ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ยะลาป่วน คนร้าลอบยิงชาวบ้านตาย 2 ศพ พร้อมตระเวนลอบเผากล้องวงจรปิดใน 7 อำเภอ เสียหาย 76 ตัว ถูกขโมยไปอีก 3 ตัว "ผบก.ยะลา" เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่บ่งบอกอาจเตรียมการก่อเหตุใหญ่ในพื้นที่ทั้งจังหวัด แจ้งเตือนเฝ้าระวังรถต้องสงสัยและการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ชายแดนใต้และ 4 อำเภอของสงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาระหว่าง 04.00-05.00 น.ของวานนี้ (14 ม.ค.) กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้กระจายกำลังก่อเหตุตามพื้นที่ต่างๆ ใน 7 อำเภอของ จ.ยะลา ด้วยการลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิดจนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 07.30 น. พ.ต.ท.สุจริต วงษาเกศ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน ภ.จว.ยะลา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้เข้าตรวจสอบตามจุดที่เกิดเหตุต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณริมถนนสายท่าสาป-ลำใหม่ ปากทางเข้าศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชยะลา ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พบกล้องวงจรปิดถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุเป็นเศษผ้าชุดน้ำมัน และยางรถจักรยานยนต์
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณสามแยกทางเข้าทางลัดลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิดเช่นกัน โดยพบเพลิงยังคงลุกไหม้สายไฟ และสายโทรศัพท์อยู่ มีกล้องวงจรปิดทั้งของเก่าและของใหม่ได้รับความเสียหาย ในที่เกิดเหตุพบเศษผ้าชุบน้ำมัน และกระป๋องบรรจุน้ำมัน
**ผบก.ยะลาชี้บอกเหตุจ้องป่วนใหญ่
พล.ต.ต.พีระ เปิดเผยว่า สำหรับช่วงปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามเป็นช่วงเวลา 03.00 น.เกิดเหตุทั้งหมด 43 จุด กล้องวงจรปิดเสียหาย 76 ตัวในพื้นที่รับผิดชอบ 9 สถานีตำรวจภูธร โดยพื้นที่ที่ค่อนข้างหนักเป็น อ.บันนังสตา ตนวิเคราะห์ว่าเหตุที่เกิดได้เกิดทั่วจังหวัด ไม่ได้เกิดในถนนเส้นใดเส้นหนึ่ง เหมือนกับการเตรียมการก่อเหตุ ลักษณะคล้ายๆ กับการปักธงคราวที่แล้ว ถ้าให้วิเคราะห์ส่วนตัวน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ ข้อที่สองน่าจะเป็นสิ่งบอกเหตุว่าน่าจะเกิดเหตุการณ์เหตุใหญ่ใน จ.ยะลาในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ จะเกิดเหตุแบบทำพร้อมกันทั่วจังหวัด
"จากการตรวจสอบ พบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพผู้ที่ก่อเหตุได้จากพื้นที่ อ.กรงปินัง และผมได้สั่งการให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกพื้นที่ว่ามีกล้องวงจรใดที่สามารถเก็บภาพคนร้ายได้อีก ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานในทันที" พล.ต.ต.พีระ กล่าว
**กล้องเสียหาย 76 ตัวหาย 3 ตัว
ด้าน พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้ข้อยุติในระดับหนึ่งว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด หรือจุดประสงค์ในการทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งในที่ประชุมได้มีการประมวลหลักฐานทั้งหมดที่เกิดขึ้น และขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมที่อยู่ในหมู่บ้าน เพราะบริเวณที่เกิดเหตุก็มีแนวร่วมอาศัยอยู่และคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่ก่อเหตุ
มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้สรุปเหตุการณ์กรณีคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิด 7 อำเภอ พบมีกล้องวงจรปิดถูกเผา 76 ตัว ลักทรัพย์กล้องวงจรปิด 3 ตัว แบ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองยะลา 4 จุด 7 ตัว สภ.ยะหา 4 จุด 7 ตัว สภ.กาบัง 6 จุด 7 ตัว สภ.บันนังสตา 11 จุด 21 ตัว สภ.โกตาบารู อ.รามัน 5 จุด 6 ตัว สภ.กรงปินัง 6 จุด 14 ตัว สภ.ลำใหม่ อ.เมือง 2 ตัว สภ.ธารโต 1 จุด 1 ตัว และ สภ.รามัน 8 จุด 14 ตัว นอกจากนั้นคนร้ายยังลอบวางเพลิงเสาโทรศัพท์ (AIS) เสียหาย 1 เสา และตู้ TOT เสียหาย 1 ตู้ ในพื้นที่ สภ.บันนังสตา ด้วย
**ยิงชาวบ้านดับ 2 ราย
วันเดียวกัน ร.ต.อ.ณฐกร มีนิม ร้อยเวร สภ.เบตง จ.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลาได้เข้าตรวจสอบศพชาย-หญิง ได้เสียชีวิตอยู่ในขนำกลางสวนยางพารา บ้านจาเราะซูซู หมู่ 4 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา ในที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนในหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งภายใน พบศพชายและหญิง รวม 2 ศพ ทราบชื่อคือนายวินัย หมั้นเรียน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 6 ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ และศพ น.ส.อำภา ภูมี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 9 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนคาร์บินหลายนัด จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งคู่มารับจ้างกรีดยางพาราอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนสาเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวนว่า เป็นเรื่องส่วนตัว หรือการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
**รวบมือวางบึ้มโอเกะในนราฯแล้ว 1
ด้าน น.ท.ธรรมนูญ วรรณา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 นำกำลังรวม 30 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ได้สนธิกำลังร่วมกับ ฉก.นราธิวาส 32 และ ฉก.นราธิวาส 33 จนสามารถรวบตัวนายการียา ปิ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มคนร้ายทั้งหมด 5 คน ที่ร่วมก่อเหตุยิงก่อนวาง จยย.บอมป์ที่ร้านน้องนัทคาราโอเกะและร้านขายอาหารตามสั่ง ซึ่งตั้งอยู่ ม.13 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.56 ที่ผ่านมา
น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้นำกำลังบุกจู่โจมจับกุมเนื่องจากติดตามความเคลื่อนไหวของนายการียาและพวกอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจับกุมได้ขณะกบดานในบ้านพักที่ ต.ลูโบ๊ะบือซา อ.ยี่งอ
จากการควบคุมตัวมาทำการซักถามขยายผล นายการียาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ชี้เป้าและทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติกับกลุ่มแนวร่วมอีก 4 คนซึ่งทำหน้าที่ทั้งเป็นผู้ขี่รถ จยย.บอมป์ จุดชนวนระเบิดและดูต้นทาง ได้แก่ นาย อาเซ็ม บือราเฮง นายมะรอมือลี กาแจกาซอ ส่วนอีก 2 คน ขณะนี้รู้ตัวแล้วเช่นกันว่าเป็นใคร ล่าสุดทั้งหมดกบดานอยู่ที่ ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาระหว่าง 04.00-05.00 น.ของวานนี้ (14 ม.ค.) กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้กระจายกำลังก่อเหตุตามพื้นที่ต่างๆ ใน 7 อำเภอของ จ.ยะลา ด้วยการลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิดจนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 07.30 น. พ.ต.ท.สุจริต วงษาเกศ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน ภ.จว.ยะลา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้เข้าตรวจสอบตามจุดที่เกิดเหตุต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณริมถนนสายท่าสาป-ลำใหม่ ปากทางเข้าศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชยะลา ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พบกล้องวงจรปิดถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุเป็นเศษผ้าชุดน้ำมัน และยางรถจักรยานยนต์
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณสามแยกทางเข้าทางลัดลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิดเช่นกัน โดยพบเพลิงยังคงลุกไหม้สายไฟ และสายโทรศัพท์อยู่ มีกล้องวงจรปิดทั้งของเก่าและของใหม่ได้รับความเสียหาย ในที่เกิดเหตุพบเศษผ้าชุบน้ำมัน และกระป๋องบรรจุน้ำมัน
**ผบก.ยะลาชี้บอกเหตุจ้องป่วนใหญ่
พล.ต.ต.พีระ เปิดเผยว่า สำหรับช่วงปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามเป็นช่วงเวลา 03.00 น.เกิดเหตุทั้งหมด 43 จุด กล้องวงจรปิดเสียหาย 76 ตัวในพื้นที่รับผิดชอบ 9 สถานีตำรวจภูธร โดยพื้นที่ที่ค่อนข้างหนักเป็น อ.บันนังสตา ตนวิเคราะห์ว่าเหตุที่เกิดได้เกิดทั่วจังหวัด ไม่ได้เกิดในถนนเส้นใดเส้นหนึ่ง เหมือนกับการเตรียมการก่อเหตุ ลักษณะคล้ายๆ กับการปักธงคราวที่แล้ว ถ้าให้วิเคราะห์ส่วนตัวน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ ข้อที่สองน่าจะเป็นสิ่งบอกเหตุว่าน่าจะเกิดเหตุการณ์เหตุใหญ่ใน จ.ยะลาในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ จะเกิดเหตุแบบทำพร้อมกันทั่วจังหวัด
"จากการตรวจสอบ พบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพผู้ที่ก่อเหตุได้จากพื้นที่ อ.กรงปินัง และผมได้สั่งการให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกพื้นที่ว่ามีกล้องวงจรใดที่สามารถเก็บภาพคนร้ายได้อีก ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานในทันที" พล.ต.ต.พีระ กล่าว
**กล้องเสียหาย 76 ตัวหาย 3 ตัว
ด้าน พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้ข้อยุติในระดับหนึ่งว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด หรือจุดประสงค์ในการทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งในที่ประชุมได้มีการประมวลหลักฐานทั้งหมดที่เกิดขึ้น และขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมที่อยู่ในหมู่บ้าน เพราะบริเวณที่เกิดเหตุก็มีแนวร่วมอาศัยอยู่และคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่ก่อเหตุ
มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้สรุปเหตุการณ์กรณีคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิด 7 อำเภอ พบมีกล้องวงจรปิดถูกเผา 76 ตัว ลักทรัพย์กล้องวงจรปิด 3 ตัว แบ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองยะลา 4 จุด 7 ตัว สภ.ยะหา 4 จุด 7 ตัว สภ.กาบัง 6 จุด 7 ตัว สภ.บันนังสตา 11 จุด 21 ตัว สภ.โกตาบารู อ.รามัน 5 จุด 6 ตัว สภ.กรงปินัง 6 จุด 14 ตัว สภ.ลำใหม่ อ.เมือง 2 ตัว สภ.ธารโต 1 จุด 1 ตัว และ สภ.รามัน 8 จุด 14 ตัว นอกจากนั้นคนร้ายยังลอบวางเพลิงเสาโทรศัพท์ (AIS) เสียหาย 1 เสา และตู้ TOT เสียหาย 1 ตู้ ในพื้นที่ สภ.บันนังสตา ด้วย
**ยิงชาวบ้านดับ 2 ราย
วันเดียวกัน ร.ต.อ.ณฐกร มีนิม ร้อยเวร สภ.เบตง จ.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลาได้เข้าตรวจสอบศพชาย-หญิง ได้เสียชีวิตอยู่ในขนำกลางสวนยางพารา บ้านจาเราะซูซู หมู่ 4 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา ในที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนในหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งภายใน พบศพชายและหญิง รวม 2 ศพ ทราบชื่อคือนายวินัย หมั้นเรียน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 6 ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ และศพ น.ส.อำภา ภูมี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 9 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนคาร์บินหลายนัด จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งคู่มารับจ้างกรีดยางพาราอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนสาเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวนว่า เป็นเรื่องส่วนตัว หรือการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
**รวบมือวางบึ้มโอเกะในนราฯแล้ว 1
ด้าน น.ท.ธรรมนูญ วรรณา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 นำกำลังรวม 30 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ได้สนธิกำลังร่วมกับ ฉก.นราธิวาส 32 และ ฉก.นราธิวาส 33 จนสามารถรวบตัวนายการียา ปิ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มคนร้ายทั้งหมด 5 คน ที่ร่วมก่อเหตุยิงก่อนวาง จยย.บอมป์ที่ร้านน้องนัทคาราโอเกะและร้านขายอาหารตามสั่ง ซึ่งตั้งอยู่ ม.13 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.56 ที่ผ่านมา
น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้นำกำลังบุกจู่โจมจับกุมเนื่องจากติดตามความเคลื่อนไหวของนายการียาและพวกอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจับกุมได้ขณะกบดานในบ้านพักที่ ต.ลูโบ๊ะบือซา อ.ยี่งอ
จากการควบคุมตัวมาทำการซักถามขยายผล นายการียาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ชี้เป้าและทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติกับกลุ่มแนวร่วมอีก 4 คนซึ่งทำหน้าที่ทั้งเป็นผู้ขี่รถ จยย.บอมป์ จุดชนวนระเบิดและดูต้นทาง ได้แก่ นาย อาเซ็ม บือราเฮง นายมะรอมือลี กาแจกาซอ ส่วนอีก 2 คน ขณะนี้รู้ตัวแล้วเช่นกันว่าเป็นใคร ล่าสุดทั้งหมดกบดานอยู่ที่ ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
