ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-คนร้ายลอบบึ้มอีก 2 จุด ชุด รปภ.ครูในรือเสาะ ขณะเดินเท้าลาดตระเวนเส้นทาง พลทหารเจ็บ 2 ชาวบ้านโดนลูกหลง 1 และชุด รปภ.โคกโพธิ์ ขณะลาดตระเวนเจ็บอีก 2 นาย ขณะที่รถไฟในพื้นที่ชายแดนใต้เปิดให้บริการตามปกติแล้วท่ามกลางมาตรการ รปภ.เข้ม แต่ผู้โดยสารบางตา ขณะที่ทหารนราธิวาส สนธิกำลัง 3 ฝ่ายปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย รวบผู้ต้องสงสัยวางระเบิดรถไฟได้ 2 ราย ยึดอาวุธปืนอีก 3 กระบอก
เวลา 07.30 น.วานนี้ (21 พ.ย.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู ลาดตระเวนเส้นทางสังกัดร้อย ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 เหตุเกิดริมถนนภายในหมู่บ้านดือแย ม.4 ต.สาวอ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ชาวบ้านถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบที่ริมถนนมีหลุมลึก 12 นิ้ว กว้าง 6 ฟุต และเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องแบบเคโมที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 10 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้าริมทาง
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนทหารและชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขา แขน และใบหน้า อาการไม่สาหัสมากนัก ทราบชื่อ คือ 1.พลทหารอนันต์ ไหมจุ๋ย 2.พลทหารสุวัฒน์ชัย การถาง และ 3. นายตูไวยาโก๊ะ มือด๊ะ อายุ 53 ปี
สอบสวน ส.อ.อนุชา กาญจนเพ็ญ หัวหน้าชุด ร้อย ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ระดมกำลังรวม 11 นายเดินเท้าลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้คณะครูโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ใช้เป็นเส้นทางเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ตามกิจวัตรประจำวัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ และใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในขณะที่เจ้าหน้าที่เดินผ่าน ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นายและชาวบ้านที่เดินผ่านมาถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้แก่เจ้าหน้าที่
ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดสะพานบ้านกูวิง ถนนสายนาเกตุ-แม่กัง ม.4 บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.2513 ฉก.ปัตตานี 24 ใช้รถยนต์หุ้มเกราะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนความปลอดภัยตามเส้นทางได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ คือ พลทหารธีระ แก้วขาว อายุ 22 ปี และพลทหารอนันต์ฟองมะนี อายุ 21 ปี มีอาการหูอื้อ และแน่นหน้าอก นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้รถได้รับความเสียหาย
ด้านการให้บริการรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งขาขึ้นและขาล่องตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา จนถึงสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เปิดให้บริการตามปกติทุกขบวนแล้วตั้งแต่วานนี้ (21 พ.ย.) หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถไฟ 453 นครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก ใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ประชาชนเริ่มกลับมาใช้บริการตามปกติ รถไฟขบวนแรกที่ออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ คือ ขบวนรถเร็วที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก เวลา 06.30 น. แต่จำนวนผู้โดยสารยังน้อยกว่าช่วงปกติ เนื่องจากยังไม่ทราบว่ารถไฟกลับมาเดินรถตามปกติแล้ว ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีกำลังตำรวจรถไฟ และ อส.พร้อมอาวุธครบมือ 7 นาย ประจำอยู่บนขบวนรถ
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกำลังทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งการลาดตระเวนเส้นทางทั้งทางบก และทางอากาศ รวมทั้งจัดกำลังดูแลบนขบวนรถจะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่ จ.ยะลา ถึง จ.นราธิวาส ซึ่งได้มีการตรวจเข้มเป็นพิเศษและต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์ และประสานด้านการข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระยะ
ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟยะลา มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการโดยสารรถไฟที่ไปยัง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เช่นกันแต่ค่อนข้างบางตา โดยเที่ยวแรกที่ออกจากสถานีรถไฟยะลาไป อ.สุไหงโก-ลก เป็นขบวนท้องถิ่น ขบวนที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ออกจาก อ.หาดใหญ่ เวลา 06.30 น.และถึงยังสถานีรถไฟยะลา ในเวลา 08.06 น. โดยสถานีต่อไปเป็นสถานี อ.รามัน และจะวิ่งไปยัง อ.สุไหงโก-ลก โดยวานนี้มีรถไฟวิ่งรับส่งผู้โดยสารทั้งสิ้น 12 ขบวน จากปกติ 14 ขบวน ซึ่ง 2 ขบวนที่หยุดวิ่งเป็นขบวนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จะลากโบกี้ที่ได้รับความเสียหาย จาก อ.รือเสาะ นำไปซ่อมแซมที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และขบวนที่ 2 ที่จะวิ่งมายังสถานีรถไฟยะลา เป็นขบวนรถเร็วกรุงเทพ-สุไหงโก-ลก คาดว่าหลังจากประชาชนทราบข่าวการให้บริการเดินรถไฟตามปกติแล้ว ก็จะมีประชาชนมาใช้บริการกันอย่างหนาแน่นเช่นเดิม
ในส่วนการรักษาความปลอดภัย ยังคงมีเจ้าหน้าที่รถไฟที่คอยตรวจสอบบุคคลที่จะเข้ามายังสถานีรถไฟยะลา นอกจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดรบพิเศษจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ อส.รถไฟ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในขบวนรถไฟ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนที่จะเดินทางไปยัง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
วันเดียวกัน พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาสที่ 30 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายกว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟจนมีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บกว่า 10 รายเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังสืบทราบเบาะแสกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว 3 ราย คือ นายอุสมาน เจ๊ะแว, นายซิ มาแซ และนายอับดุลอาแซ ซิกะ จึงได้กระจายกำลังกันเข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านพงยือติ หมู่ 9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยได้กระจายกำลังปิดล้อมกว่า 10 จุด โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 รายและยึดอาวุธปืนได้อีก 3 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืน 9 ม.ม.อีก 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบว่าเคยนำไปก่อเหตุที่ใดหรือไม่
นอกจากนี้ ช่วงเวลา 10.00 น. พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 44 ได้นำกำลังทหาร ตำรวจกว่า 300 นาย เข้าตรวจสอบโรงเรียนอัลยามีอะห์อัลอิสลามียะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.2 บ.บางมะลวด ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเราะ จ.ปัตตานี หลังก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนร้ายก่อเหตุยิงทหารพรานในพื้นที่และมีการซัดทอดถึงกลุ่มผู้ร่วมก่อการในโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ยึดเอกสาร รถจักรยานยนต์ ปุ๋ยยูเรีย และยังได้เก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ ของนักเรียน และอุสตาซที่อาศัยอยู่ภายในโรงเรียนไปตรวจสอบ พร้อมทั้งได้เชิญตัวอุสตาซ 9 คนเข้าสู่กระบวนการซักถาม และหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเพื่อขายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบโรงเรียนครั้งนี้เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบแต่อย่างใด
ขณะที่นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางมาทำความเข้าใจต่อนายดอเลาะ ฮัจยีดาโอ๊ะ เจ้าของโรงเรียน พร้อมกับบอกว่า ไม่ได้ติดใจอะไรและยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ขณะกำลังเข้าตรวจสอบภายในโรงเรียนครั้งนี้ได้มีการจัดชุดมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ โดยรอบโรงเรียน เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนให้เข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ป้องกันการสร้างเงื่อนไขและลดความหวาดละแวงต่อเจ้าหน้าที่รัฐอีกด้วย
เวลา 07.30 น.วานนี้ (21 พ.ย.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู ลาดตระเวนเส้นทางสังกัดร้อย ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 เหตุเกิดริมถนนภายในหมู่บ้านดือแย ม.4 ต.สาวอ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ชาวบ้านถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบที่ริมถนนมีหลุมลึก 12 นิ้ว กว้าง 6 ฟุต และเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องแบบเคโมที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 10 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้าริมทาง
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนทหารและชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขา แขน และใบหน้า อาการไม่สาหัสมากนัก ทราบชื่อ คือ 1.พลทหารอนันต์ ไหมจุ๋ย 2.พลทหารสุวัฒน์ชัย การถาง และ 3. นายตูไวยาโก๊ะ มือด๊ะ อายุ 53 ปี
สอบสวน ส.อ.อนุชา กาญจนเพ็ญ หัวหน้าชุด ร้อย ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ระดมกำลังรวม 11 นายเดินเท้าลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้คณะครูโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ใช้เป็นเส้นทางเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ตามกิจวัตรประจำวัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ และใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในขณะที่เจ้าหน้าที่เดินผ่าน ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นายและชาวบ้านที่เดินผ่านมาถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้แก่เจ้าหน้าที่
ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดสะพานบ้านกูวิง ถนนสายนาเกตุ-แม่กัง ม.4 บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.2513 ฉก.ปัตตานี 24 ใช้รถยนต์หุ้มเกราะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนความปลอดภัยตามเส้นทางได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ คือ พลทหารธีระ แก้วขาว อายุ 22 ปี และพลทหารอนันต์ฟองมะนี อายุ 21 ปี มีอาการหูอื้อ และแน่นหน้าอก นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้รถได้รับความเสียหาย
ด้านการให้บริการรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งขาขึ้นและขาล่องตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา จนถึงสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เปิดให้บริการตามปกติทุกขบวนแล้วตั้งแต่วานนี้ (21 พ.ย.) หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถไฟ 453 นครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก ใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ประชาชนเริ่มกลับมาใช้บริการตามปกติ รถไฟขบวนแรกที่ออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ คือ ขบวนรถเร็วที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก เวลา 06.30 น. แต่จำนวนผู้โดยสารยังน้อยกว่าช่วงปกติ เนื่องจากยังไม่ทราบว่ารถไฟกลับมาเดินรถตามปกติแล้ว ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีกำลังตำรวจรถไฟ และ อส.พร้อมอาวุธครบมือ 7 นาย ประจำอยู่บนขบวนรถ
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกำลังทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งการลาดตระเวนเส้นทางทั้งทางบก และทางอากาศ รวมทั้งจัดกำลังดูแลบนขบวนรถจะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่ จ.ยะลา ถึง จ.นราธิวาส ซึ่งได้มีการตรวจเข้มเป็นพิเศษและต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์ และประสานด้านการข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระยะ
ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟยะลา มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการโดยสารรถไฟที่ไปยัง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เช่นกันแต่ค่อนข้างบางตา โดยเที่ยวแรกที่ออกจากสถานีรถไฟยะลาไป อ.สุไหงโก-ลก เป็นขบวนท้องถิ่น ขบวนที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ออกจาก อ.หาดใหญ่ เวลา 06.30 น.และถึงยังสถานีรถไฟยะลา ในเวลา 08.06 น. โดยสถานีต่อไปเป็นสถานี อ.รามัน และจะวิ่งไปยัง อ.สุไหงโก-ลก โดยวานนี้มีรถไฟวิ่งรับส่งผู้โดยสารทั้งสิ้น 12 ขบวน จากปกติ 14 ขบวน ซึ่ง 2 ขบวนที่หยุดวิ่งเป็นขบวนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จะลากโบกี้ที่ได้รับความเสียหาย จาก อ.รือเสาะ นำไปซ่อมแซมที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และขบวนที่ 2 ที่จะวิ่งมายังสถานีรถไฟยะลา เป็นขบวนรถเร็วกรุงเทพ-สุไหงโก-ลก คาดว่าหลังจากประชาชนทราบข่าวการให้บริการเดินรถไฟตามปกติแล้ว ก็จะมีประชาชนมาใช้บริการกันอย่างหนาแน่นเช่นเดิม
ในส่วนการรักษาความปลอดภัย ยังคงมีเจ้าหน้าที่รถไฟที่คอยตรวจสอบบุคคลที่จะเข้ามายังสถานีรถไฟยะลา นอกจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดรบพิเศษจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ อส.รถไฟ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในขบวนรถไฟ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนที่จะเดินทางไปยัง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
วันเดียวกัน พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาสที่ 30 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายกว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟจนมีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บกว่า 10 รายเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังสืบทราบเบาะแสกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว 3 ราย คือ นายอุสมาน เจ๊ะแว, นายซิ มาแซ และนายอับดุลอาแซ ซิกะ จึงได้กระจายกำลังกันเข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านพงยือติ หมู่ 9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยได้กระจายกำลังปิดล้อมกว่า 10 จุด โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 รายและยึดอาวุธปืนได้อีก 3 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืน 9 ม.ม.อีก 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบว่าเคยนำไปก่อเหตุที่ใดหรือไม่
นอกจากนี้ ช่วงเวลา 10.00 น. พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 44 ได้นำกำลังทหาร ตำรวจกว่า 300 นาย เข้าตรวจสอบโรงเรียนอัลยามีอะห์อัลอิสลามียะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.2 บ.บางมะลวด ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเราะ จ.ปัตตานี หลังก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนร้ายก่อเหตุยิงทหารพรานในพื้นที่และมีการซัดทอดถึงกลุ่มผู้ร่วมก่อการในโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ยึดเอกสาร รถจักรยานยนต์ ปุ๋ยยูเรีย และยังได้เก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ ของนักเรียน และอุสตาซที่อาศัยอยู่ภายในโรงเรียนไปตรวจสอบ พร้อมทั้งได้เชิญตัวอุสตาซ 9 คนเข้าสู่กระบวนการซักถาม และหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเพื่อขายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบโรงเรียนครั้งนี้เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบแต่อย่างใด
ขณะที่นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางมาทำความเข้าใจต่อนายดอเลาะ ฮัจยีดาโอ๊ะ เจ้าของโรงเรียน พร้อมกับบอกว่า ไม่ได้ติดใจอะไรและยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ขณะกำลังเข้าตรวจสอบภายในโรงเรียนครั้งนี้ได้มีการจัดชุดมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ โดยรอบโรงเรียน เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนให้เข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ป้องกันการสร้างเงื่อนไขและลดความหวาดละแวงต่อเจ้าหน้าที่รัฐอีกด้วย