วานนี้(13 ม.ค.55) พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.ดุสิต กล่าวถึงกรณีซุ้มประตูทางเข้าโซนเรียนรู้อาเซียนในงานวันเด็กตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลได้ล้มทับ นางชุติมา เปลี่ยนวงค์ , ด.ช.เจษฎาพร ค่อมสิงห์ อายุ 10 ขวบ และด.ช.อนุชา ค่อมสิงห์ อายุ 7 ขวบ ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับบาดเจ็บว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำคนเจ็บแล้ว และจะเรียกบริษัทที่รับจัดงานมาสอบสวนว่าเป็นผู้ติดตั้งประตูซุ้มเองหรือว่าจ้างบริษัทรับเหมารายใดมาทำ หรือใครเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ โดยคาดว่าภายใน 1-2วันนี้จะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาสอบสวนได้
จากนี้ต้องรอการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ เหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากความประมาทของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้ามีการกระทำผิดก็ต้องแจ้งข้อหาดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยเหมือนฟ้าผ่าต้นไม้ล้มทับคนคงไม่สามารถเอาผิดได้
ด้านอาการบาดเจ็บของผู้ประสบเหตุทั้ง 3 รายที่พักอยู่ที่ โรงพยาบาลมิชชั่นนั้นพบว่า อาการของเด็กชายทั้ง 2 คนดี ขึ้นตามลำดับ โดยแพทย์ จะประเมินอาการอีกครั้งหากเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว ก็พร้อมอนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้
ขณะที่อาการของนางชุติมา แพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากแพทย์กระดูก เนื่องจากยังมีอาการเจ็บที่บริเวณกระดูกสันหลัง
ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ แพทย์จะตรวจอาการอีกครั้งหนึ่ง หากมีอาการปรกติก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนนางชุติมา ผู้เป็นแม่นั้น มีอาการผิดปรกติที่กระดูกหลัง ขณะนี้ได้ให้ยาระงับอาการอักเสบและอาการปวดของกระดูกแล้ว รวมถึงได้เอ็กซ์เรย์กระดูกหลัง ซึ่งขณะนี้รอผลการตรวจอยู่ คาดว่าจะทราบผล ซึ่งจะต้องติดตามดูแลอาการต่อไป
ส่วนค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายต่าง นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายแพทย์ กล่าวว่า ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้การดูแลอย่างเต็มที่ และบริษัทที่ได้เข้ามาทำป้ายดังกล่าวจะให้การรับผิดชอบจนกว่าทั้ง 3 คน จะหายเป็นปรกติ นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยมอบหมายให้ตนเองมาดูแลและฝากกระเช้าผลไม้มาเยี่ยม รวมถึงได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับนางชุติมาและลูกชายทั้ง 2 ในเบื้องต้นด้วย
จากนี้ต้องรอการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ เหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากความประมาทของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้ามีการกระทำผิดก็ต้องแจ้งข้อหาดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยเหมือนฟ้าผ่าต้นไม้ล้มทับคนคงไม่สามารถเอาผิดได้
ด้านอาการบาดเจ็บของผู้ประสบเหตุทั้ง 3 รายที่พักอยู่ที่ โรงพยาบาลมิชชั่นนั้นพบว่า อาการของเด็กชายทั้ง 2 คนดี ขึ้นตามลำดับ โดยแพทย์ จะประเมินอาการอีกครั้งหากเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว ก็พร้อมอนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้
ขณะที่อาการของนางชุติมา แพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากแพทย์กระดูก เนื่องจากยังมีอาการเจ็บที่บริเวณกระดูกสันหลัง
ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ แพทย์จะตรวจอาการอีกครั้งหนึ่ง หากมีอาการปรกติก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนนางชุติมา ผู้เป็นแม่นั้น มีอาการผิดปรกติที่กระดูกหลัง ขณะนี้ได้ให้ยาระงับอาการอักเสบและอาการปวดของกระดูกแล้ว รวมถึงได้เอ็กซ์เรย์กระดูกหลัง ซึ่งขณะนี้รอผลการตรวจอยู่ คาดว่าจะทราบผล ซึ่งจะต้องติดตามดูแลอาการต่อไป
ส่วนค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายต่าง นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายแพทย์ กล่าวว่า ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้การดูแลอย่างเต็มที่ และบริษัทที่ได้เข้ามาทำป้ายดังกล่าวจะให้การรับผิดชอบจนกว่าทั้ง 3 คน จะหายเป็นปรกติ นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยมอบหมายให้ตนเองมาดูแลและฝากกระเช้าผลไม้มาเยี่ยม รวมถึงได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับนางชุติมาและลูกชายทั้ง 2 ในเบื้องต้นด้วย
