ASTVผู้จัดการรายวัน-“กลุ่มกรีน” ยื่น ป.ป.ช. ฟันอาญา “ยิ่งลักษณ์-ศันสนีย์-อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์- ผอ.ช่อง11” ฐานปล่อย “แม้ว” จ้อออกทีวี "เพื่อไทย"ดิ้นพร่าน อัดกลุ่มกรีนเอาเรื่องหยุมหยิมทำเป็นเรื่องใหญ่ "โอ๊ค"เดือดแทนพ่อ โพสต์ปกป้อง โยงมั่วกล่าวหาพันธมิตรฯ บุก NBT ไม่มีใครว่า เจอ "ยะใส" ตอกกลับพธม.ไปเรียกความเป็นธรรม ด้าน "แม้ว"ไม่เลิกจองเวร ส่งขี้ข้าฟ้องดะ
วานนี้ (12 ธ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินการไต่สวน ชี้มูลความผิด และดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเจตนาให้มีการแพร่ภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการ “มวยไทย วอริเออร์ส” ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา
นายจาตุรันต์กล่าวว่า ต้องการให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนผู้เกี่ยวข้อง 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เพราะบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมเข้าข่ายการเจตนาและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ภายหลังปล่อยให้มีการแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้มีสถานะหลบหนีคดีที่ศาลพิพากษาจำคุกจนถึงที่สุด กล่าวเปิดงานการแข่งขันมวย อีกทั้งข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่าไม่มีผู้เกี่ยวข้องคนใดรับทราบมาก่อนนั้น ไม่สามารถรับฟังได้ เนื่องจากรายการดังกล่าวปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการเชื่อมต่อสัญญาณจากสถานีอื่นหรือให้สถานีอื่นเชื่อมต่อสัญญาณซึ่งต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า และเมื่อรายการถ่ายทอดสดดังกล่าวเป็นการเช่าเวลาของสถานีย่อมแสดงให้เห็นว่าจะต้องมีการตรวจสอบเนื้อหารายการก่อนที่จะมีการอนุมัติ การกระทำที่ปล่อยให้มีการแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเป็นลักษณะของการสมรู้ร่วมคิดกันมาตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวในการเปิดรายการยิ่งทำให้เห็นเจตนาตั้งแต่เริ่มต้นชัดเจนว่าการถ่ายทอดดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวใส่ร้าย ทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมและปฏิเสธข้อเท็จจริงในเรื่องความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสำคัญ เหตุนี้จึงชี้ชัดว่าการกระทำของบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงสื่อมวลชน ขัดต่อกฎหมาย ขัดต่อระเบียบสำนักนายกว่าด้วยประมวลจริยธรรมของนักการเมือง พ.ศ.2551 ขณะที่ในส่วนของข้าราชการถือว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
**"เพื่อไทย"อัดกลุ่มกรีนเอาเรื่องหยุมหยิม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มกรีนยื่นหนังสือ ป.ป.ช. ว่า น่าจะเป็นแค่เกมการเมือง เพราะสังคมรู้ดีอยู่แล้วว่ากลุ่มกรีนอยู่ตรงข้ามรัฐบาลชุดนี้ และพ.ต.ท.ทักษิณมาโดยตลอด โดยการยื่นเอาผิดต่อป.ป.ช.นั้น สามารถทำได้ แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถชี้แจงได้ เพราะเรื่องนี้เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ รัฐบาลไม่ได้ไปแทรกแซงช่อง 11 ให้ใครได้ออกอากาศทั้งสิ้น แม้ว่าช่อง 11 จะเป็นสื่อของรัฐก็ตาม แต่เป็นเรื่องของเอกชนที่มาเช่าเวลาออกอากาศ
ส่วนการที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเปิดงาน ก็ไม่ได้พูดเรื่องอะไรที่เสียหาย เป็นเพียงการพูดเพื่อแสดงความจงรักภักดีและเรื่องของการกีฬาเท่านั้น ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพธรรมดาตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น กลุ่มกรีนจึงไม่ควรเอาเรื่องหยุมหยิมมาเป็นเกมการเมืองเพื่อหวังให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน สู้ไปตรวจสอบเรื่องการทุจริตผิดกฎหมายจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม อยากตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มกรีนตั้งขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าที่จะหวังผลในการตรวจสอบโครงการต่างๆ ของรัฐบาลแทนประชาชนใช่หรือไม่
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พตท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่เห็นข่าวของฝ่ายค้านและเครือข่ายของฝ่ายค้านที่แสดงความตื่นเต้นและหมกมุ่นกับการที่สถานีโทรทัศน์ช่อง11 ถ่ายทอดกิจกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากมาเก๊า ซึ่งประชาชนที่ชมรายการ ก็ได้เห็นความสวยงามของกิจกรรมแข่งขันมวยเฉลิมพระเกียรติ ทั้งยังได้รู้ว่า งานวันเฉลิมฯ 5ธ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากคนไทยในประเทศจะร่วมใจกันถวายพระพรแล้ว ยังมีคนไทยอีกกลุ่มในต่างแดนได้ร่วมถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดไม่ได้ต่อในหลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มใจ ทั้งยังเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมการต่อสู้ที่น่าภูมิใจของชาติ ไม่ว่าผู้จัดงานจะเป็นใคร ก็เป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน ตนจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดฝ่ายค้านจึงต้องตีโพยตีพายจนเกินเหตุ ทั้งยังโจมตีเรื่องคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่ รู้อยู่แก่ใจว่าคดีเหล่านั้นเกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร อีกทั้งคนสอบสวนคดีก็แต่งตั้งมาจากหัวหน้าผู้กระทำรัฐประหาร และล้วนแต่เป็นปรปักษ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ จึงเป็นการละเมิดหลักนิติธรรม ซึ่งคนทั้งโลกต่างก็รู้ว่าเป็นประเด็นการเมือง ก็มาเอาเป็นเอาตาย หมิ่นว่าเป็นนักโทษ ปล่อยให้ออกโทรทัศน์ทำไม
นอกจากนี้ การที่จะมาเอาผิดนายกฯ ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็เป็นการเหวี่ยงแห ตกเบ็ดทางกฎหมาย ทั้งๆ ที่นายกฯ ก็ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติการถ่ายทอด และการถ่ายทอดดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ เพราะเป็นกิจกรรมที่ดีงาม ดังนั้น ฝ่ายค้านและแนวร่วมต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนในประเทศนี้ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีได้อย่างเต็มที่ ฝ่ายค้านควรเอาเวลาไปตรวจสอบรัฐบาลในเรื่องอื่นจะดีกว่า ส่วนเรื่องนี้ควรจะหยุดได้แล้ว
***หวังลดกระแส ตำหนิ "กุลธน"ให้"แม้ว"จ้อ
ที่กรมประชาสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระพงษ์ โสดาศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้เชิญพ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ผู้เช่าเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยเฉลิมพระเกียรติฯ ที่มาเก๊า วันที่ 9 ธ.ค.เข้ามาชี้แจงที่กรมประชาสัมพันธ์ พร้อมตำหนิกรณีที่ปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏตัวระหว่างการถ่ายทอดสดจนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง
อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.กุลธนยอมรับว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวสิ่งที่ตามมาจะทำให้ทุกฝ่ายได้รับผลกระทบในทางสังคม พร้อมกล่าวขอโทษน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างขององค์กรที่ผ่านมายึดความถูกต้องของกฎหมาย เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชนชน และสังคมโดยรวมเป็นสำคัญ รวมถึงการดำเนินการใดๆ ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ถือเป็นสื่อของรัฐจะต้องมีความรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ หรือความขัดแย้งใดๆ ขึ้นภายในประเทศอีก
ด้านพ.ต.ท.กุลธน ได้กล่าวขอโทษน.ส.ยิ่งลักษณ์ น.ส.ศันสนีย์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยทุกคนที่ต้องถูกกระแสสังคมโจมตี
**"โอ๊ค"ร้อนป้องพ่อนักโทษโผล่ช่อง11
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ นายพานทองเเท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวhttps://www.facebook.com/#!/oakpanthongtae?fref=tsโดยระบุว่า "รูปในโพสต์นี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ TVช่อง11 (NBT) และกรมประชาสัมพันธ์ ครับ ผมอยากจะให้เปรียบเทียบเหตุการณ์ทั้ง2เหตุการณ์นี้ดู ว่าแบบไหนที่สร้างความเสียหายให้กับสถานีโทรทัศน์ช่อง11 (NBT) กันแน่
โดยในเฟซบุ๊ค มีรูปเหตุการณ์ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ร่วมกับชาวไทยนับพันคน ซึ่งอาศัยอยู่ในมาเก๊า จุดเทียนชัยถวายพระพร และนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชาร่วมกัน โดยช่อง11 ได้ถ่ายทอดสดมายังเมืองไทย ส่วนอีกรูป เป็นรูปการบุกช่อง11 ของกลุ่มพันธมิตรที่ต้องการจะยึดสถานี เพื่อถ่ายทอดสัญญาณของASTV ออกทางช่อง Free TV พร้อมทั้งระบุข้อความว่า "ลุยเอ็นบีที ม๊อบพันธมิตรนำโดยนายวัชระ เพชรทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พังประตูสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เข้าไปยึดอาคารต่างๆ"
"ผมไม่ได้ต้องการจะรื้อฟื้นว่าใครผิดใครถูกนะครับ เพียงแต่สงสัยว่าทำไมวันที่พันธมิตรบุกไปทำลายข้าวของ และขัดขวางการออกอากาศของช่อง11 ทำให้ทางสถานีเสียหายหลายล้านบาท ไม่เห็นมีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาด่าว่าให้แสดงความรับผิดชอบเลยแม้แต่รายเดียว ทั้งๆ ที่หนังสือพิมพ์ระบุว่า ผู้สมัครของพรรคฯ เป็นคนนำเองเลยด้วยซ้ำ แต่พอคุณพ่อผมถวายความจงรักภักดี แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยช่อง11ทำการถ่ายทอดสด เนื่องจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันMuay Thai Wariors ได้เช่าเวลาสถานีไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อทราบว่าคุณพ่อผมจะมามาเก๊าในช่วงเวลาเดียวกัน จึงได้เชิญเป็นประธานในพิธี ซึ่งทำให้ช่อง11 มีรายได้จากเงินค่าเช่าเวลาด้วยซ้ำ เท่านั้นแหละออกมาโวยวายกันใหญ่ จะเป็นจะตายกันให้ได้ จะว่าคุณพ่อผมไม่เคยมีภาพถ่ายทอดสด มาปรากฏที่เมืองไทย ก็ไม่น่าจะใช่นะครับ เพราะช่วงที่อยู่อังกฤษเวลาที่ทีมแมนซิตี้ลงแข่ง มักจะปรากฏภาพคุณพ่อผม ไปนั่งเชียร์อยู่ข้างสนาม บนจอถ่ายทอดสดทุกครั้ง ซึ่งแฟนบอลพรีเมียร์ลีกทุกท่าน ก็ย่อมเคยเห็นและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ในเมื่อเหตุผลที่ยกมาว่ากล่าวเพื่อโจมตีคุณพ่อผม ทั้งการใช้ช่อง11โปรโมทตัวเองฟรีๆ ก็ไม่ใช่ การถ่ายทอดสดที่มีคุณพ่อผมอยู่ในงานก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ แล้ว เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้สลิ่มแมลงสาบออกมาวิ่งกันพล่าน เหมือนโดนไบก้อนยี่ห้อทักษิณฯ แบบนี้ มันน่าจะเกิดจากอะไรครับ? ใครรู้ช่วยบอกผมหน่อยครับ?"
**ยะใสสวนบุกNBTแค่เรียกความเป็นธรรม
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน อดีตผู้สานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์เฟซบุ๊คตอบโต้กรณีนายพานทองแท้ ชี้แจงเรื่องที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเผยแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมพาดพิงถึงกลุ่มพันธมิตรเมื่อครั้งบุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีในขณะนั้น ว่า 1.คำถามเช่นนี้ย่อมแสดงว่าคุณโอ๊คเอง ก็ยอมรับว่าการถ่ายทอดสดงานที่พ่อตัวเองเปิดงานจากมาเก๊า เป็นสิ่งที่ไม่ชอบ สร้างความเสียหายไม่มากก็น้อย 2.กรณีที่ผู้ชุมนุมกับพันธมิตรฯ บางส่วนบุก NBT นั้น มีเจตนารมณ์เพื่อทวงถามและเรียกร้องความเป็นธรรมจากสถานี โดยเฉพาะการเสนอข่าวที่บิดเบือน ป้ายสีการชุมนุมและเอาแกนนำ นปช.มาจัดรายการใส่ร้ายการชุมนุมพันธมิตรฯ ข้างเดียว โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ชี้แจงหรือนำเสนอข่าวที่เป็นกลางและเป็นธรรมตามหน้าที่และจรรยาบรรณสื่อ และไม่มีการเผาหรือทำลายข้าวของสถานีแต่อย่าง มีกระจกประตูแตกเพียงบานเดียว
ต่างกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีสถานะเป็นผู้มีความผิด หลบหนีคดี ถูกพิพากษาจำคุก คดีเสร็จเด็ดขาดแล้วและหลบหนีหมายจับของศาล แต่ NBT ในฐานะที่เป็นสื่อของรัฐก่อตั้งมาจากภาษีประชาชนกลับไม่นำพา จงใจละเมิดกฎหมายและหลักปฏิบัติอันดีงาม ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐในฐานะผู้ถืออำนาจ บังคับใช้กฎหมาย แต่เลือกปฏิบัติเสียเอง ย่อมเป็นบ่อเกิดแห่งความเสียหายต่อสังคมอย่างใหญ่หลวง
กลุ่มคนที่บุก NBT ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 87 คน ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ และคุณโอ๊ค ต้องรู้ไว้ด้วยว่าผู้ต้องหาทั้ง 87 คน ไม่หลบหนีคดี มาตามนัดหมายศาลทุกนัด และทุกคนพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดไม่ว่าจะมีคำพิพากษาประการใดก็พร้อมน้อมรับ ต่างกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาจำคุก หลบหนีหมายศาล หมายจับ และยังใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมไทยเป็นระยะ
อยากถามกลับคุณโอ๊ค พานทองแท้ เช่นกันว่า ถ้าผู้ต้องหาคดี NBT ทั้ง 87 คน รณรงค์รับเงินบริจาคไปเช่าช่วงเวลาใน NBT เพื่อชี้แจงเจตนารมณ์และความบริสุทธิ์ใจของพวกเขา จะได้หรือไม่ นายกฯ กับรัฐมนตรีศันสนีย์ และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์จะอนุญาตหรือไม่
**"นช.แม้ว"ส่ง “ขี้ข้า” ฟ้องดะ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ให้ดำเนินคดีกับพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ข้อหาหมิ่นประมาท เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย กรณีการเผยแพร่คลิปเสียงตัดต่อที่อ้างอิงว่า เป็นเสียงของพ.ต.ท.ทักษิณ ระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม อพส. เมื่อวันนี่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันพ.ต.ท.ทักษิณ ได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาเดียวกันกับนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการอภิปรายไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่าคนดูไบเกี่ยวข้องกับการทุจริตของกรมเจ้าท่าในการดำเนินโครงการขุดลอกคูคลอง 7 ร่องน้ำของกระทรวงคมนาคม พร้อมกันนี้ ได้นำคลิปเสียงทั้งหมด และเอกสารการถอดเทป มอบต่อพนักงานสอบสวนเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
**ร้องกองปราบดำเนินคดี 6ตุลาการ
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัทปกรณ์ ปัญญาดี พนักงานสอบสวนชำนาญการ กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร นายเฉลิมพล เอกอุรุ นายนุรักษ์ มาประณีต นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และนายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรวม 6 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรณียกคำร้องระงับการชุมนุมของกลุ่ม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานเป็นคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ และเอกสารหลักฐานภาพถ่ายที่มีการใช้อาวุธในเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายสิงห์ทองกล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ร้องขอให้มีคำสั่งระงับการชุมนุมของกลุ่ม เสธ.อ้าย ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้อาวุธ และแก๊สน้ำตา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกจับคุมขังเป็นจำนวนมากจนเกิดความเสียหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ตนเคยนำพยานหลักฐานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีการสะสมอาวุธในบริเวณสนามม้านางเลิ้ง เพื่อใช้ในการชุมนุม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญควรจะมีคำสั่งให้ระงับการชุมนุม แต่กลับมิได้มีคำสั่งแต่อย่างใดออกมา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป