xs
xsm
sm
md
lg

ฝนถล่มพัทลุงดับแล้ว1 เหนือ-อีสานหนาวจัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พายุฝนถล่มใต้น้ำป่าทะลักท่วมเมืองพัทลุง ต้นยางล้มทับชาวบ้านดับ 1 ราย ชาวบ้าน 970 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนหนัก ขณะทหารช่างที่ 402 พร้อมกำลังพลลงพื้นที่เร่งอพยพสิ่งของ สัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน ด้านตัวเมืองนครศรีโดนแล้ว พายุ "หัวด้วน" พัดถล่มหมู่บ้านหรูหลังคาพังยับนับสิบหลัง อุตุฯเตือนใต้ 8 จังหวัดระวังอันตรายช่วง 23-25 ธ.ค. ส่วนภาคเหนือ-อีสานอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาฯ

วานนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันใน จ.พัทลุง ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน สวนยางพารา และนาข้าว สวนปาล์ม โดยมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตรในพื้นที่ ม.5, 11 ต.ชะรัด อ.กงหรา ม.2, 3, 6, 8, 11 ต.นาโหนด อ.เมือง ซึ่งกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว และมีปริมาณเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จนถึงเช้าวันที่ 23 ธ.ค.ระดับน้ำยังไม่ลดลงทำให้ถนนในหมู่บ้านรอยต่อ ม.8,3 และ ม.2 ต.นาโหนด ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ ต้องเดินลุยน้ำออกมาซื้อสิ่งของด้านนอกกันอย่างทุลักทุเล โดยมีชาวบ้าน 970 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

ส่วนระดับน้ำในคลองนาท่อม ที่ไหลผ่านมาจาก อ.ศรีนครินทร์ น้ำเพิ่มสูงขึ้นและได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว สวนยางพารา บ้านเรือนในที่ลุ่ม ม.5-7 ต.ปรางหมู่ ม.4, 5, 7, 9, 10, 11 ต.ชัยบุรี ม.4, 9, 10 ต.พญาขันธ์ และ ม.11 ต.ลำปำ อ.เมือง ส่วนน้ำที่ไหลผ่านฝายท่าแนะ อ.ศรีบรรพต ล้นสปริงเวย์เข้าท่วมพื้นที่ด้านล่างของฝายในหมู่ 2 ต.มะกอกเหนือ ม.4, 9 ต.พะนางตุง ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30 ซม.ทำให้ชาวบ้านเริ่มได้รับผลกระทบแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ ขณะที่เกิดฝนตกหนักและลมแรงในช่วงเช้าทำให้ต้นยางพาราล้มทับชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย คือนางนงเยาว์ เทียบพุฒ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 ม.7 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด ขณะเกิดเหตุผู้ตายเดินอยู่บริเวณหลังบ้านแล้วต้นยางพาราล้มทับตรงแผ่นหลังจนเสียชีวิต

**กำลังพลลงพื้นที่เร่งอพยพชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเดิมเมื่อช่วงเย็นวานนี้อีกว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.พัทลุง ยังคงน่าเป็นห่วง ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไฟฟ้าในเขตเทศบาลเมืองดับทั่วเมืองนานกว่า 1 ชั่วโมง ในขณะที่น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดใน อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ ยังคงไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สวนยางพารา และนาข้าว สวนปาล์มโดยมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร

โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ชะรัด อ.กงหรา ต.นาโหนด ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี ต.พญาขันธ์ และ ต.ลำปำ อ.เมือง ต.มะกอกเหนือ ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน ต.โคกม่วง ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน ทำให้ชาวบ้านพื้นที่ดังกล่าวต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากตลอดเวลา ในขณะที่ชาวบ้านหมู่ 11 ต.นาโหนด อ.เมือง 3 ครอบครัว ต้องเร่งอพยพไปอาศัยบ้านญาติเป็นการด่วน เนื่องจากบ้านเรือนมีน้ำไหลผ่าน และแรงมาก

ขณะที่กองพันทหารช่างที่ 402 พร้อมกำลังพล ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2, 8, 11 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง หลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 350 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ทั้งสวนยางพารา นาข้าว สวนไม้ผล และสวนปาล์มน้ำมัน มากกว่า 3,000 ไร่

**พายุ"หัวด้วน"ถล่มเมืองคอนบ้านพัง

ที่ จ.นครศรีธรรมราช ฝนยังคงตกมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองสายต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน พื้นที่ป่าเขาตลอดแนวเทือกเขาหลวง ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักเช่นเดียวกัน บางจุดฝนที่ปกคลุมนั้นไม่สามารถมองเห็นยอดเขาไปจากพื้นล่างได้ น้ำในลำธารสายต่างๆ ไหลแรงขึ้น เพิ่มระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่มีปรากฏการณ์น้ำป่าไหลหลาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นต่างๆ ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวัง โดยเฉพาะภาวะน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ส่วนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดพายุ "หางหนู" หรือพายุ "หัวด้วน" พัดถล่มหมู่บ้านสุวรรณภูมิ ริมถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ต.ปากพูน อ.เมืองฯ ทำให้หลังคาบ้านที่ปลูกสร้างอย่างดีถูกพัดปลิวแตกกระจัดกระจาย ต้นไม้ล้ม และยังมีบานอะลูมินัมจากโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ที่อยู่ใกล้กันปลิวข้ามอาคาร 3 ชั้นมาตกอยู่ในสวนหย่อมหมู่บ้านดังกล่าวเสียหายยับเยิน

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ชาวหมู่บ้านต้องเร่งอพยพสิ่งของออกมาไว้ในที่ปลอดภัย เนื่องจากหลังคาได้รับความเสียหายอย่างหนัก และฝนตกอย่างต่อเนื่อง

**เตือนใต้ฝนถล่ม เหนือ-อีสานหนาว

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนสภาพอากาศวานนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค.ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาฯกับมีลมแรง โดยในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 16 องศาฯในหลายพื้นที่ บริเวณยอดเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ นื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง

ขณะเดียวกันมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค.

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป ควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น