ม.ค.ที่จะมีการรับสมัครในวันแรก นอกจากผู้สมัครจะต้องเตรียมหลักฐานในการยื่นสมัครแล้ว ยังต้องเตรียมรายชื่อรองผู้ว่าฯ และเลขานุการ ยื่นประกบด้วย ส่วนขั้นตอนการรับสมัครจะต้องหารือกับผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร ในกรณีที่ผู้สมัครมาก่อนเวลา 08.30 น. จะใช้วิธีการจับสลาก เพื่อเลือกหมายเลข หรือจับสลากหมายเลข ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หลังวันรับสมัครวันสุดท้าย เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.กทม. ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 70 จากที่ผ่านมาร้อยละ 50 โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ เพราะดูจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เห็นว่ามีผู้เลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิ์ถึงกว่า 3 ล้านคน ครั้งนี้ จึงน่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งก่อน
ทั้งนี้ กกต.กทม. จะระดมเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทุกสำนัก เพื่อดูแล ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยจะมีการหารือร่วมกับ กกต.กลาง วันที่ 17 ม.ค. เวลา 14.00 น. ซึ่งขอเตือนผู้สมัคร และผู้ช่วยหาเสียง ให้ระมัดระวังการวิพากวิจารณ์ หรือปราศัยโจมตีใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ที่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีการโจมตีเรื่องคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครบางคนตามสื่อต่างๆ ซึ่ง กกต.กทม. ต้องจับตา เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะ ที่มีการนำเรื่องเก่าของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มาโจมตีนั้น ขอให้พึ่งระมัดระวัง การกล่าวอ้างประวัติใดๆ ต้องระวังและตรวจสอบก่อน เพราะอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นได้ รวมถึงกรณีดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เกี่ยวกับการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความผิด ส่วนเจ้าหน้าที่ภาครัฐต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช้ตำแหน่งในการช่วยเหลือหรือโจมตีผู้สมัคร
พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยังบอกว่า ไม่หนักใจ และยินดีที่อยู่ใกล้ๆ กกต.กลาง จะได้มีผู้มาช่วยงาน เชื่อว่า กกต.ใหญ่จะไม่มาแทรกแซง และว่าที่ผู้สมัคร ตนก็รู้จักดีทุกคน เช่น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ตนก็เป็นลูกน้องเก่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ ก็เป็นเพื่อนเรียน ส่วนชายหมูก็รู้จักดี แม้กระทั่งนายวรัญชัยก็เห็นกันบ่อยในช่วงที่เคลื่อนไหวต่างๆ
**จัดสถานที่ปราศรัย15แห่งทั่วกทม.
นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกทม. กล่าวว่า ได้กำหนดสถานที่ปราศรัย ไว้ 15 แห่ง ประกอบด้วย ลานคนเมือง เขตพระนคร สวนจตุจักร เขตจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เขตจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร สวนลุมพิธี เขตปทุมวัน อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตธนบุรี สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด ศูนย์เยาวชนสะพานพระราม 9 (ฝั่งธนบุรี) เขตราษฎร์บูรณะ สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน สวนเสรีไทย เขตบังกุ่ม สวนพระนคร เขตลาดกระบัง สวนสุขภาพ เขตประเวศ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ สวนสาธารณะหน้าเดอะมอลล์บางแค เขตบางแค หากผู้สมัครรายใดมีความต้องการใช้สถานที่ในการปราศรัย สามารถติดต่อมายัง กกต. กทม.ได้
ทั้งนี้ วันที่ 1 ก.พ. จะมีการจัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ ที่ไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) เพื่อให้ผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียง รับทราบขั้นตอนและข้อกฎหมายในการหาเสียง
**ปชป.ชูนโยบาย“มหานครแห่งความสุข”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม. พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงย่านสีลม ถึงซอยละลายทรัพย์ โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม มาช่วย ซึ่งมีข่าวว่า เข้ามาลุ้นโควตารองผู้ว่า โดยมีประชาชนนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีการนำเสนอนโยบายเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายมหานครแห่งความสุข โดยจะยกระดับศูนย์ฝึกอาชีพที่มีอยู่เดิม เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่ม และรุ่นใหม่ ที่เพิ่งจบการศึกษาเข้ามาฝึกทักษะด้านต่างๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ภาษาจีน คอมพิวเตอร์ และการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ขณะเดียวกัน จะเปิดพื้นที่ให้เยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ นำไปสู่ทางเลือกการเป็นนักธุรกิจในอนาคต
ส่วนวันที่ 17 ม.ค.นี้ จะมีการหาเสียงที่ชุมชนคลองเตย โดยจะเริ่มต้นที่ชุมชน 70 ไร่ เวลา 10.00 น. เพื่อพูดถึงแนวนโยบายในการรณรงค์แก้ปัญหายาเสพติด
รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมยุทธศาสตร์หาเสียงของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะลงพื้นที่หาเสียงทุกวัน โดยภายหลังการเขียนใบสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.วันที่ 21 ม.ค.แล้ว จะมีการกำหนดแผนหาเสียงมากกว่า 1 จุด รวมทั้งพื้นที่ในเขตชานเมือง ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะโจมตีทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งเรื่องน้ำท่วม สนามฟุตซอล หรือสัญญาบีทีเอส เรื่องนี้ฝ่ายยุทธศาสตร์ได้เตรียมข้อมูลไว้แล้ว หากเพื่อไทยเริ่มเมื่อไร ก็พร้อมตอบโต้ทางการเมืองทันที
**ปชป.จวกDSIเจาะยาง“สุขุมพันธุ์
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ได้รับหนังสือจากทางดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริจาคเงินให้พรรคในขณะดำรงตำแหน่งเป็น ส.ส.ของพรรค ในลักษณะเดียวกับที่ส.ส.คนอื่นและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์โดน คือ บริจาคเงิน 2 หมื่นบาท โดยไม่ทำเป็นเช็คขีดคร่อมในนามส่วนตัว แต่ให้สภาดำเนินการแทน โดยเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันศุกร์นี้ คือ วันที่ 18 ม.ค.2556 เวลา 13.30 น. ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นผู้สมัครผู้ว่ากทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะรับสมัครในวันจันทร์นี้ แต่มีกำหนดการชัดเจนไปศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยพบพี่น้องมุสลิม เพื่อร่วมทำพิธีทางศาสนาในตอน 12.00น. บังเอิญในการที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์สอดคล้องกับจังหวะทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง จึงขอร้องว่าอย่ามีการกลั่นแกล้ง รังแก ผู้สมัครของพรรค แต่ต้องให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเท่าเทียมกัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงกรณีดีเอสไอเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวเรื่องเงินบริจาคของพรรคฯ ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ปกติก็มีการบริจาคเงินเข้าพรรค เรื่องนี้ขอให้เป็นการดำเนินการในส่วนของพรรคฯ
**“ธาริต”เบรกทีมสอบสวนเรียก
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กล่าวว่า ล่าสุดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้ตนทำหนังสือถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อแจ้งการเลื่อนกำหนด เนื่องจากไม่ต้องการให้ถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือกระทบกับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
**"ปู"ช่วย"พงศพัศ" มี“ปิ๊ก-แจ๊ด”โผล่แจม
อีกด้าน เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ตลาดสายเนตร ถนนรามอินทรา กิโลเมตรที่ 8 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ในนามรรคเพื่อไทย หาเสียงครั้งแรก โดยมีแกนนำพรรคร่วมหาเสียง
ขณะที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ร่วมแจกใบปลิวหาเสียง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว โดยมีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยด้วยตัวเอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวตลาดสายเนตรที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และตอนนี้ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการหาเสียง ยังต้องรอรับหมายเลขในการเลือกตั้ง ซึ่งจากนี้จะมีการชี้แจงนโยบายต่อไป ส่วนที่นางปวีณา มาช่วยหาเสียงด้วยนั้น เนื่องจากอยากให้ผู้มีประสบการณ์และมีความเข้าใจปัญหา กทม. มาช่วยงาน และนางปวีณา ก็อยู่ในวงการนี้มานาน เข้าใจในพื้นที่ ก็อยากได้ให้มาแนะนำปัญหาที่แท้จริงให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ เพื่อนำไปเสนอนโยบายให้คน กทม.ต่อไป ส่วนการเปิดตัวทีมรองผู้ว่า กทมฯ พรรคเพื่อไทยมีทีมงานและทีมที่ปรึกษาที่ใหญ่ อาจจะไม่เปิดตัวเป็นทีมรองผู้ว่า ในตอนนี้
“ขอให้เรียกว่าเป็นการขอโอกาสมากกว่า เพราะพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยมีโอกาสมีรับใช้ประชาชนในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และทางพรรคก็ทำงานในพื้นที่มานาน สิ่งสำคัญในโยบายที่อยากเสนอ คือ การทำงานร่วมกับรัฐบาล อย่างไร้รอยต่อ”
ส่วนข้อห่วงใยการใส่ร้ายป้ายสีระหว่างหาเสียงนั้น เชื่อว่า ทางพล.ต.อ.พงศพัศ รับทราบนโยบายอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนอยากให้การเลือกตั้งและการหาเสียงในครั้งนี้ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สำหรับการที่พรรคเพื่อไทยวางตัว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ในการช่วยเรื่องการเลือกตั้ง แต่กลับไม่มาร่วมเปิดตัวนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ติดภารกิจ และที่จริงแล้ว ท่านก็ให้คำแนะนำอยู่ตลอด เชื่อว่าวันหนึ่งท่านก็มาอยู่แล้ว เพราะมีความห่วงใยผูกพันและทำงานร่วมกันมาตลอด
**"พงศพัศ"บุกกกต.กทม.ชี้บริสุทธิ์ทุกกรณี
ช่วงบ่าย พล.ต.อ.พงศพัศ ได้เข้ายื่นเอกสารเกี่ยวกับผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีเคยถูกกล่าวหาว่าต้องคดีขโมยวิทยุ ที่สหรัฐฯ และเอกสารเกี่ยวกับการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต. รวมทั้งเอกสารการเปลี่ยนชื่อจาก “ไพรัช” เป็น “พงศพัศ” ต่อพล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวยืนยันว่า กรณีที่เป็นข่าวว่าตนมีปัญหาในเรื่องของคุณสมบัติการลงสมัครจาก 2 ประเด็นดังกล่าวนั้น เห็นว่าเป็นการคาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยในเรื่องที่กล่าวหาว่าเคยต้องคดีขโมยวิทยุ ข้อเท็จจริงมีการกล่าวหาเรื่องนี้เมื่อปี 2541 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จในปี 2543 โดยสั่งให้ยุติเรื่องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2543ซึ่งผลสรุปว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์
**"*ขู่มือโพตส์ระวังผิดหมิ่นประมาท
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศพล.ต.ต.นั้น ตนติดยศพ.ต.อ.ตั้งแต่ปี 2538 ในชื่อ พ.ต.อ.ไพรัช พงษ์เจริญ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพล.ต.ต.ในปี 2540 ซึ่งก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ จนปี 2541 เห็นว่าเรื่องร้ายที่เจอได้ผ่านพ้นไปแล้ว ภรรยาจึงได้ขอให้เปลี่ยนชื่อ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ “พงศพัศ ดังนั้น ที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศพล.ต.ต. จึงไม่เป็นความจริง
“ผมถูกให้ร้ายมานับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก ถือว่าให้มันผ่านๆ ไป แต่เผอิญขณะนี้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พิจารณาอยู่ว่ามีจุดอยู่บ้างที่เป็นปัญหา ผมก็ขอว่าไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้ เพราะจะนำมาให้กับ กกต. เอง เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นห่วงสื่อมวลชนและน้อง ๆ ที่ไปโพสต์ข้อความในโชเชียลเน็ตเวริ์คโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าอาจจะถูกดำเนินคดีได้ เพราะมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้คำว่าห้ามผู้ใดกระทำการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อีกทั้งขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้วเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทุกคนมีความผิด”
พล.ต.อ.พงศพัศ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องใคร เพราะคิดว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และไม่มีมูล อีกทั้งแนวนโยบายการหาเสียงก็เป็นเชิงบวก ไม่อยากใส่ร้ายใคร แต่หลังจากนี้ หากมีผู้นำเรื่องนี้มาพูด หรือเขียนถึง ก็จะรวบรวมไว้ เพราะพรรคถือว่ามีส่วนเสียหาย
**ยังไม่ลาออกรอง ผบ.ตร.-เลขา ป.ป.ส.
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งได้รับรายงานจากพล.ต.อ.พงศพัศว่าจะยื่นหนังสือลาออกจากราชการอย่างเป็นทางการ เมื่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มีประกาศรับสมัครผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะให้เหตุผลได้ว่าต้องการลาออกจากราชการเพื่อไปลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในส่วนของการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งเลขาธิการป.ป.ส. จะใช้ระเบียบการเดิม โดยมีบุคคลที่ทำหน้าที่รักษาการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากลงเลือกตั้งแล้ว พล.ต.อ.พงศพัศสามารถทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการเปิดตัวพล.ต.อ.พงศพัศ ว่าเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และได้มีการลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับ นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ลาออกจากราชการจะเป็นการขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่มีระเบียบขัดข้อง เพราะไม่ได้ใช้เวลาราชการในการไปหาเสียง
**"ยะใส"เผย"จูดี้"เจอวางยา
นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีน โพตส์ในเฟซบุ๊คว่า ทันทีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว พล.ต.อ.พงศพัศ ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ทันข้ามคืน ขบวนการเปิดโปงประวัติและเส้นทางการรับราชการตำรวจในด้านมืดก็ถูกตีแผ่อย่างกว้าขวาง
ไม่ว่าจะเป็นคดีบิ๊กขี้หลี คดีลักทรัพย์ในต่างประเทศ คดีปลอมแปลงเอกสารทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานยศ พล.ต.ต.ก่อนหน้านี้ ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ไม่ทันไร มีข้อพิพาทขึ้นใหม่ที่อาจกลายเป็นคดีจน พล.ต.อ.พงศพัศ ถูกตัดสิทธิก่อนเลือกตั้งก็เป็นไปได้เช่นกัน
นายสุริยะใส กล่าวว่า แม้พล.ต.อ.ประชา ออกมายืนยันว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ ปปส. เกิดคำถามขึ้นทันทีว่าการเปิดตัวลงสมัครผู้ว่าฯ ในขณะที่ยังรับราชการอยู่เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งหรือไม่ แม้ กกต.จะยังไม่รับสมัครอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายใช้กลไกรัฐราชการเอื้อประโยชน์หรือเอาเปรียบ กีดกันคู่แข่งขันได้ โดยเรื่องนี้ กกต.คงต้องไต่สวนและวินิจฉัยเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน แต่มีประเด็นชวนสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมพรรคเพื่อไทยกล้าเล่นเกมเสี่ยงแบบนี้ หรือว่านี่เป็น "ขบวนการวางยา" พล.ต.อ.พงศพัศ จากคนกันเอง
พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) แถลงถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า เฉพาะในวันที่ 21 ม.ค.ที่จะมีการรับสมัครในวันแรก นอกจากผู้สมัครจะต้องเตรียมหลักฐานในการยื่นสมัครแล้ว ยังต้องเตรียมรายชื่อรองผู้ว่าฯ และเลขานุการ ยื่นประกบด้วย ส่วนขั้นตอนการรับสมัครจะต้องหารือกับผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร ในกรณีที่ผู้สมัครมาก่อนเวลา 08.30 น. จะใช้วิธีการจับสลาก เพื่อเลือกหมายเลข หรือจับสลากหมายเลข ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หลังวันรับสมัครวันสุดท้าย เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.กทม. ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 70 จากที่ผ่านมาร้อยละ 50 โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ เพราะดูจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เห็นว่ามีผู้เลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิ์ถึงกว่า 3 ล้านคน ครั้งนี้ จึงน่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งก่อน
ทั้งนี้ กกต.กทม. จะระดมเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทุกสำนัก เพื่อดูแล ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยจะมีการหารือร่วมกับ กกต.กลาง วันที่ 17 ม.ค. เวลา 14.00 น. ซึ่งขอเตือนผู้สมัคร และผู้ช่วยหาเสียง ให้ระมัดระวังการวิพากวิจารณ์ หรือปราศัยโจมตีใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ที่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีการโจมตีเรื่องคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครบางคนตามสื่อต่างๆ ซึ่ง กกต.กทม. ต้องจับตา เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะ ที่มีการนำเรื่องเก่าของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มาโจมตีนั้น ขอให้พึ่งระมัดระวัง การกล่าวอ้างประวัติใดๆ ต้องระวังและตรวจสอบก่อน เพราะอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นได้ รวมถึงกรณีดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เกี่ยวกับการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความผิด ส่วนเจ้าหน้าที่ภาครัฐต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช้ตำแหน่งในการช่วยเหลือหรือโจมตีผู้สมัคร
พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยังบอกว่า ไม่หนักใจ และยินดีที่อยู่ใกล้ๆ กกต.กลาง จะได้มีผู้มาช่วยงาน เชื่อว่า กกต.ใหญ่จะไม่มาแทรกแซง และว่าที่ผู้สมัคร ตนก็รู้จักดีทุกคน เช่น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ตนก็เป็นลูกน้องเก่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ ก็เป็นเพื่อนเรียน ส่วนชายหมูก็รู้จักดี แม้กระทั่งนายวรัญชัยก็เห็นกันบ่อยในช่วงที่เคลื่อนไหวต่างๆ
**จัดสถานที่ปราศรัย15แห่งทั่วกทม.
นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกทม. กล่าวว่า ได้กำหนดสถานที่ปราศรัย ไว้ 15 แห่ง ประกอบด้วย ลานคนเมือง เขตพระนคร สวนจตุจักร เขตจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เขตจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร สวนลุมพิธี เขตปทุมวัน อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตธนบุรี สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด ศูนย์เยาวชนสะพานพระราม 9 (ฝั่งธนบุรี) เขตราษฎร์บูรณะ สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน สวนเสรีไทย เขตบังกุ่ม สวนพระนคร เขตลาดกระบัง สวนสุขภาพ เขตประเวศ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ สวนสาธารณะหน้าเดอะมอลล์บางแค เขตบางแค หากผู้สมัครรายใดมีความต้องการใช้สถานที่ในการปราศรัย สามารถติดต่อมายัง กกต. กทม.ได้
ทั้งนี้ วันที่ 1 ก.พ. จะมีการจัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ ที่ไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) เพื่อให้ผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียง รับทราบขั้นตอนและข้อกฎหมายในการหาเสียง
**ปชป.ชูนโยบาย“มหานครแห่งความสุข”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม. พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงย่านสีลม ถึงซอยละลายทรัพย์ โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม มาช่วย ซึ่งมีข่าวว่า เข้ามาลุ้นโควตารองผู้ว่า โดยมีประชาชนนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีการนำเสนอนโยบายเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายมหานครแห่งความสุข โดยจะยกระดับศูนย์ฝึกอาชีพที่มีอยู่เดิม เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่ม และรุ่นใหม่ ที่เพิ่งจบการศึกษาเข้ามาฝึกทักษะด้านต่างๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ภาษาจีน คอมพิวเตอร์ และการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ขณะเดียวกัน จะเปิดพื้นที่ให้เยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ นำไปสู่ทางเลือกการเป็นนักธุรกิจในอนาคต
ส่วนวันที่ 17 ม.ค.นี้ จะมีการหาเสียงที่ชุมชนคลองเตย โดยจะเริ่มต้นที่ชุมชน 70 ไร่ เวลา 10.00 น. เพื่อพูดถึงแนวนโยบายในการรณรงค์แก้ปัญหายาเสพติด
รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมยุทธศาสตร์หาเสียงของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะลงพื้นที่หาเสียงทุกวัน โดยภายหลังการเขียนใบสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.วันที่ 21 ม.ค.แล้ว จะมีการกำหนดแผนหาเสียงมากกว่า 1 จุด รวมทั้งพื้นที่ในเขตชานเมือง ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะโจมตีทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ทั้งเรื่องน้ำท่วม สนามฟุตซอล หรือสัญญาบีทีเอส เรื่องนี้ฝ่ายยุทธศาสตร์ได้เตรียมข้อมูลไว้แล้ว หากเพื่อไทยเริ่มเมื่อไร ก็พร้อมตอบโต้ทางการเมืองทันที
**ปชป.จวกDSIเจาะยาง“สุขุมพันธุ์
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ได้รับหนังสือจากทางดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริจาคเงินให้พรรคในขณะดำรงตำแหน่งเป็น ส.ส.ของพรรค ในลักษณะเดียวกับที่ส.ส.คนอื่นและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์โดน คือ บริจาคเงิน 2 หมื่นบาท โดยไม่ทำเป็นเช็คขีดคร่อมในนามส่วนตัว แต่ให้สภาดำเนินการแทน โดยเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันศุกร์นี้ คือ วันที่ 18 ม.ค.2556 เวลา 13.30 น. ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นผู้สมัครผู้ว่ากทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะรับสมัครในวันจันทร์นี้ แต่มีกำหนดการชัดเจนไปศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยพบพี่น้องมุสลิม เพื่อร่วมทำพิธีทางศาสนาในตอน 12.00น. บังเอิญในการที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์สอดคล้องกับจังหวะทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง จึงขอร้องว่าอย่ามีการกลั่นแกล้ง รังแก ผู้สมัครของพรรค แต่ต้องให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเท่าเทียมกัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงกรณีดีเอสไอเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวเรื่องเงินบริจาคของพรรคฯ ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ปกติก็มีการบริจาคเงินเข้าพรรค เรื่องนี้ขอให้เป็นการดำเนินการในส่วนของพรรคฯ
**“ธาริต”เบรกทีมสอบสวนเรียก
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กล่าวว่า ล่าสุดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้ตนทำหนังสือถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อแจ้งการเลื่อนกำหนด เนื่องจากไม่ต้องการให้ถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือกระทบกับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
**"ปู"ช่วย"พงศพัศ" มี“ปิ๊ก-แจ๊ด”โผล่แจม
อีกด้าน เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ตลาดสายเนตร ถนนรามอินทรา กิโลเมตรที่ 8 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ในนามรรคเพื่อไทย หาเสียงครั้งแรก โดยมีแกนนำพรรคร่วมหาเสียง
ขณะที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ร่วมแจกใบปลิวหาเสียง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว โดยมีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยด้วยตัวเอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวตลาดสายเนตรที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และตอนนี้ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการหาเสียง ยังต้องรอรับหมายเลขในการเลือกตั้ง ซึ่งจากนี้จะมีการชี้แจงนโยบายต่อไป ส่วนที่นางปวีณา มาช่วยหาเสียงด้วยนั้น เนื่องจากอยากให้ผู้มีประสบการณ์และมีความเข้าใจปัญหา กทม. มาช่วยงาน และนางปวีณา ก็อยู่ในวงการนี้มานาน เข้าใจในพื้นที่ ก็อยากได้ให้มาแนะนำปัญหาที่แท้จริงให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ เพื่อนำไปเสนอนโยบายให้คน กทม.ต่อไป ส่วนการเปิดตัวทีมรองผู้ว่า กทมฯ พรรคเพื่อไทยมีทีมงานและทีมที่ปรึกษาที่ใหญ่ อาจจะไม่เปิดตัวเป็นทีมรองผู้ว่า ในตอนนี้
“ขอให้เรียกว่าเป็นการขอโอกาสมากกว่า เพราะพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยมีโอกาสมีรับใช้ประชาชนในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และทางพรรคก็ทำงานในพื้นที่มานาน สิ่งสำคัญในโยบายที่อยากเสนอ คือ การทำงานร่วมกับรัฐบาล อย่างไร้รอยต่อ”
ส่วนข้อห่วงใยการใส่ร้ายป้ายสีระหว่างหาเสียงนั้น เชื่อว่า ทางพล.ต.อ.พงศพัศ รับทราบนโยบายอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนอยากให้การเลือกตั้งและการหาเสียงในครั้งนี้ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สำหรับการที่พรรคเพื่อไทยวางตัว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ในการช่วยเรื่องการเลือกตั้ง แต่กลับไม่มาร่วมเปิดตัวนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ติดภารกิจ และที่จริงแล้ว ท่านก็ให้คำแนะนำอยู่ตลอด เชื่อว่าวันหนึ่งท่านก็มาอยู่แล้ว เพราะมีความห่วงใยผูกพันและทำงานร่วมกันมาตลอด
**"พงศพัศ"บุกกกต.กทม.ชี้บริสุทธิ์ทุกกรณี
ช่วงบ่าย พล.ต.อ.พงศพัศ ได้เข้ายื่นเอกสารเกี่ยวกับผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีเคยถูกกล่าวหาว่าต้องคดีขโมยวิทยุ ที่สหรัฐฯ และเอกสารเกี่ยวกับการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต. รวมทั้งเอกสารการเปลี่ยนชื่อจาก “ไพรัช” เป็น “พงศพัศ” ต่อพล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวยืนยันว่า กรณีที่เป็นข่าวว่าตนมีปัญหาในเรื่องของคุณสมบัติการลงสมัครจาก 2 ประเด็นดังกล่าวนั้น เห็นว่าเป็นการคาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยในเรื่องที่กล่าวหาว่าเคยต้องคดีขโมยวิทยุ ข้อเท็จจริงมีการกล่าวหาเรื่องนี้เมื่อปี 2541 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จในปี 2543 โดยสั่งให้ยุติเรื่องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2543ซึ่งผลสรุปว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์
**"*ขู่มือโพตส์ระวังผิดหมิ่นประมาท
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศพล.ต.ต.นั้น ตนติดยศพ.ต.อ.ตั้งแต่ปี 2538 ในชื่อ พ.ต.อ.ไพรัช พงษ์เจริญ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพล.ต.ต.ในปี 2540 ซึ่งก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ จนปี 2541 เห็นว่าเรื่องร้ายที่เจอได้ผ่านพ้นไปแล้ว ภรรยาจึงได้ขอให้เปลี่ยนชื่อ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ “พงศพัศ ดังนั้น ที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศพล.ต.ต. จึงไม่เป็นความจริง
“ผมถูกให้ร้ายมานับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก ถือว่าให้มันผ่านๆ ไป แต่เผอิญขณะนี้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พิจารณาอยู่ว่ามีจุดอยู่บ้างที่เป็นปัญหา ผมก็ขอว่าไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้ เพราะจะนำมาให้กับ กกต. เอง เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นห่วงสื่อมวลชนและน้อง ๆ ที่ไปโพสต์ข้อความในโชเชียลเน็ตเวริ์คโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าอาจจะถูกดำเนินคดีได้ เพราะมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้คำว่าห้ามผู้ใดกระทำการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อีกทั้งขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้วเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทุกคนมีความผิด”
พล.ต.อ.พงศพัศ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องใคร เพราะคิดว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และไม่มีมูล อีกทั้งแนวนโยบายการหาเสียงก็เป็นเชิงบวก ไม่อยากใส่ร้ายใคร แต่หลังจากนี้ หากมีผู้นำเรื่องนี้มาพูด หรือเขียนถึง ก็จะรวบรวมไว้ เพราะพรรคถือว่ามีส่วนเสียหาย
**ยังไม่ลาออกรอง ผบ.ตร.-เลขา ป.ป.ส.
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งได้รับรายงานจากพล.ต.อ.พงศพัศว่าจะยื่นหนังสือลาออกจากราชการอย่างเป็นทางการ เมื่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มีประกาศรับสมัครผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะให้เหตุผลได้ว่าต้องการลาออกจากราชการเพื่อไปลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในส่วนของการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งเลขาธิการป.ป.ส. จะใช้ระเบียบการเดิม โดยมีบุคคลที่ทำหน้าที่รักษาการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากลงเลือกตั้งแล้ว พล.ต.อ.พงศพัศสามารถทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการเปิดตัวพล.ต.อ.พงศพัศ ว่าเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย และได้มีการลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับ นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ลาออกจากราชการจะเป็นการขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่มีระเบียบขัดข้อง เพราะไม่ได้ใช้เวลาราชการในการไปหาเสียง
**"ยะใส"เผย"จูดี้"เจอวางยา
นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีน โพตส์ในเฟซบุ๊คว่า ทันทีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว พล.ต.อ.พงศพัศ ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ทันข้ามคืน ขบวนการเปิดโปงประวัติและเส้นทางการรับราชการตำรวจในด้านมืดก็ถูกตีแผ่อย่างกว้าขวาง
ไม่ว่าจะเป็นคดีบิ๊กขี้หลี คดีลักทรัพย์ในต่างประเทศ คดีปลอมแปลงเอกสารทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานยศ พล.ต.ต.ก่อนหน้านี้ ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ไม่ทันไร มีข้อพิพาทขึ้นใหม่ที่อาจกลายเป็นคดีจน พล.ต.อ.พงศพัศ ถูกตัดสิทธิก่อนเลือกตั้งก็เป็นไปได้เช่นกัน
นายสุริยะใส กล่าวว่า แม้พล.ต.อ.ประชา ออกมายืนยันว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ ปปส. เกิดคำถามขึ้นทันทีว่าการเปิดตัวลงสมัครผู้ว่าฯ ในขณะที่ยังรับราชการอยู่เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งหรือไม่ แม้ กกต.จะยังไม่รับสมัครอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายใช้กลไกรัฐราชการเอื้อประโยชน์หรือเอาเปรียบ กีดกันคู่แข่งขันได้ โดยเรื่องนี้ กกต.คงต้องไต่สวนและวินิจฉัยเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน แต่มีประเด็นชวนสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมพรรคเพื่อไทยกล้าเล่นเกมเสี่ยงแบบนี้ หรือว่านี่เป็น "ขบวนการวางยา" พล.ต.อ.พงศพัศ จากคนกันเอง
