xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฯไต่สวนคดีปลด"มาร์ค" "สุกำพล"แย้มมีหลักฐานเด็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 21 พ.ย.) ศาลปกครองกลาง ได้ออกนั่งไต่สวนคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งปลด ร.ต. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการ ฐานใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหาร ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เพื่อที่ศาลจะได้นำไปพิจารณาว่า จะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวแสดงความมั่นใจก่อนการเข้าชี้แจงว่า มั่นใจในข้อมูลเอกสารที่นำมาเสนอต่อศาลในครั้งนี้
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับ พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์ ประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าวของกระทรวงกลาโหม พล.ท.พินิจ ฉัตรเสถียรพงศ์ รองเจ้ากรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม โดยพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่ต้องมาชี้แจง และมั่นใจในการมาชี้แจง หากไม่มั่นใจคงไม่มาชี้แจงด้วยตนเอง และขอยืนยันว่า การมีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ ไม่ได้กระทำเพราะลุแก่อำนาจ หรือต้องการแก้แค้น กลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยังต้องดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.สุกำพล ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงเอกสารเด็ด ที่อ้างว่าสามารถทำให้ศาลเห็นว่า การมีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ นั้นเป็นไปอย่างถูกต้องนั้น คือเอกสารอะไร
หลังการไต่สวนไม่นาน พล.อ.อ.สุกำพล ได้เดินทางกลับโดยให้ พล.อ.มล.ประสบชัย และพล.ท.พินิจ ชี้แจงต่อศาล ซึ่งศาลใช้เวลาไต่สวนนานกว่า 3 ชั่วโมง
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การไต่สวน 2 ฝ่ายครั้งนี้ เพื่อที่ศาลจะได้นำไปพิจารณาว่า จะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ โดยศาลได้ใหโอกาสทั้ง 2 ฝ่าย ยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายในวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.นี้
อย่างไรก็ตามในการชี้แจงของตนก็เป็นไปตามประเด็นที่ศาลได้ซักถาม อย่าง กรณีที่กระทรวงกลาโหม มีการอ้างพระราชบัญญัติ และข้อบังคับต่างๆ ในการดำเนินการซึ่งตนเห็นว่า มีความไม่ตรงกันของเอกสาร เพราะถ้าตรงกันก็คงไม่เป็นคดีความอย่างในขณะนี้ จึงต้องทำการชี้แจงให้ศาลได้รับทราบ ทั้งนี้ตนถือว่ากรณีนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น
ด้านพล.ท.พินิจ กล่าวว่า ทางกระทรวงกลาโหม จะส่งเอกสารเพิ่มเติมต่อศาลภายในวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นหลักฐานเดิมที่จะทำให้ศาลเกิดความกระจ่างมากยิ่งมากขึ้น รวมถึงทำให้คำให้การของ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดีมีความสมบูรณ์มากขึ้น อย่างไรก็ตามในการชี้แจงวันนี้ ก็ได้มีการยืนยันต่อศาลว่า ก่อนที่รมว.กลาโหม จะมีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ นั้นได้เปิดโอกาสให้นายอภิสิทธิ์ เข้าชี้แจงแล้ว โดยมีหนังสือเรียกให้มาชี้แจงในวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่นายอภิสิทธิ์ แจ้งว่าติดภารกิจไปต่างประเทศ ทั้งนี้ในการไต่สวนศาลไม่ได้ถามถึงข้อเท็จจริงเรื่องการหนีทหาร เพราะในชั้นนี้เป็นเพียงไต่สวนเพื่อพิจารณาว่า จะรับฟ้องคดีหรือไม่ ยังไม่ใช่การพิจารณาในเนื้อคดี

**พท.ร้องผู้ตรวจฯสอบจริยธรรม"มาร์ค"

ในวันเดียวกันนี้ นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผนดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม และคุณสมบัติของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม มีคำสั่งปลดออกจากราชการ ทำให้นายอภิสิทธิ์ ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (6)
นายสิงห์ทอง กล่าวว่า แม้จะมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง แต่เมื่อรมว.กลาโหม มีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์แล้ว ย่อมถือว่าคำสั่งนั้นมีผลต่อสมาชิกภาพส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ แต่นายอภิสิทธิ์ ยังคงอยู่ในตำแหน่ง จึงถือว่ามีปัญหาจริยธรรมในการดำรงตำแหน่งเกิดขึ้น นอกจากนี้ อยากให้ผู้ตรวจฯ เร่งตรวจสอบ และเสนอต่อประธานรัฐสภา เพราะในท้ายญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ระบุให้ นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป หากมีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นนายอภิสิทธิ์ จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
ด้านนายรักษเกชา กล่าวว่า จะเร่งเสนอคำร้องดังกล่าวให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา ซึ่งผู้ตรวจฯ มีอำนาจในเรื่องการตรวจสอบจริยธรรม แต่เรื่องคุณสมบัติส.ส. ขณะนี้กำลังเป็นข้อพิพาทกันระหว่าง นายอภิสิทธิ์ และพล.อ.อ.สุกำพล ที่มีการฟ้องต่อศาลปกครอง ผู้ตรวจฯ ก็ต้องพิจารณาว่า จำเป็นต้องหยุดดำเนินการตรวจสอบหรือไม่ เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนของศาล หรือจะสามารถดำเนินการต่อได้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ตรวจฯได้รับหนังสือคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ ที่ส่งมาพร้อมกับเอกสารชี้แจงของ รมว.กลาโหม ตามที่ก่อนหน้านี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยว่า รมว.กลาโหม ไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบกรณี นายอภิสิทธิ์ ใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหาร และแจ้งให้รมว.กลาโหมทราบ พร้อมกับขอให้รมว.กลาโหม แจ้งต่อผู้ตรวจฯ ทราบถึงการดำเนินการในระยะต่อไปของรมว.กลาโหมด้วย ซึ่งเมื่อผู้ตรวจฯ ได้รับหนังสือของรมว.กลาโหมแล้ว ก็จะได้แจ้งให้นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ยื่นคำร้องาบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น