วานนี้ ( 9 ม.ค.) นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมได้มีการอภิปรายในคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภารวม 24 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ของนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 (3) ประกอบมาตรา 174 (5) จากกรณีที่ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี และให้รอลงอาญา 2 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตหวยบนดินหรือไม่ เป็นครั้งที่ 2 และเห็นว่า ประเด็นข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้ว เหลือเพียงประเด็นข้อกฎหมาย จึงนัดลงมติ และนัดคู่กรณีฟังคำวินิจฉัย ในวันที่ 1 ก.พ. เวลา 14.00 น.
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาคำร้องกรณีศาลอาญา ส่งคำโต้แย้งของ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม หัวหน้าจเรตำรวจ จำเลยในคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มาตรา 36 ,37, 38 ,39 ของพ.ร.บ. ความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญา 2535 ซึ่งเป็นบทบัญญัติให้พนักงานอัยการขอต่อศาลอาญาเพื่อสั่งให้มีการสืบพยานที่มีภูมิลำเนาในต่างประเทศได้ ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 40 (2) (3) ที่เป็นบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ โดย พล.ต.ท.สมคิดเห็นว่า หากพนักงานอัยการสามารถไปสืบพยานซึ่งเป็นคนไทยที่กลับคำให้การในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย และถูกศาลออกหมายจับแต่หลบหนีไปอยู่ในต่างประเทศได้ ก็จะทำให้ตนเองไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะไม่สามารถซักค้านได้ ซึ่งที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการอภิปรายในคำร้องนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว และยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่จะลงมติวินิจฉัยแต่อย่างใด
**"วราเทพ"มั่นใจคุณสมบัติไม่ขัดรธน.
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังมั่นใจเหมือนตั้งแต่วันแรก ว่ามีเจตนาที่บริสุทธิ์ ว่าเรามีคุณสมบัติที่ครบ และกระบวนการตรวจสอบที่ทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้ดำเนินการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตนได้ทำคำชี้แจงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนหากศาลวินิจฉัยว่า ไม่ขัด จะทำให้การทำงานง่ายขึ้นหรือไม่นั้น ตั้งแต่ตนทำงานก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีผู้ร้องเรื่องคุณสมบัติ กฎหมายก็คุ้มครองอยู่แล้วว่า การร้องเรื่องคุณสมบัติ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม จะไม่กระทบกับสิ่งที่ดำเนินการไป เพราะรัฐธรรมนูญให้การคุ้มครอง
**กกต.ตั้งอนุสอบคุณสมบัติ "ก่อแก้ว"
ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า กกต.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นส.ส. ของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกคุมขัง เพราะศาลอาญาถอนประกัน ว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4) ประกอบมาตรา 101(3)และมาตรา 100 (3) ประกอบพ.ร.บ.พรรคเมืองมาตรา 8 ,19, 20 หรือไม่ และขอให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยให้ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30วัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร ได้มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในประเด็นที่มีการกล่าวหาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 55 ต่อสำนักกฎหมายและคดี
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาคำร้องกรณีศาลอาญา ส่งคำโต้แย้งของ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม หัวหน้าจเรตำรวจ จำเลยในคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มาตรา 36 ,37, 38 ,39 ของพ.ร.บ. ความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญา 2535 ซึ่งเป็นบทบัญญัติให้พนักงานอัยการขอต่อศาลอาญาเพื่อสั่งให้มีการสืบพยานที่มีภูมิลำเนาในต่างประเทศได้ ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 40 (2) (3) ที่เป็นบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ โดย พล.ต.ท.สมคิดเห็นว่า หากพนักงานอัยการสามารถไปสืบพยานซึ่งเป็นคนไทยที่กลับคำให้การในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย และถูกศาลออกหมายจับแต่หลบหนีไปอยู่ในต่างประเทศได้ ก็จะทำให้ตนเองไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะไม่สามารถซักค้านได้ ซึ่งที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการอภิปรายในคำร้องนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว และยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่จะลงมติวินิจฉัยแต่อย่างใด
**"วราเทพ"มั่นใจคุณสมบัติไม่ขัดรธน.
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังมั่นใจเหมือนตั้งแต่วันแรก ว่ามีเจตนาที่บริสุทธิ์ ว่าเรามีคุณสมบัติที่ครบ และกระบวนการตรวจสอบที่ทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้ดำเนินการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตนได้ทำคำชี้แจงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนหากศาลวินิจฉัยว่า ไม่ขัด จะทำให้การทำงานง่ายขึ้นหรือไม่นั้น ตั้งแต่ตนทำงานก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีผู้ร้องเรื่องคุณสมบัติ กฎหมายก็คุ้มครองอยู่แล้วว่า การร้องเรื่องคุณสมบัติ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม จะไม่กระทบกับสิ่งที่ดำเนินการไป เพราะรัฐธรรมนูญให้การคุ้มครอง
**กกต.ตั้งอนุสอบคุณสมบัติ "ก่อแก้ว"
ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า กกต.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นส.ส. ของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกคุมขัง เพราะศาลอาญาถอนประกัน ว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4) ประกอบมาตรา 101(3)และมาตรา 100 (3) ประกอบพ.ร.บ.พรรคเมืองมาตรา 8 ,19, 20 หรือไม่ และขอให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยให้ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30วัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร ได้มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในประเด็นที่มีการกล่าวหาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 55 ต่อสำนักกฎหมายและคดี
