xs
xsm
sm
md
lg

เหนือหนาวติดลบ ใต้น้ำป่า-หินถล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ดอยอินทนนท์" หนาวจัด อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ 1 องศา ส่งผลทำให้เกิด "น้ำค้างแข็ง" อีกรอบ จนสองข้างทางขาวโพลนยาวถึงยอดดอย ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายพันแห่ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกคึกคัก ด้านเมืองพ่อขุนหนาวยะเยือกทั้งวันทั้งคืน ส่วนพัทลุงก้อนหินภูเขาคูหาสวรรค์ถล่มทับกุฏิพระในวัดคูหาสวรรค์ลูกศิษย์วัดเจ็บ 1 เผยยังมีกุฏิที่เสี่ยงภัยหินถล่มอีก 6 หลัง ด้าน "ชาวบ้านป่ากล้วย"สงขลา จัดเวรยามเฝ้าระวังน้ำป่าตลอด 24 ชม.หวั่นซ้ำรอยช่วงต้นปีที่ผ่านมา

เช้าวานนี้ (16 ธ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้เกิดน้ำค้างแข็ง เหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง ขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้วติดต่อกัน 3 วัน ทั้งนี้ น้ำค้างแข็งที่เกิดขึ้นในวันนี้มีปริมาณมากกว่าเห็นได้ชัด โดยเกิดขึ้นตั้งแต่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน กิโลเมตรที่ 44 จนถึงยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งทั้งสองข้างทางถนนจะมีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่ตามยอดหญ้าเป็นสีขาวตลอดทาง บางช่วงมีให้เห็นต่อเนื่องเป็นทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร

สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำค้างแข็งวานนี้ รายงานข่าวระบุว่า เนื่องจากอากาศที่หนาวจัด และแห้ง กระแสลมที่นิ่ง ท้องฟ้าเปิด อุณหภูมิอากาศคืนที่ผ่านมาวัดได้ 2 องศาเซลเซียส และเช้าวานนี้วัดได้ 4 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิยอดหญ้าเช้าวันนี้วัดได้ติดลบ 1 องศาเซลเซียส ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำค้างแข็งขึ้น

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันหยุด ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวหลายพันคนทั้งที่ค้างแรมอยู่ที่ดอยอินทนนท์ และที่เพิ่งเดินทางขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ต่างตื่นเต้นและประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้พบเห็นน้ำค้างแข็ง ต่างพากันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก โดยนักท่องเที่ยวหลายคนยอมรับว่าเพิ่งเคยเห็นน้ำค้างแข็งด้วยตาตัวเอง และใกล้ชิดเช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต

ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย ตรวจวัดสภาพอากาศจาก ต.บ้านดู่ อ.เมือง อุณหภูมิต่ำสุดที่ 12.9 องศาเซลเซียส และพยากรณ์ว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งวันในรอบสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียส หรือเย็นตลอดทั้งวัน ขณะที่ตามยอดดอยอยู่ที่ 5-8 องศาเซลเซียส และคาดว่าอุณหภูมิยังจะลดลงอีกประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเช่นนี้ทำให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางไปเยือนจำนวนมาก โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ขณะที่ประชาชนทั่วไปต่างผิงไฟ และออกมาผิงแสงแดดยามเช้า

รายงานข่าวแจ้งว่า สภาพอากาศหนาวทำให้ไม้ดอกเมืองหนาวที่เทศบาลนครเชียงรายปลูกแสดงเอาไว้ภายในสวนตุง และโคมเฉลิมพระเกียรติ ถนนธนาลัย อ.เมือง เบ่งบานอย่างเต็มที่ ทำให้นักท่องเที่ยวพากันไปเที่ยวชม และถ่ายภาพกันตลอดทั้งวัน

**น้ำป่า-หินเขาถล่มใส่กุฏิพระพัทลุง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เกิดเหตุก้อนหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร ถล่มจากภูเขาคูหาสวรรค์ ลงมาทับกุฏิพระครูประสาธน์ โสภณ อายุ 99 ปี ภายในวัดคูหาสวรรค์ ซึ่งเป็นวัดพระอารามหลวง อ.เมืองพัทลุง ส่งผลให้นายชะลอ สุกแก้ว อายุ 42 ปี ลูกศิษย์วัดได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ แพทย์ต้องเย็บถึง 10 เข็ม และต้องนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลพัทลุง ส่วนพระครูประสาธน์ เจ้าของกุฏิปลอดภัย ในขณะที่ตัวกุฏิด้านหลังพังเสียหายทั้งแถบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองพัทลุง นำเชือกไปกั้นไว้เป็นเขตอันตรายห้ามเข้า ขณะที่ประชาชนจำนวนมากทยอยไปดูจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ยังพบก้อนหินดังกล่าวได้หล่นมาทับระบบส่งน้ำประปาภายในวัดเสียหาย ทางวัดต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมแซมเป็นการด่วน ทั้งยังห้ามพระสงฆ์อาศัยในกุฏิที่อยู่ในจุดเสี่ยงภัยหินถล่มอีก จำนวน 6 หลัง จนกว่าจะมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ธรณีวิทยาว่าปลอดภัย ซึ่งคาดว่า เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบจุดที่มีความเสี่ยงในวันนี้ (17 ธ.ค.)

ขณะที่เช้าวานนี้ท้องฟ้าในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังคงมืดครึ้มและมีฝนตกเป็นบางช่วง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เริ่มน่าเป็นห่วงอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัด ในอำเภอศรีนครินทร์ มวลน้ำโคลนสีแดงขุ่นและไหลแรงกำลังไหลทะลักลงมาในพื้นที่หมู่บ้านด้านล่างอย่างต่อเนื่อง โดยกระแสน้ำไหลลงมาทางลำคลองนาท่อม ผ่าน ต.บ้านนา ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ ต.นาท่อม ต.โคกชะงาย ต.ปรางหมู่ ต.พญาขันต์ ก่อนไหลลงทะเลที่ ต.ลำปำ อ.เมือง

แต่กระแสน้ำที่ไหลแรงได้เอ่อล้นออกมา ประกอบกับเส้นทางระบายน้ำรกชัฏทำให้น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ ชาวบ้านหลายสิบครัวเรือน ต้องเร่งอพยบสิ่งของสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูง เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

ในขณะที่เจ้าหน้าที่อาสมัครหมู่บ้านเฝ้าระวังป้องกันภัยดินโคลนถล่ม หรือโอโต๊ด หมู่บ้านริมป่าเทือกเขาบรรทัด ยังคงตรวจตราเฝ้าระวังน้ำป่าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวัง และคอยแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสียงภัยริมป่าเทือกเขาบรรทัด 28 หมู่บ้าน ใน อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด และ อ.ศรีบรรพต

**ชาวป่ากล้วย"สงขลา"ระวังน้ำ 24 ชม.

ส่วนในพื้นที่ จ.สงขลา จากภาวะฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านป่ากล้วย หมู่ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กว่า 40 ครัวเรือน ซึ่งบ้านเรือนตั้งอยู่เชิงเขาแก้ว ต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในลำห้วย และร่องน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก และเขาถล่มซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ม.ค.55 และเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ทาง อ.หาดใหญ่ สั่งให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ โดยเฉพาะบ้านเรือนของชาวบ้านอย่างน้อย 3 หลัง ที่ตั้งอยู่แนวลำธาร และลำห้วย ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก และเขาถล่มต่างเตรียมพร้อมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย หากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นหรือมีสีขุ่น อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านได้ช่วยกันนำก้อนหินขนาดใหญ่มาวางเป็นกำแพงเพื่อกั้น และชะลอน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาให้ลดระดับความรุนแรงลง

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดสงขลา รายงานว่า ยังไม่มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติเกิดขึ้นแต่อย่างใด และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย 6 อำเภอ ที่อยู่แนวเชิงเขาทั้ง อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย อ.คลองหอยโข่ง และ อ.รัตภูมิ จนกว่าสภาพอากาศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ.
กำลังโหลดความคิดเห็น