วานนี้ (6ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง ก.ต.ช. ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ดูแลนโยบาย 4 ด้าน ประกอบด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ ก.ต.ช. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นกรรมการ ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านงบประมาณ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นกรรมการ ก.ต.ช. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาองค์กร และ พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็น ก.ต.ช. ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการวางและ แผนบริหารจัดการ
โดยตามขั้นตอนหลังจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมหมดวาระลง เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่เหมาะสม ด้านละ 2 ท่าน ให้กับนายกฯในฐานะประธานก.ต.ช. คัดเลือกไว้ด้านละ 1 ท่าน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ เพื่อรับรองผลการประชุม ฝ่ายเลขานุการก.ต.ช. จะเป็นผู้นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาต่อไป
อย่างไรก็ตาม องค์ประชุมวันนี้ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รมว.ยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ผบ.ตร. ที่ขาดไปคือ รมว.มหาดไทย ซึ่งติดราชการ แต่ถือว่าครบองค์ประชุม
นายกรัฐมนตรี ยังฝากที่ประชุมถึงกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการดูแลความปลอดภัยชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม การดูแลการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม ซึ่งทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อยดี ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ
ทั้งนี้ ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เตรียมนำผลการประชุมของ ก.ต.ช.ทุกครั้งผ่านมา ฝากให้ ผบ.ตร.และฝ่ายเลขานุการก.ต.ช.นั้นรวบรวมในส่วนของข้อสั่งการต่างๆ ที่ได้สั่งการไปแล้วดำเนินการให้ลุล่วงก่อนนำเสนอการประชุมในครั้งต่อไป อาทิ การพัฒนากำลังพลในเรื่องตำรวจให้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านวิชาการ และการปฏิบัติการให้ควบคู่กันไป ไม่ใช่แค่ถนัดแค่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือการพัฒนาการอบรมเจ้าหน้าตำรวจที่จะอบรมถึงวันที่ 30 เม.ย.56 รวมทั้งการจัดส่งกำลังพลลงไปในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งนายกฯได้เป็นห่วงและได้ฝากให้ดำเนินการอย่างครบถ้วน
โดยตามขั้นตอนหลังจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมหมดวาระลง เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่เหมาะสม ด้านละ 2 ท่าน ให้กับนายกฯในฐานะประธานก.ต.ช. คัดเลือกไว้ด้านละ 1 ท่าน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ เพื่อรับรองผลการประชุม ฝ่ายเลขานุการก.ต.ช. จะเป็นผู้นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาต่อไป
อย่างไรก็ตาม องค์ประชุมวันนี้ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รมว.ยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ผบ.ตร. ที่ขาดไปคือ รมว.มหาดไทย ซึ่งติดราชการ แต่ถือว่าครบองค์ประชุม
นายกรัฐมนตรี ยังฝากที่ประชุมถึงกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการดูแลความปลอดภัยชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม การดูแลการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม ซึ่งทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อยดี ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ
ทั้งนี้ ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เตรียมนำผลการประชุมของ ก.ต.ช.ทุกครั้งผ่านมา ฝากให้ ผบ.ตร.และฝ่ายเลขานุการก.ต.ช.นั้นรวบรวมในส่วนของข้อสั่งการต่างๆ ที่ได้สั่งการไปแล้วดำเนินการให้ลุล่วงก่อนนำเสนอการประชุมในครั้งต่อไป อาทิ การพัฒนากำลังพลในเรื่องตำรวจให้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านวิชาการ และการปฏิบัติการให้ควบคู่กันไป ไม่ใช่แค่ถนัดแค่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือการพัฒนาการอบรมเจ้าหน้าตำรวจที่จะอบรมถึงวันที่ 30 เม.ย.56 รวมทั้งการจัดส่งกำลังพลลงไปในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งนายกฯได้เป็นห่วงและได้ฝากให้ดำเนินการอย่างครบถ้วน