เอเจนซีส์ – สองดีเจออสซี่ที่แอบอ้างเป็นควีนเอลิซาเบธและเจ้าฟ้าชายชารล์สเพื่อหลอกถามอาการแพ้พระครรภ์ของเจ้าหญิงเคต ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรก สารภาพทั้งน้ำตาเสียใจมากกับการฆ่าตัวตายของพยาบาลที่รับโทรศัพท์
เมล เคร็ก และไมเคิล คริสเตียน สองผู้ดำเนินรายการของสถานีวิทยุ2เดย์เอฟเอ็ม ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์สถานีทีวีของแดนจิงโจ้เมื่อวันจันทร์ (10) ว่า ข่าวพยาบาลของโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 ในกรุงลอนดอน ปลิดชีวิตตนเอง ทำให้พวกเขาหัวใจสลาย
เกร็กและคริสเตียนต้องกบดานและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ภายหลังการเสียชีวิตของพยาบาล จาซินธา ซัลดันฮา ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสโจมตีพวกเขาอย่างรุนแรงทางสื่อสังคม
เกร็กบอกว่า สิ่งแรกที่เธอคิดถึงเมื่อรับรู้ข่าวนี้คือ ครอบครัวของซัลดันฮา
“ฉันจำวินาทีนั้นได้อย่างแม่นยำ เพราะไม่เคยหยุดคิดถึงได้เลยนับตั้งแต่เกิดเรื่อง จำได้ว่า คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาคือ เธอมีลูกหรือเปล่า
“ฉันอยากไปหาและสวมกอดพวกเขา และบอกว่าฉันเสียใจ ฉันหวังจริงๆ ว่า พวกเขาจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้” เกร็กกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ด้านคริสเตียนบอกว่า ความปรารถนาประการเดียวของเขาคือ ครอบครัวที่โศกเศร้าของซัลดันฮาจะได้รับกำลังใจและความรักอย่างที่สมควรจะได้รับ
ทั้งนี้ ร่างของซัลดันฮา แม่ลูกสองวัย 46 ปี ถูกพบในห้องพักพยาบาลของโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ดที่ 7 เมื่อวันศุกร์ (7) หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เธอโอนสายที่สองดีเจแอบอ้างตัวว่าเป็น พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้แก่เพื่อนพยาบาลอีกคนหนึ่ง ผู้วึ่งได้เปิดเผยรายละเอียดพระอาการแพ้ท้องของเจ้าหญิงเคต โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คลิปเสียงการสนทนาดังกล่าวซึ่งทาง 2เดย์เอฟเอ็ม นำออกอากาศซ้ำหลายรอบ กลายเป็นกระแสฮิตในอินเทอร์เน็ตและถูกนำมาถอดความตีพิมพ์ซ้ำในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
แต่ทันทีที่ข่าวการเสียชีวิตของซัลดันฮาเผยแพร่ออกไป ก็ได้สร้างความไม่พอใจรุนแรงในไซเบอร์สเปซ มีการวิจารณ์สองดีเจอย่างเผ็ดร้อนผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
ทั้งเกร็กและคริสเตียนต่างเป็นพนักงานน้องใหม่ของสถานี โดยเกร็กเข้าทำงานเมื่อเดือนมีนาคม ส่วนคริสเตียนเพิ่งทำงานได้ไม่กี่วันก่อนก่อเรื่องโทรศัพท์หลอกลวง
เกร็กเสริมว่า เธอคิดว่าคงมีคนเป็นร้อยที่พยายามทำแบบนั้น อีกทั้งไม่คิดว่า แผนการจะสำเร็จ
ทางด้านเซาธ์เทิร์น ครอสส์ ออสเตอริโอ (เอสซีเอ) บริษัทแม่ของ2เดย์เอฟเอ็ม ได้ถูกชาวออสเตรเลียกว่า 1,000 ราย ร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำของดีเจคู่นี้ที่ถูกถอดออกจากรายการทั้งคู่ ระหว่างที่หน่วยงานอิสระทำหน้าที่คุมกฎการแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียดำเนินการสอบสวน
เอสซีเอเผยว่า ได้สั่งให้สถานีวิทยุในเครือทั้งหมดยุติพฤติกรรมการโทรศัพท์แอบอ้างแล้ว
นอกจากนี้ หุ้นเอสซีเอยังร่วงลง 5% ในวันจันทร์ หลังจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่แดนจิงโจ้ถอนโฆษณาจาก 2 เดย์เอฟเอ็ม เพื่อประท้วงเหตุการณ์นี้ ขณะที่โฆษณาอื่นๆ ก็ถูกระงับไปชั่วคราว
ริส ฮอลเลอแรน ประธานบริหารเอสซีเออ้างในวันจันทร์ว่า 2 เดย์เอฟเอ็ม พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคิงเอ็ดเวิร์ดถึง 5 ครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับเทปเสียงที่สองดีเจอัดไว้ อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้บอกว่า ได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลหรือไม่ แต่ระบุว่า เทปดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากนักกฎหมายก่อนนำออกอากาศในซิดนีย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฮอลเลอแรนเสริมว่า ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา เนื่องจากปัจจุบันการโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วโลก
ขณะเดียวกัน สตีเฟน คอนรอย รัฐมนตรีสื่อสารออสเตรเลีย กล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้มงวดขึ้นว่า ทางสื่อที่เกี่ยวข้องควรยินยอมให้หน่วยงานคุมกฎดำเนินการสอบสวนไปตามกระบวนการ โดยไม่พยายามทำให้เกิดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
เมล เคร็ก และไมเคิล คริสเตียน สองผู้ดำเนินรายการของสถานีวิทยุ2เดย์เอฟเอ็ม ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์สถานีทีวีของแดนจิงโจ้เมื่อวันจันทร์ (10) ว่า ข่าวพยาบาลของโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 ในกรุงลอนดอน ปลิดชีวิตตนเอง ทำให้พวกเขาหัวใจสลาย
เกร็กและคริสเตียนต้องกบดานและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ภายหลังการเสียชีวิตของพยาบาล จาซินธา ซัลดันฮา ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสโจมตีพวกเขาอย่างรุนแรงทางสื่อสังคม
เกร็กบอกว่า สิ่งแรกที่เธอคิดถึงเมื่อรับรู้ข่าวนี้คือ ครอบครัวของซัลดันฮา
“ฉันจำวินาทีนั้นได้อย่างแม่นยำ เพราะไม่เคยหยุดคิดถึงได้เลยนับตั้งแต่เกิดเรื่อง จำได้ว่า คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาคือ เธอมีลูกหรือเปล่า
“ฉันอยากไปหาและสวมกอดพวกเขา และบอกว่าฉันเสียใจ ฉันหวังจริงๆ ว่า พวกเขาจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้” เกร็กกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ด้านคริสเตียนบอกว่า ความปรารถนาประการเดียวของเขาคือ ครอบครัวที่โศกเศร้าของซัลดันฮาจะได้รับกำลังใจและความรักอย่างที่สมควรจะได้รับ
ทั้งนี้ ร่างของซัลดันฮา แม่ลูกสองวัย 46 ปี ถูกพบในห้องพักพยาบาลของโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ดที่ 7 เมื่อวันศุกร์ (7) หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เธอโอนสายที่สองดีเจแอบอ้างตัวว่าเป็น พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้แก่เพื่อนพยาบาลอีกคนหนึ่ง ผู้วึ่งได้เปิดเผยรายละเอียดพระอาการแพ้ท้องของเจ้าหญิงเคต โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คลิปเสียงการสนทนาดังกล่าวซึ่งทาง 2เดย์เอฟเอ็ม นำออกอากาศซ้ำหลายรอบ กลายเป็นกระแสฮิตในอินเทอร์เน็ตและถูกนำมาถอดความตีพิมพ์ซ้ำในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
แต่ทันทีที่ข่าวการเสียชีวิตของซัลดันฮาเผยแพร่ออกไป ก็ได้สร้างความไม่พอใจรุนแรงในไซเบอร์สเปซ มีการวิจารณ์สองดีเจอย่างเผ็ดร้อนผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
ทั้งเกร็กและคริสเตียนต่างเป็นพนักงานน้องใหม่ของสถานี โดยเกร็กเข้าทำงานเมื่อเดือนมีนาคม ส่วนคริสเตียนเพิ่งทำงานได้ไม่กี่วันก่อนก่อเรื่องโทรศัพท์หลอกลวง
เกร็กเสริมว่า เธอคิดว่าคงมีคนเป็นร้อยที่พยายามทำแบบนั้น อีกทั้งไม่คิดว่า แผนการจะสำเร็จ
ทางด้านเซาธ์เทิร์น ครอสส์ ออสเตอริโอ (เอสซีเอ) บริษัทแม่ของ2เดย์เอฟเอ็ม ได้ถูกชาวออสเตรเลียกว่า 1,000 ราย ร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำของดีเจคู่นี้ที่ถูกถอดออกจากรายการทั้งคู่ ระหว่างที่หน่วยงานอิสระทำหน้าที่คุมกฎการแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียดำเนินการสอบสวน
เอสซีเอเผยว่า ได้สั่งให้สถานีวิทยุในเครือทั้งหมดยุติพฤติกรรมการโทรศัพท์แอบอ้างแล้ว
นอกจากนี้ หุ้นเอสซีเอยังร่วงลง 5% ในวันจันทร์ หลังจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่แดนจิงโจ้ถอนโฆษณาจาก 2 เดย์เอฟเอ็ม เพื่อประท้วงเหตุการณ์นี้ ขณะที่โฆษณาอื่นๆ ก็ถูกระงับไปชั่วคราว
ริส ฮอลเลอแรน ประธานบริหารเอสซีเออ้างในวันจันทร์ว่า 2 เดย์เอฟเอ็ม พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคิงเอ็ดเวิร์ดถึง 5 ครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับเทปเสียงที่สองดีเจอัดไว้ อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้บอกว่า ได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลหรือไม่ แต่ระบุว่า เทปดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากนักกฎหมายก่อนนำออกอากาศในซิดนีย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฮอลเลอแรนเสริมว่า ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา เนื่องจากปัจจุบันการโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วโลก
ขณะเดียวกัน สตีเฟน คอนรอย รัฐมนตรีสื่อสารออสเตรเลีย กล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้มงวดขึ้นว่า ทางสื่อที่เกี่ยวข้องควรยินยอมให้หน่วยงานคุมกฎดำเนินการสอบสวนไปตามกระบวนการ โดยไม่พยายามทำให้เกิดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง