ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองผู้ว่าฯนำทีมเข้าตรวจสอบความเสียหายคลังเก็บน้ำมันหล่อลื่นโตโยต้าบ้านโพธิ์ จัดทีมเอกซเรย์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมรัศมี 1 กม.รอบโรงงาน ตำรวจยังไม่ฟันธงสาเหตุ ต้องรอเก็บหลักฐานไปพิสูจน์ ผู้บริหารโตโยต้า มอเตอร์ เผยเสียหาย 50 ล้าน แต่ไม่กระทบสายการผลิต ด้านนิคมอุตสาหกรรมปลวกแดงระทึก! ไฟไหม้โรงงานผลิตเครื่องมือการแพทย์อีก
วานนี้(24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานผลิตรถยนต์บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด บริเวณคลังเก็บชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์และน้ำมันหล่อลื่นประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 2 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ห่างจากตัวโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้า(บ้านโพธิ์) ประมาณ 1 กิโลเมตร เหตุเกิดเวลา 18.50 น. วันที่ 23 ธันวาคม ส่งผลให้อาคารคลังเก็บน้ำมันหล่อลื่นพังทลายลง โดยควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้เมื่อเวลา 21.30 น. และเพลิงสงบเวลา 02.50 น.นั้น
**จังหวัดจัดทีมเอกซเรย์ผลกระทบ
นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จะแบ่งทีมทำงานเป็น 3 ทีม คือ 1.ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 2 เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ 2.ศูนย์ตรวจวิเคราะห์กรมโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ของบริษัท ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบโรงงาน ตรวจเก็บน้ำดับเพลิงมาตรวจสอบคุณภาพ รวมทั้งตรวจสอบระบบป้องกันน้ำไม่ให้ลงไปยังลำรางสาธารณะ และ 3.นายอำเภอบ้านโพธิ์ สาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท จัดชุดทำงาน 2 ชุดเข้าดูแลด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยรอบโรงงาน โดยเฉพาะทางด้านทิศใต้รวม 5 หมู่บ้าน แยกเป็นต.ลาดขวาง 4 หมู่บ้าน ต.แสนภูดาษ 1 หมู่บ้าน โดยให้ตรวจสอบว่ามีใครได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่
"เรื่องสุขภาพเราเข้าไปดูแลตั้งแต่เช้า จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ติดรั้วโรงงาน 20 หลังคาเรือน ปรากฏว่าไม่มีใครได้รับผลกระทบอะไร โดยช่วงเกิดเหตุได้กลิ่นควันบ้าง แต่อย่างไรก็เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจปูพรมในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบโรงงานทั้ง 5 หมู่บ้าน ซึ่งถือเป็น 3 ภารกิจหลัก"
**สาเหตุต้องรอทีมพิสูจน์หลักฐาน
นายบัณฑิตย์ กล่าวว่า ส่วนสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุป ซึ่งทีมพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บรายละเอียดอยู่ โดยในส่วนของบริษัทแจ้งว่าขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานทำงานอยู่ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เชิญมาให้ปากคำว่าเกิดอะไรขึ้น และได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทราบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ในที่สูง ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์และพยายามใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงไม่สามารถฉีดให้ถึงจุดต้นเพลิงได้ จึงประสานฝ่ายดับเพลิงจากโรงงานประกอบรถยนต์บ้านโพธิ์ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเข้ามาช่วย แต่กว่าจะเข้ามาถึงก็ผ่านไปกว่า 10 นาที ไฟได้โหมขึ้นเต็มพื้นที่แล้ว ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก และยังลุกลามไปค่อนข้างเร็ว เนื่องจากมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง ทั้งน้ำมันเครื่อง ลังกระดาษ ไม้พาเลท แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
พ.ต.อ.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผกก.สภ.แสนภูดาษ กล่าวว่า ตำรวจได้พยายามรวบรวมหลักฐานและพยานบุคคล ซึ่งมีรปภ. พนักงาน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อีกส่วนได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการมารวบรวมหลักฐานว่ามีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง โดยขณะนี้ได้เชิญตัวรปภ.มาสอบปากคำแล้ว ส่วนพยานภายนอกยังไม่มีใครมาแสดงตน ซึ่งสภาพแวดล้อมของโรงงานนั้นเป็นโรงงานที่ปิด ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเกือบ 19.00 น. คนงานส่วนใหญ่เลิกงานไปตั้งแต่เวลา 17.00 น. จึงไม่มีพนักงานอยู่บริเวณนี้ และด้านหน้าโรงงานก็ไม่มีประชาชนสัญจรไปมา
**เสียหาย50ล.-ไม่กระทบการผลิต
นายไพโรจน์ หิรัญเรืองรอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเซีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ชี้แจงว่า บริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ คือ คลังสำรองอะไหล่ย่อยของบริษัท พื้นที่ 1,000 ตารางเมตร เก็บสำรองน้ำมันเครื่องสำหรับรอส่งมอบให้กับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า โดยมีปริมาณสำรองเพียงแค่ 1 วันเพื่อส่งแบบวันต่อวันเท่านั้น สำหรับสิ่งที่ได้รับความเสียหายจากนอกเหนือจากตัวอาคารแล้ว ยังมีถาดรองสำหรับขนส่งอะไหล่ น้ำมันเครื่อง และรถยกจำนวน 10 คัน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ล้านบาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
**ระทึก!ไหม้"โกดัง"นิคมปลวกแดง
วันเดียวกัน เวลา 14.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท บี บราวน์ เมดดิคอล โปรดักชั่น จำกัด เลขที่ 300/32 หมู่ 1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ปลวกแดง กลุ่มควันดำพวยพุ่งสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้ในระยะไกล ต่อมา พ.ต.ท.รันทร ศิริพลพรม สารวัตรเวรสภ.ปลวกแดง รับแจ้งเหตุ จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลมาบยางพร อีสเทิร์นซีบอร์ด และจากพื้นที่ใกล้เคียงรวม 50 คันมาช่วยดับไฟ เมื่อไปถึงพบมีการอพยพคนงานออกจากโรงงานกันชุลมุน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในโรงงาน เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานระยอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงงานดังกล่าวผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มองจากภายนอกพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นโกดังเก็บเม็ดพลาสติก พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้อาคารทรุดตัวถล่มลงมา ต่อมานายวงษ์เทพ เขมวิรัตน์ นายอำเภอปลวกแดง ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด และทางโรงงานก็ไม่ได้แจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่
วานนี้(24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานผลิตรถยนต์บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด บริเวณคลังเก็บชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์และน้ำมันหล่อลื่นประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 2 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ห่างจากตัวโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้า(บ้านโพธิ์) ประมาณ 1 กิโลเมตร เหตุเกิดเวลา 18.50 น. วันที่ 23 ธันวาคม ส่งผลให้อาคารคลังเก็บน้ำมันหล่อลื่นพังทลายลง โดยควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้เมื่อเวลา 21.30 น. และเพลิงสงบเวลา 02.50 น.นั้น
**จังหวัดจัดทีมเอกซเรย์ผลกระทบ
นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จะแบ่งทีมทำงานเป็น 3 ทีม คือ 1.ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 2 เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ 2.ศูนย์ตรวจวิเคราะห์กรมโรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ของบริษัท ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบโรงงาน ตรวจเก็บน้ำดับเพลิงมาตรวจสอบคุณภาพ รวมทั้งตรวจสอบระบบป้องกันน้ำไม่ให้ลงไปยังลำรางสาธารณะ และ 3.นายอำเภอบ้านโพธิ์ สาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท จัดชุดทำงาน 2 ชุดเข้าดูแลด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยรอบโรงงาน โดยเฉพาะทางด้านทิศใต้รวม 5 หมู่บ้าน แยกเป็นต.ลาดขวาง 4 หมู่บ้าน ต.แสนภูดาษ 1 หมู่บ้าน โดยให้ตรวจสอบว่ามีใครได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่
"เรื่องสุขภาพเราเข้าไปดูแลตั้งแต่เช้า จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ติดรั้วโรงงาน 20 หลังคาเรือน ปรากฏว่าไม่มีใครได้รับผลกระทบอะไร โดยช่วงเกิดเหตุได้กลิ่นควันบ้าง แต่อย่างไรก็เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจปูพรมในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบโรงงานทั้ง 5 หมู่บ้าน ซึ่งถือเป็น 3 ภารกิจหลัก"
**สาเหตุต้องรอทีมพิสูจน์หลักฐาน
นายบัณฑิตย์ กล่าวว่า ส่วนสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุป ซึ่งทีมพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บรายละเอียดอยู่ โดยในส่วนของบริษัทแจ้งว่าขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานทำงานอยู่ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เชิญมาให้ปากคำว่าเกิดอะไรขึ้น และได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทราบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ในที่สูง ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์และพยายามใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงไม่สามารถฉีดให้ถึงจุดต้นเพลิงได้ จึงประสานฝ่ายดับเพลิงจากโรงงานประกอบรถยนต์บ้านโพธิ์ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเข้ามาช่วย แต่กว่าจะเข้ามาถึงก็ผ่านไปกว่า 10 นาที ไฟได้โหมขึ้นเต็มพื้นที่แล้ว ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก และยังลุกลามไปค่อนข้างเร็ว เนื่องจากมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง ทั้งน้ำมันเครื่อง ลังกระดาษ ไม้พาเลท แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
พ.ต.อ.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผกก.สภ.แสนภูดาษ กล่าวว่า ตำรวจได้พยายามรวบรวมหลักฐานและพยานบุคคล ซึ่งมีรปภ. พนักงาน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อีกส่วนได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการมารวบรวมหลักฐานว่ามีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่บ้าง โดยขณะนี้ได้เชิญตัวรปภ.มาสอบปากคำแล้ว ส่วนพยานภายนอกยังไม่มีใครมาแสดงตน ซึ่งสภาพแวดล้อมของโรงงานนั้นเป็นโรงงานที่ปิด ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเกือบ 19.00 น. คนงานส่วนใหญ่เลิกงานไปตั้งแต่เวลา 17.00 น. จึงไม่มีพนักงานอยู่บริเวณนี้ และด้านหน้าโรงงานก็ไม่มีประชาชนสัญจรไปมา
**เสียหาย50ล.-ไม่กระทบการผลิต
นายไพโรจน์ หิรัญเรืองรอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเซีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ชี้แจงว่า บริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ คือ คลังสำรองอะไหล่ย่อยของบริษัท พื้นที่ 1,000 ตารางเมตร เก็บสำรองน้ำมันเครื่องสำหรับรอส่งมอบให้กับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า โดยมีปริมาณสำรองเพียงแค่ 1 วันเพื่อส่งแบบวันต่อวันเท่านั้น สำหรับสิ่งที่ได้รับความเสียหายจากนอกเหนือจากตัวอาคารแล้ว ยังมีถาดรองสำหรับขนส่งอะไหล่ น้ำมันเครื่อง และรถยกจำนวน 10 คัน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 50 ล้านบาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
**ระทึก!ไหม้"โกดัง"นิคมปลวกแดง
วันเดียวกัน เวลา 14.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท บี บราวน์ เมดดิคอล โปรดักชั่น จำกัด เลขที่ 300/32 หมู่ 1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ปลวกแดง กลุ่มควันดำพวยพุ่งสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้ในระยะไกล ต่อมา พ.ต.ท.รันทร ศิริพลพรม สารวัตรเวรสภ.ปลวกแดง รับแจ้งเหตุ จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลมาบยางพร อีสเทิร์นซีบอร์ด และจากพื้นที่ใกล้เคียงรวม 50 คันมาช่วยดับไฟ เมื่อไปถึงพบมีการอพยพคนงานออกจากโรงงานกันชุลมุน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในโรงงาน เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานระยอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงงานดังกล่าวผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มองจากภายนอกพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นโกดังเก็บเม็ดพลาสติก พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้อาคารทรุดตัวถล่มลงมา ต่อมานายวงษ์เทพ เขมวิรัตน์ นายอำเภอปลวกแดง ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด และทางโรงงานก็ไม่ได้แจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่