ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตชด.ที่ 434 นำถุงยังชีพพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มอบแก่ชาวบ้านผู้ประสพภัยในพัทลุง ขณะที่นราธิวาสอ่วม ฝนถล่มหนักต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยทั้งจังหวัด พร้อมสั่งอพยพ ปชช.ออกจากพื้นที่เสี่ยง โรงเรียนปิดเพิ่ม ด้านผู้ว่าฯยะลาสั่งเฝ้าระวังดินถล่ม 3 อำเภอ "เบตง ธารโต บันนังสตา"
วานนี้ (26 ธ.ค.) ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านบ้านปากคลองเก่า ม.2 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พ.ต.ท.จักรพันธ์ พยัคไชยกุล ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 434 ได้นำถุงยังชีพพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มอบแก่ชาวบ้านผู้ประสพภัยน้ำท่วม ม.2 ต.มะกอกเหนือ และ ม.9 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน พร้อมทั้งมอบยารักษาโรคน้ำกัดเท้าน้ำดื่มแก่ชาวบ้านจำนวน 155 ชุด
ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมารับถุงยังชีพพระราชทานได้ทางตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 ได้นำเรือท้องแบนไปมอบให้ถึงบ้านสร้างความปลื้มปิติแก่ผู้ประสพภัยเป็นล้นพ้น
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านปากคลองเก่าทั้ง 2 หมู่บ้านระดับน้ำเริ่มทยอยลดลง แต่ยังคงท่วมสูง 1-1.20 เมตร ชาวบ้านยังคงต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออก ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นแล้วกว่า 10 ครัวเรือน เนื่องจากบ้านปากคลองเก่า เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและท่วมแต่ละครั้งต้องใช้เวลานับเดือนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงต้องยอมทิ้งร้างที่อยู่เก่าไปหาที่อยู่ใหม่
ส่วนสถานการณ์น้ำโดยภาพรวมของ จ.พัทลุงวานนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากที่ฝนได้หยุดตกลงมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีท้องฟ้าเปิดในบางพื้นที่ แต่ยังมีฝนโปรยปรายบริเวณริมเทือกเขาบรรทัด แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มริมทะเลสาบใน 2 อำเภออยู่ คือ อ.เมือง น้ำยังคงท่วมในหมู่ 2,4,5,7,9,11 ต.ชัยบุรี หมู่ 1,4,9,10, ต.พญาขันธ์ และหมู่ 7,8,11 ต.ลำปำ และ อ.ควนขนุน น้ำยังคงท่วมในหมู่ 1,2 5, ต.มะกอกเหนือ หมู่ 4,7,9, ต.พนางตุง หมู่ 9 ต.ปันแต หมู่ 6 ,7 ต.ทะเลน้อย ระดับน้ำยังคงท่วมสูง 1 เมตร ถนนในหมู่บ้านรถยังใช้การไม่ได้ชาวบ้านยังต้องใช้เรือในการเดินทาง
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาสวานนี้ ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่ราบลุ่มและบ้านเรือนของราษฎรเป็นวงกว้างปกคลุมทั้งจังหวัด ใน 13 อำเภอ ทำให้นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ต้องประกาศให้จังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยทั้งจังหวัด และได้สั่งการให้อพยพประชาชนที่ผู้ประสบภัยไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพเป็นการชั่วคราว
ส่วนสิ่งสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย ถนนถูกน้ำท่วมจนยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 13 สาย คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะ 2 แห่ง และฝายน้ำล้นถูกน้ำที่เชี่ยวกรากพัดเสียหาย 2 แห่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่อำเภอได้ระดมกำลังเร่งให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งพบว่าขณะนี้มีเด็กและคนชราเริ่มป่วยทางระบบหายใจแล้วหลายราย
ขณะที่ พ.ต.ท.วรากรณ์ ไชยเสือ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 อ.แว้ง ได้นำกำลังพล และถุงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ ลงเรือยนต์นำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้สร้างความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่ประสบภัยทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ผลพวงจากสภาวะน้ำท่วม ยังขยายผลทำให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 จำนวน 2 โรง คือโรงเรียนบ้านกอแนะเหนือ และโรงเรียนบ้านแกแม อ.ระแงะ หยุดการเรียนการสอนเพิ่มเติมจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.รวมเป็น 5 โรงเรียนและหากฝนไม่หยุดตกจะมีแนวโน้มว่าโรงเรียนอีกหลายแห่งจะทยอยปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง
ด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในส่วนของ จ.ยะลาได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเฝ้าระวังน้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานีเริ่มสูงขึ้น และบางจุดน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมสวนยางพารา
"ขณะนี้ ได้เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง และเตรียมการช่วยเหลือประชาชนแล้ว ที่ต้องเฝ้าระวังดินถล่ม คือ อำเภอเบตง อำเภอธารโต และ อำเภอบันนังสตา ซึ่งล่าสุดยังคงมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง"
วานนี้ (26 ธ.ค.) ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านบ้านปากคลองเก่า ม.2 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พ.ต.ท.จักรพันธ์ พยัคไชยกุล ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 434 ได้นำถุงยังชีพพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มอบแก่ชาวบ้านผู้ประสพภัยน้ำท่วม ม.2 ต.มะกอกเหนือ และ ม.9 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน พร้อมทั้งมอบยารักษาโรคน้ำกัดเท้าน้ำดื่มแก่ชาวบ้านจำนวน 155 ชุด
ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมารับถุงยังชีพพระราชทานได้ทางตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 ได้นำเรือท้องแบนไปมอบให้ถึงบ้านสร้างความปลื้มปิติแก่ผู้ประสพภัยเป็นล้นพ้น
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านปากคลองเก่าทั้ง 2 หมู่บ้านระดับน้ำเริ่มทยอยลดลง แต่ยังคงท่วมสูง 1-1.20 เมตร ชาวบ้านยังคงต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออก ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้อพยพไปอยู่ที่อื่นแล้วกว่า 10 ครัวเรือน เนื่องจากบ้านปากคลองเก่า เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและท่วมแต่ละครั้งต้องใช้เวลานับเดือนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงต้องยอมทิ้งร้างที่อยู่เก่าไปหาที่อยู่ใหม่
ส่วนสถานการณ์น้ำโดยภาพรวมของ จ.พัทลุงวานนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากที่ฝนได้หยุดตกลงมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีท้องฟ้าเปิดในบางพื้นที่ แต่ยังมีฝนโปรยปรายบริเวณริมเทือกเขาบรรทัด แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มริมทะเลสาบใน 2 อำเภออยู่ คือ อ.เมือง น้ำยังคงท่วมในหมู่ 2,4,5,7,9,11 ต.ชัยบุรี หมู่ 1,4,9,10, ต.พญาขันธ์ และหมู่ 7,8,11 ต.ลำปำ และ อ.ควนขนุน น้ำยังคงท่วมในหมู่ 1,2 5, ต.มะกอกเหนือ หมู่ 4,7,9, ต.พนางตุง หมู่ 9 ต.ปันแต หมู่ 6 ,7 ต.ทะเลน้อย ระดับน้ำยังคงท่วมสูง 1 เมตร ถนนในหมู่บ้านรถยังใช้การไม่ได้ชาวบ้านยังต้องใช้เรือในการเดินทาง
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาสวานนี้ ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่ราบลุ่มและบ้านเรือนของราษฎรเป็นวงกว้างปกคลุมทั้งจังหวัด ใน 13 อำเภอ ทำให้นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ต้องประกาศให้จังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยทั้งจังหวัด และได้สั่งการให้อพยพประชาชนที่ผู้ประสบภัยไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพเป็นการชั่วคราว
ส่วนสิ่งสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย ถนนถูกน้ำท่วมจนยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 13 สาย คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะ 2 แห่ง และฝายน้ำล้นถูกน้ำที่เชี่ยวกรากพัดเสียหาย 2 แห่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่อำเภอได้ระดมกำลังเร่งให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งพบว่าขณะนี้มีเด็กและคนชราเริ่มป่วยทางระบบหายใจแล้วหลายราย
ขณะที่ พ.ต.ท.วรากรณ์ ไชยเสือ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 อ.แว้ง ได้นำกำลังพล และถุงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ ลงเรือยนต์นำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้สร้างความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่ประสบภัยทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ผลพวงจากสภาวะน้ำท่วม ยังขยายผลทำให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 จำนวน 2 โรง คือโรงเรียนบ้านกอแนะเหนือ และโรงเรียนบ้านแกแม อ.ระแงะ หยุดการเรียนการสอนเพิ่มเติมจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.รวมเป็น 5 โรงเรียนและหากฝนไม่หยุดตกจะมีแนวโน้มว่าโรงเรียนอีกหลายแห่งจะทยอยปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง
ด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในส่วนของ จ.ยะลาได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเฝ้าระวังน้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานีเริ่มสูงขึ้น และบางจุดน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมสวนยางพารา
"ขณะนี้ ได้เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง และเตรียมการช่วยเหลือประชาชนแล้ว ที่ต้องเฝ้าระวังดินถล่ม คือ อำเภอเบตง อำเภอธารโต และ อำเภอบันนังสตา ซึ่งล่าสุดยังคงมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง"