วานนี้ (2 ธ.ค.55) จากกรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่คาดการณ์ว่าพรรคเพื่อไทยจะอนุมัติส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมกับกล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ ว่า ได้มีการนำโฆษณาแฝงโดยใช้งบของราชการผ่านโครงการบ้านอุ่นรักนั้น ล่าสุด พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวนี้ผ่านสื่อเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อทาบทามให้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ส่วนโครงการดังกล่าว ยืนยันว่าทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตนทำตามหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบในฐานะข้าราชการที่ต้องปฏิบัติเพื่อความสงบสุขของประชาชน และยืนยันว่าจะทำต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หากพรรคเพื่อไทยติดต่อมาให้ลงสมัครผู้ว่าฯ จริง จะทำอย่างไร พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของ 2 ฝ่าย คือ ทางพรรค และตนเอง เป็นเรื่องของอนาคต หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องลาออกจากการรับราชการ ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดหนัก เพราะรับราชการตำรวจมาทั้งชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยากขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชนเท่านั้น
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ยังไม่ทราบกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทย ทาบทามให้ตนลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และขอทำงานในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่ได้ดำเนินการอยู่ เบื้องต้นไม่ว่าทางพรรคเพื่อไทยจะเลือกใครมาเป็นผู้สมัคร ก็จะต้องทำงานร่วมกันใน เรื่องยาเสพติดต่อไป แต่หากพรรคเพื่อไทยส่งตนลงสมัคร ก็จะต้องตัดสินใจในพื้นฐานความทุกข์ร้อนของประชาชน พร้อมยืนยันว่า การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่การเมือง และมองว่าตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ของคนต่อไป จะต้องคืนความสุขให้กับชาวกทม.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการส่งตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทย ที่มีชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่า ขณะนี้กรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานทั้ง 3 โซน แต่มีผู้แสดงความจำนงที่จะลงสมัคร 3 ราย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอ 3 โซนส่งรายชื่อมาก่อน
เมื่อ 3 โซน มาหารือแล้ว เสนอชื่อมามากกว่า 1 คน พรรคอาจจะทำโพลสำรวจคะแนนนิยมเพื่อให้ประชาชนพิจารณาแล้วพรรคค่อยพิจารณาต่อ ยืนยันพรรคจะหาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหา ซึ่งมีนโยบายพร้อมแล้ว เชื่อจะมีความพร้อมก่อนเดือน 17 ก.พ.2556 ที่จะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อทาบทามให้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ส่วนโครงการดังกล่าว ยืนยันว่าทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตนทำตามหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบในฐานะข้าราชการที่ต้องปฏิบัติเพื่อความสงบสุขของประชาชน และยืนยันว่าจะทำต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หากพรรคเพื่อไทยติดต่อมาให้ลงสมัครผู้ว่าฯ จริง จะทำอย่างไร พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของ 2 ฝ่าย คือ ทางพรรค และตนเอง เป็นเรื่องของอนาคต หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องลาออกจากการรับราชการ ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดหนัก เพราะรับราชการตำรวจมาทั้งชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยากขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชนเท่านั้น
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ยังไม่ทราบกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทย ทาบทามให้ตนลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และขอทำงานในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่ได้ดำเนินการอยู่ เบื้องต้นไม่ว่าทางพรรคเพื่อไทยจะเลือกใครมาเป็นผู้สมัคร ก็จะต้องทำงานร่วมกันใน เรื่องยาเสพติดต่อไป แต่หากพรรคเพื่อไทยส่งตนลงสมัคร ก็จะต้องตัดสินใจในพื้นฐานความทุกข์ร้อนของประชาชน พร้อมยืนยันว่า การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่การเมือง และมองว่าตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ของคนต่อไป จะต้องคืนความสุขให้กับชาวกทม.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการส่งตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทย ที่มีชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่า ขณะนี้กรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานทั้ง 3 โซน แต่มีผู้แสดงความจำนงที่จะลงสมัคร 3 ราย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอ 3 โซนส่งรายชื่อมาก่อน
เมื่อ 3 โซน มาหารือแล้ว เสนอชื่อมามากกว่า 1 คน พรรคอาจจะทำโพลสำรวจคะแนนนิยมเพื่อให้ประชาชนพิจารณาแล้วพรรคค่อยพิจารณาต่อ ยืนยันพรรคจะหาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหา ซึ่งมีนโยบายพร้อมแล้ว เชื่อจะมีความพร้อมก่อนเดือน 17 ก.พ.2556 ที่จะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
